หนึ่งในปัญหากวนใจของเหล่าชายชาตรีทั้งหลาย คือเรื่องของขนาดน้องชายนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความยาวหรือความใหญ่ ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับบุรุษทั้งหลายอยู่ไม่น้อย เพราะหลายคนเชื่อว่า ถ้าอวัยวะเพศชายยิ่งใหญ่และยาวก็จะยิ่งดี เพราะจะช่วยชูรสชูรักทางเพศได้อย่างราบรื่นและมีรสชาติมากขึ้น นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนหันมามองหาวิธีหรือตัวช่วยเพื่อ อัพไซส์น้องชาย ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการมากขึ้น และปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีมากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
กายวิภาคของอวัยวะเพศชาย
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับลักษณะทางกายภาพหรือกายวิภาคของอวัยวะเพศชาย (Anatomy of male genitalia)กันก่อน ว่าประกอบด้วยเนื้อเยื่อในส่วนใดกันบ้าง
- องคชาต (penis)
ในส่วนขององคชาต (penis) จะมีลักษณะเป็นแท่งที่ยื่นออกมา และถูกห่อหุ้มด้วยผิวหนัง ภายในองคชาติประกอบด้วยเนื้อเยื่อเป็นจำนวนมาก รวมถึงกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(connective tissue) ในส่วนปลายขององคชาติจะมีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดเรียกว่า Glans penis ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่เป็นจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนโครงสร้างภายในขององคชาตินั้น จะประกอบไปด้วยส่วนที่เรียกว่ากล้ามเนื้อฟองน้ำ 3 แท่ง มีด้านบนและด้านล่าง ด้านบนมี 2 แท่ง มีชื่อเรียกว่า Corpus cavernosum ส่วนอีกหนึ่งแท่งจะอยู่ด้านล่าง เรียกว่า Corpus spongiosum โดยจะมีท่อปัสสาวะล้อมรอบ และเมื่อมีการคั่งของเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดของกล้ามเนื้อที่เป็นฟองน้ำเหล่านี้ ก็จะทำให้องคชาติเกิดการแข็งตัวขึ้นนั่นเอง - อัณฑะ (testis)
อัณฑะ (testis) เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการสร้าง ตัวอสุจิ (Sperm) และสร้างฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เป็นส่วนที่ห้อยออกมานอกร่างกายอยู่ภายในถุงที่เรียกว่าถุงอัณฑะ (Scrotum) ภายในอัณฑะมีท่อยาวๆที่มีขนาดเล็ก เรียกว่า Seminiferous tubules ซึ่งในท่อนี้ประกอบไปด้วย Germ cells และ เซลล์พี่เลี้ยง Sertoli cell มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนกำกับการสร้างอสุจิ ส่วนเนื้อเยื่อที่อยู่นอกท่อ มีชื่อเรียกว่า Seminiferous tubules ประกอบไปด้วยเซลล์ที่สร้างฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เรียกว่า Leydig cell - ถุงเก็บตัวอสุจิใกล้อัณฑะ (epididymis)
ถุงเก็บตัวอสุจิใกล้อัณฑะ (epididymis) ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิ ก่อนที่จะเข้าสู่หลอดนำอสุจิ (Spermatic cord) บริเวณด้านในมีขน(Cilia) ทำหน้าที่พัดตัวอสุจิให้เคลื่อนที่เร็วขึ้น - ถุงอัณฑะ (Scrotum)
ถุงอัณฑะ(Scrotum) เป็นผิวหนังและกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่ห่อหุ้มลูกอัณฑะไว้ พร้อมทั้งช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการสร้างตัวอสุจิ - หลอดนำอสุจิ (Vas Deferens หรือ Spermatic cord)
หลอดนำอสุจิ (Vas Deferens หรือ Spermatic cord) มีลักษณะเป็นท่อต่อจากถุงเก็บตัวอสุจิใกล้อัณฑะ มีความยาวประมาณ 1 ฟุต ภายในมีชั้นกล้ามเนื้อเรียบคอยบีบตัวเพื่อให้ตัวอสุจิเคลื่อนที่ - ถุงสร้างสารบำรุงตัวอสุจิ (Seminal vesicles)
ถุงสร้างสารบำรุงตัวอสุจิ (Seminal vesicles) มีอยู่ 2 ข้าง เป็นส่วนที่อยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ อยู่กับต่อมลูกหมาก เป็นส่วนของอวัยวะที่เปิดรวมเข้ากับหลอดนำอสุจิ เพื่อเป็นท่อเชื่อมต่อไปยังต่อมลูกหมากต่อไป - ต่อมลูกหมาก (Prostate gland)
ต่อมลูกหมาก(Prostate gland) ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ ทำให้ให้ตัวอสุจิแข็งแรง พร้อมสำหรับการสืบพันธุ์ - ต่อมคาวเปอร์ (Cowper gland)
ต่อมคาวเปอร์ (Cowper gland) เป็นต่อมที่อยู่ต่อกับต่อมลูกหมาก ทำหน้าที่สร้างสารหล่อลื่นท่อปัสสาวะขณะที่มีความรู้สึกทางเพศ
น้องชายเล็กหรือสั้น (Shorter-than-average penis, micropenis) ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร?
