พฤติกรรมต้องเลี่ยงเสี่ยง ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ

แน่นอนว่า ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ หากใครได้เป็นอาจทำลายความมั่นใจได้เลย เพราะการรักษากระหรือฝ้าเป็นการรักษาที่ยากมาก อีกทั้งใช้เวลานานในการรักษา หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องป้องกันจากปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำ บางทีก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้หากคุณยังคงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผิดๆ อยู่ซึ่ง 5 พฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าหากไม่อยากให้เกิดปัญหาเหล่านี้จนทำให้หมดความมั่นใจควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรม ดังนี้

  1. โดนแสงแดดบ่อย แสงแดดคือตัวการสำคัญของการเกิดฝ้า กระ เพราะแสงแดดมีรังสียูวี ทั้ง UVA และ UVB ในปริมาณที่มาก ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับเป็นจำนวนมาก อาจทำให้ร่างกายเกินอนุมูลอิสระและเกิดฝ้า กระ บนใบหน้าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งหากจะเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอหรือแต่งกายให้มิดชิดป้องกันแสงแดดกระทบผิวหนังโดยตรง
  2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ บรรดาของหวาน ของทอดและอาหารฟาสต์ฟู้ด รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันมากและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือตัวการของปัญหาผิวหน้า โดยเฉพาะฝ้า กระ เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ในร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังจนกลายเป็นปัญหาผิวได้ในที่สุด ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวพังควรหันมารับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซี วิตามินบี12 แร่ธาตุและไฟเบอร์ให้มากๆ จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ไม่เพียงเท่านั้นยังควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8–10 แก้ว ด้วยเพื่อจะได้ผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่เสียเงิน
  3. มีความเครียดสะสม ความเครียดคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดฝ้า กระ เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาส่งผลต่อการทำงานโดยรวมของร่างกายรวมทั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินจะเพิ่มมากขึ้นจนสะสมเกิดเป็นปัญหาฝ้า กระ ได้ในที่สุด ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือพยายามหาวิธีคลายเครียดจะดีกว่า
  4. รับประทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับคุณผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะยาคุมมีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่ผิวเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาคือ คนที่รับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องจะมีโอกาสเกิดฝ้า กระ ง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยรับประทานยาคุมกำเนิด ดังนั้นหากจำเป็นต้องรับประทานยาคุ้มจริงๆ ควรรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนต่ำหรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรจะดีที่สุด
  5. ใช้เครื่องสำอางผิด การใช้เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือสารปรอท นอกจากอันตรายกับสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลเสียกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากสารเหล่านี้จะส่งผลให้เม็ดสีทำงานผิดปกติจนสะสมกลายเป็นฝ้ากระได้ จึงควรระมัดระวังเรื่องการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
  6. ผิวหน้าเจอแสงแดด  แน่นอนอย่างที่เรานั้นรู้กันดีว่าแสงแดด ไม่เพียงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำเสียเท่านั้น แต่เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ เนื่องจากเม็ดสีเมลานินจะผลิตขึ้นเพื่อทำหน้าที่กรองรังสียูวี หากผิวต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยรังสีที่ส่งผลให้เกิดฝ้าได้คือ รังสี UVA สำหรับสาวๆ ที่มีไลฟ์สไตล์ขาลุย ไม่กลัวแดด ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง การใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดีและเหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้
  7. ไม่ใช้ครีมบำรุง สำหรับสาวสายชิลล์ที่มักจะละเลยการดูแลผิว หลายคนมักมองว่าปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิววัย 30+ เท่านั้น ส่งผลให้ผิวหน้าไม่ได้รับการดูแลจนต่อยอดเป็นปัญหาผิวที่อาจสายเกินแก้ได้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าฝังลึกในอนาคต เราจึงควรหมั่นทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำเป็นประจำตั้งแต่เนิ่นๆ 
  8. เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เคลียร์งานจนดึก นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ปาร์ตี้ยันเช้า แต่ต้องตื่นไปทำงานแบบไม่มีหยุดพัก พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้สาวๆ เกิดความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและอารมณ์จนเกิดเป็นความเครียดได้ ซึ่งความเครียดมีผลทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นภายในร่างกาย เร่งการหลั่งเม็ดสีเมลานินออกมามากกว่าปกติ ทำให้ปัญหากระ จุดด่างดำตามมา
  9. ใช้ครีมไวท์เทนนิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ  การใช้ครีมไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการดูแลปัญหากระได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย แต่มีกลไกการทำงานและให้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ด้วยเกิดจากสารสำคัญที่เป็นส่วนผสมหลักนั้นมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ซึ่งครีมไวท์เทนนิ่งส่วนมากที่พบในท้องตลาดทั่วไป มักมีกลไกในการดูแลเฉพาะผิวชั้นนอก เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ แต่ไม่ได้ลงลึกจัดการกับต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ปัญหากระ จุดด่างดำยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง  
  10. ทาครีมกันแดดน้อย แถมยังท้าแดดอีก ครีมกันแดด เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยในการป้องกันรังสี UVA/UVB แต่การทาครีมกันแดดปริมาณ น้อย และยังออกไปสู้แสงแดดจัด ก็สามารถทำให้ผิวหน้าคุณเกิดรอยฝ้าได้อยู่ดี จึงต้องเลี่ยงแดด และป้องกันด้วยวิธีอื่นให้มากที่สุดด้วย