จากงานวิจัยของ The British Journal Of Urology ที่สำรวจผู้ชายอายุ 17 ปีขึ้นไป ชาติละ 50 คน ระบุว่าโดยปกติ อวัยวะเพศชายจะมีความยาวปกติอยู่ที่ 3.61 นิ้ว มีเส้นรอบวงที่มีขนาดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.66 นิ้ว และมีผลเฉลี่ยของอวัยวะเพศเมื่อมีการแข็งตัวอยู่ที่ 5.16 นิ้ว เส้นรอบวงมีขนาดเฉลี่ยอยู่ที่ 4.59 นิ้ว โดยชาติ “คองโก” มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 7.1 นิ้ว ส่วนผู้ชายไทยมีอยู่ที่ประมาณ 4 นิ้ว การที่อวัยวะเพศชายเล็ก หรือที่เรียกว่า“Micropenis” คืออวัยวะเพศชายมีขนาดเล็กกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งนิยามโดยการที่ขนาดของน้องชายมีขนาดเล็กกว่า 2.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (2.5 SD) และการที่ขนาดอวัยเพศของผู้ชายจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ลักษณะทางพันธุกรรม(Genetic factors)
ซึ่งสามารถส่งผลต่อขนาดอวัยวะเพศชายได้ตามพันธุกรรมของบรรพบุรุษหรือคนในครอบครัว - ระดับฮอร์โมน(Hormonal factors)
ในช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต ถ้ามีความผิดปกติของฮอร์โมนในช่วงเวลานี้ เช่น มีการสร้างฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองลดลง ก็จะส่งผลให้ฮอร์โมนเพศชายอย่างเทสโทสเมอร์โรน(testosterone)ถูกผลิตออกมาน้อยลงด้วยเช่นกัน ก็จะทำให้อวัยวะเพศมีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน - ปัจจัยก่อนคลอด(Prenatal factors)
ปัจจัยต่างๆก่อนที่จะมีการคลอด ก็สามารถส่งผลข้างเคียงให้กับทารกในครรภ์ได้ รวมถึงสามารถส่งผลกระทบต่อขนาดของอวัยวะเพศชายได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับสารพิษ (toxins)หรือมีภาวะติดเชื้อ(infections) บางชนิด เป็นต้น - โรคประจำตัวตั้งแต่แรกเกิด
โรคประจำตัวตั้งแต่แรกเกิด (Congenital anomalies) เช่น hypospadias สามารถส่งผลต่อขนาดของอวัยวะเพศได้ - การสูบบุหรี่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
เนื่องจากสารพิษที่อยู่ในบุหรี่อย่างนิโคติน สามารถทำลายหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศได้ ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อลดลง ซึ่งภายในอวัยวะเพศประกอบด้วยกล้ามเนื้อ จึงมีขนาดเล็กลงตามด้วย นอกจากนั้นยังส่งผลทำให้เกิดการแข็งตัวได้ยากอีกด้วย - การใช้ยาบำบัดโรคบางชนิด
เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้าบางชนิด ยารักษาโรคสมาธิสั้น ยารักษาโรคจิตเวชบางชนิด ยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต ล้วนส่งผลต่อขนาดของอวัยวะเพศชายทั้งสิ้น - อายุที่เพิ่มมากขึ้น
การที่อายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการสะสมของไขมันในเส้นเลือดแดง ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลดลง - ปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น เกิดอุบัติเหตุ มีการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดบริเวณองคชาต ก็สามารถทำให้เกิดพังผืดและทำให้อวัยวะเพศมีขนาดเล็กได้
ความผิดปกติอื่นๆของอวัยวะเพศชาย
เป็นความจริงที่ว่าทิศทางการชี้และการแข็งตัวของอวัยวะเพศมีผลอย่างมากต่อการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งโดยปกติความตึงของเอ็นจะช่วยพยุงให้อวัยวะเพศชายไม่โค้งงอหรือเอียงจนเกินไป แต่ก็มีบางกรณีที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นคือ อวัยวะเพศมีความงอ เอียง หรือมีความโค้งอย่างรุนแรง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากอาการของ Peyronie’s disease ที่มีพังผืดแข็ง (plaque) บริเวณองคชาต ทำให้อวัยวะเพศชายมีความโค้งงอและสูญเสียความยืดหยุ่น ในกรณีเช่นนี้ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ พร้อมทั้งเข้ารับการผ่าตัดหรือฉีดยาสลายพังผืด เป็นลำดับต่อไป
การ อัพไซส์น้องชาย คืออะไร?
โดยธรรมชาติ อวัยวะเพศชายจะมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันไปแต่ละเชื้อชาติและแต่ละบุคคล และปัญหาที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศชายส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องความยาวและขนาด คือเล็กเกินไปหรือสั้นเกินไป ถึงแม้ว่าจะมีงานวิจัยจาก The British Journal Of Urology (BJU International) ที่ระบุว่า ถึงแม้อวัยวะเพศของท่านชายจะมีขนาดสั้น แต่ถ้าหากมีขนาดเส้นรอบวง “กว้าง” พอ มีค่าเฉลี่ยประมาณ 4.59 นิ้ว หรือ 11.66 เซนติเมตรเมื่อเกิดการแข็งตัว ก็เพียงพอที่จะสร้างความสุขให้กับคู่รักในการมีเพศสัมพันธ์ได้แล้ว เผลอๆอาจมีความสุขที่มากกว่าอวัยวะเพศที่ยาวเสียอีก แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังต้องการแก้ปัญหาด้วยการ อัพไซส์น้องชาย อยู่ดี ด้วยการทำให้อวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ขึ้นและการเพิ่มความยาวให้กับอวัยวะเพศนั่นเอง
ข้อพิจารณาในการ อัพไซส์น้องชาย
ในการที่หลายคนต้องการเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชาย มักมีปัญหาหรือความกังวลใจ ดังต่อไปนี้
- ไม่พึงพอใจในขนาดและความยาวของอวัยวะเพศเดิมที่มีอยู่
- อวัยวะเพศมีขนาดที่เล็กกว่าปกติ
- อวัยวะเพศมีความยาวน้อยกว่าปกติแม้ในขณะแข็งตัวคือ มีความยาวน้อยกว่า 3.5 นิ้ว
- อวัยวะเพศชายมีอาการผิดรูป
วิธีการ อัพไซส์น้องชาย ในปัจจุบัน
ในปัจจุบันมีวิธีการและเครื่องมือที่ทันสมัยมากมาย ที่ถูกนำมาใช้ในการเพิ่มอวัยวะเพศของท่านชาย และสามารถทำได้ด้วยวิธีการแบบผ่าตัดและแบบที่ไม่ผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.อัพไซส์น้องชายด้วยวิธีการผ่าตัด
การผ่าตัดเพื่อเพิ่มความยาวของน้องชาย (Penile lengthening surgery) หรือที่เรียกว่า penile elongation (phalloplasty) โดยแพทย์จะผ่าตัดเอ็นที่ยึดองคชาติเข้ากับกระดูกหัวหน่าว (ligaments) ออกไป ซึ่งจะช่วยทำให้น้องชายมีความยาวมากขึ้น แต่วิธีการนี้ต้องทำกับศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น หรืออาจจะกระทบต่อทิศทางการชี้ขององคชาติที่เปลี่ยนไป ทำให้อวัยวะเพศเสียความสมดุลและความมั่นคง เป็นต้น ส่วนการผ่าตัดเพื่อเพิ่มเส้นรอบวงของอวัยวะเพศชาย(Penile Girth enhancement)นั้น สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเติมไขมันน้องชาย (Fat grafting) และการผ่าตัดเสริมซิลิโคน (silicone) ซึ่งก่อนผ่าตัด จะต้องมีการเตรียมตัว ดังต่อไปนี้
- เข้าพบแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำ พร้อมทั้งทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวที่มี ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา/แพ้อาหาร หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบัน
- ให้งดยาที่ออกฤทธิ์ทำให้เลือดไม่แข็งตัว เช่น แอสไพริน (Aspirin) และยาในกลุ่ม NSAID (non-steroidal anti-inflammatory drug) 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ให้งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