วิธีป้องกันฝ้าที่ถูกต้อง

ทำความสะอาดผิวหน้าให้ได้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น  การทำความสะอาดใบหน้าด้วยทฤษฎีล้างหน้าตามแนวรูขุมขน จะช่วยให้สิ่งสกปรก สารเคมีจากเครื่องสำอางหลุดได้ง่าย และจพต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า พร้อมทังยังต้องทาน อาหารเดิมๆซ้ำๆ ไม่ได้สารอาหาร หากใครที่ชอบทานแต่ของหวาน ของทอด ของมัน อาหารฟาสฟู้ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล ไม่ค่อยได้ทานผัก ผลไม้ หรือผู้ที่ขาดสารอาหารจำพวกวิตามินบี 12, วิตามินซี ก็จะมีปัญหาเกิดรอยฝ้า กระ ตามส่วนต่างๆของใบหน้า จนรอยฝ้าจึงเด่นขึ้น เพราะฉะนั้น  เรานั้นจะต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างการทานผัก ผลไม้ที่มีส่นประกอบของวิตามินซี วิตามินบี12 แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกสารพิษในร่างกาย และจะต้องทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินซี อี หรือเมล็ดองุ่นที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

อยากดูและผิว อยากรับสารอาหารจากแสงแดต้อง เป็นแสงแดดในช่วงเวลาเช้าๆ 

สำหรับใครที่ชอบออกกลางแจ้ง และชอบอาบแดด ซึ่งแน่นอนว่าบ้านเรานั้นแดดแรงและไม่ใช่อากาศต่างประเทศ ฉะนั้นแสงแดดที่บ้านเราจะส่งผลดีต่อร่างกาย ไม่ก่อมให้เกิดฝ้า หรือว่าสร้างรอยดำคล้ำเสียให้กับผิว พร้อมทั้งยังดูแลให้เรานั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงก็ต้องเป็นช่วงประมาณเวลา 6.00-8.00 น. จะเป็นช่วงที่แดดอ่อนๆ และส่งผลดีต่อผิว ทั้งยังเป็นช่วงที่แดดมีวิตามินดีเยอะ ซึ่งประโยชน์ของวิตามินดีในแสงแดดจะแบ่งออกเป็นดังนี้

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์: เพราะแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดีขึ้น ช่วยเสริมให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
  • ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น: จากการวิจัยพบว่าแสงแดดสามารถควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจได้และยังควบคุมระดับเมลาโทนิน ซึ่งสารตัวนี้เป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อการนอน เนื่องจากการได้รับแสงแดดยามเช้าจะทำให้เมลาโทนินหลั่งออกมาเป็นเวลา ซึ่งจะช่วยให้ไม่ง่วงระหว่างวัน
  • สร้างภูมิคุ้มกันโรค: เนื่องจากวิตามินที่ได้รับจากแสงแดดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว โดยที่ฮอร์โมนโซลิทอนจากต่อมไพเนียลที่อยู่ใต้สมองจะทำปฏิกิริยากับวิตามินดี ส่งผลให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวที่แข็งแรง ทำให้ภูมิคุ้มในร่างกายดีขึ้น
  • ปรับสภาวะทางอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ: เพราะวิตามินดีจะมีสารที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นส่วนช่วยในการลดความเครียดได้ ทำให้ไม่เกิดอาการอารมณ์เสียหรือหงุดหงิดได้ง่าย

และนี่คือส่วนหนึ่งของพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิด ฝ้า กระ ที่ควรเลี่ยงหากไม่อยากเจอกับปัญหาผิว ใครที่รู้ตัวว่ายังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิดๆ ตามนี้อยู่ก็ควรเลิกทำจะดีที่สุด เพราะเรื่องของปัญหาผิวนั้นทำลายความมั่นใจได้อย่างมากแถมกว่าจะรักษา ฝ้า กระ หายยังต้องใช้เวลานานอีกด้วย หากใครกำลังมีปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้าก็อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่น่าหนักใจอีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณรู้จักวิธีการดูแลรักษาผิวอย่างถูกวิธี ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีที่ช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์หรือคลื่นพลังงานที่ได้รับการรับรองว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า

กระและจุดด่างดำดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ทาฝ้ากระของ mineral matt antiaging fluid 
ผลิตภัณฑ์ทาฝ้ากระของ mineral matt antiaging fluid   ที่มีส่วนผสมของ สารไทอามิดอล  สารให้ความกระจ่างใสเอกสิทธิ์เฉพาะจากยูเซอริน ที่ได้รับการคิดค้นและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่ามีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส สาเหตุของการเกิดฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ผสานทำงานร่วมกับ ไฮยาลูรอนเข้มข้นที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการฟื้นบำรุงผิวหน้า และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว โดดเด่นด้วยนวัตกรรมสุดล้ำเทคโนโลยี micro target ที่ช่วยในการนำพาสารสำคัญทั้งสองให้ซึมซาบลึกสู่ชั้นผิวและจัดการตรงจุดถึงต้นตอของปัญหา ฟื้นบำรุงให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดปัญหากระ ฝ้าแดด ได้ภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง สารแอนติออกซิแดนท์ ทรงประสิทธิภาพ ช่วยตัดวงจรฝ้าแดด จุดด่างดำ และลดโอกาสการกลับมาเป็นฝ้า จุดด่างดำซ้ำอีกได้มากถึง 75% ผ่านการพิสูจน์และรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ทดสอบการใช้งานพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้

mineral matt

พฤติกรรมเสี่ยงทำหน้าเป็นกระ เหล่านี้ อาจเป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่กระตุ้นให้เกิดปัญหาหน้าเป็นกระขึ้น แต่หากเรายังคงละเลยการดูแลผิวหน้าอย่างจริงจัง ปัญหาผิวอาจเกิดการสะสมและรุนแรงขึ้นได้ เพื่อช่วยให้คุณมีผิวกระจ่างใสที่สมบรูณ์แบบ ปัญหาผิวเหล่านี้ควรต้องได้รับการดูแลอย่างตรงจุด รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หันมาเอาใจใส่สุขภาพมากยิ่งขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมอบสารอาหารที่ดีต่อผิว ไม่ละเลยที่จะบำรุงผิวหน้าอย่างจริงจังและเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง mineral matt antiaging fluid  ตัวช่วยที่ขาดไม่ได้สำหรับผิวที่มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำฝังลึก ช่วยดูแลให้ผิวโกลว์ กระจ่างใสได้อย่างแท้จริง