ส่วนผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดอวัยวะเพศชายเพื่อเพิ่มขนาดโดยส่วนใหญ่ มีดังต่อไปนี้
- อวัยวะเพศชายมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของผิวหนังรอบๆ อวัยวะเพศ ในผู้ที่ผิวหนังรอบอวัยวะเพศมีความยืดหยุ่นสูง ก็จะสามารถขยายขนาดได้ใหญ่กว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมให้มีความสมดุลกับปลายอวัยวะเพศเพื่อความสวยงาม
- หลังจากการผ่าตัด อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหลังผ่าตัด 2-3 วัน ถือเป็นเรื่องปกติ
- ในการแข็งตัวของอวัยวะเพศอาจจะเจ็บเล็กน้อยหลังจากการผ่าตัด โดยเฉพาะหลังการยืดขนาดอวัยวะเพศ แต่จะค่อยๆหายเป็นปกติในที่สุด
- การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะมีความปลอดภัย ไม่มีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ หรือความผิดปกติของอสุจิตามมา
แน่นอนว่าผู้ป่วยอาจจะต้องดูแลตัวเอง หลังจากการผ่าตัด ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- อย่าให้แผลผ่าตัดโดนน้ำประมาณ 7 วัน
- ควรงดกิจกรรมทางเพศเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ให้ใส่ถุงยางอนามัยในขณะมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อลดอาการปวดแผลที่เกิดจากการเสียดสี
- งดทำงานหนักประมาณ 7-10 วัน
- ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องการบวมมากกว่าปกติ หรือเลือดออกมากกว่าปกติ ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
- เพิ่มขนาดอวัยวะเพศด้วยวิธีการที่ไม่ใช่การผ่าตัด
2.การ อัพไซส์น้องชาย ที่ไม่ต้องอาศัยวิธีการผ่าตัด มีดังต่อไปนี้
- Penis pumps
เป็นการใช้อุปกรณ์ช่วยออกแรงดูด(suction) เป็นลักษณะของการออกกำลังกายน้องชายหรือนวดเพิ่มขนาดน้องชาย เช่น การนวดแบบ Jelqing หรือ Milking method หรือการจับรูดน้องชายเหมือนรีดนมวัว วิธีการคือใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของมือข้างที่ถนัดทำเป็นรูปห่วงรัดรอบโคนองคชาตแล้วรูดขึ้นเบาๆ ไม่ต้องรูดลง จากนั้นกลับมารูดขึ้นจากบริเวณโคนอีกครั้ง ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3 นาที เมื่อนวดเสร็จให้ฝึกกระดกน้องชายขึ้นประมาณ 50 ครั้งพร้อมๆ กับขมิบก้น เป็นต้น การใช้ Penis pumps สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตมายังอวัยวะเพศชายได้มากขึ้น ทำให้น้องชายยืดยาวออกได้ ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของการทำ แต่ก็ค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน นอกจากนั้นวิธีการนี้ยังช่วยกระตุ้นการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ด้วย - ฉีดไขมันของตนเอง
วิธีนี้เป็นการเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชายด้วยการใช้ไขมันจากร่างกายของตนเอง จากบริเวณหน้าท้อง สะโพกส่วนล่าง หรือขาหนีบ แล้วนำมาฉีดที่บริเวณอวัยวะเพศ นับเป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะเป็นไขมันของเจ้าตัวเอง ในกรณีผู้ชายมีรูปร่างอ้วน มักจะมีไขมันหนาที่บริเวณหัวหน่าว จึงทำให้อวัยวะเพศดูสั้นลง ดังนั้นการดูดไขมันตรงหัวหน่าวออก ก็จะสามารถช่วยเพิ่มความยาวขึ้นมาได้ แล้วถ้าหากนำไขมันที่ดูดออกมาฉีดที่อวัยวะเพศ ก็จะสามารถเพิ่มขนาดของน้องชายให้ดูใหญ่ขึ้นมาได้ด้วย - ฉีดPRP (Platelet Rich Plasma)
PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นส่วนประกอบของเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดเป็น 3-8 เท่าของระดับเลือดปกติ โดยแพทย์จะเจาะเลือดของตัวผู้ป่วยออกมา แล้วนำมาปั่นด้วยเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อให้ได้เฉพาะเกล็ดเลือด จากนั้นจะนำมาฉีดขยายเส้นเลือดที่อยู่ข้างในตรงกลางขององคชาติ สามารถใช้ฉีดร่วมกับสเต็มเซลล์เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้นได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายให้ยาวและใหญ่ขึ้น - การฉีดฟิลเลอร์น้องชาย(Dermal filler)
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมคือการฉีดฟิลเลอร์น้องชาย(Dermal filler) โดยใช้ Hyaluronic acid-based filler ฉีดเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังของอวัยวะเพศ เพื่อเพิ่มความยาวและปรับรูปทรงให้กับน้องชาย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ที่อวัยวะเพศนี้ได้ถูกนำมาใช้ในประเทศแถบอเมริกาและยุโรปมาระยะหนึ่ง แล้วพบว่าได้ผลดี โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แถมยังมีอาการข้างเคียงน้อย หลังฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายจะคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และสภาพปัญหาของอวัยวะเพศด้วย แต่ต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งวิธีการฉีดอาจจะแตกต่างไปจากการฉีดเพื่อลดความเหี่ยวย่นบนใบหน้า ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินลักษณะของอวัยวะเพศและความต้องการของลูกค้าก่อนเสมอ แต่ข้อควรรู้คือ การฉีดฟิลเลอร์ HA สามารถเพิ่มความหนาหรือความใหญ่ของอวัยวะเพศชายได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าตึงมากจนเกินไป อาจทำให้ผิวหนังส่วนปลายขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อตายและเป็นแผลเรื้อรังได้ - วิธีอื่นๆ เช่น การรับประทานยา สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ,การนวดด้วยยา ครีม ขี้ผึ้ง ,การผ่าตัดเสริมขนาดด้วยเนื้อเยื่อของตนเองเข้าไป เช่น การใช้เนื้อจากถุงอัณฑะ เนื้อจากขาหนีบ ,การใช้ซิลิโคนเพื่อเพิ่มขนาดและความยาว ,การบริหารน้องชายด้วยวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องเลือก mesofiller อัพไซส์น้องชาย
mesofiller หนึ่งในผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก mesoestetic ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็น ha (hyaluronic acid fillers) ฟิลเลอร์ที่มีนวัตกรรม densimatrix technology ทำให้ได้โครงสร้างแบบ cross-linked hyaluronic acid 100% (non-free ha) ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาทุกจุดในร่างกายได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการเพิ่มขนาดหรือการอัพไซส์น้องชายได้ด้วย โดยมีความปลอดภัยต่อร่างกาย (Biocompatible) เนื่องจากสามารถดูดซึมได้เป็นอย่างดี บาดเจ็บน้อย ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ไม่ต้องพักฟื้น แถมยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน แต่จำนวนการฉีดลดลง เนื่องจากมีความบริสุทธิ์ที่สูงในขั้นตอนเดียว มีอัตราการบวมต่ำ รับประกันความปลอดภัยสูงสุด ด้วยค่า BDDE ที่ต่ำที่สุด มีแรงดันในการฉีดต่ำ ในส่วนของเนื้อเจลฟิลเลอร์มีความสม่ำเสมอ ไม่จับตัวเป็นก้อน มีความคงรูประหว่างและหลังการฉีด คงผลลัพธ์ที่ยาวนานได้นาน 9-12 เดือนเลยทีเดียว และที่สำคัญ ช่วยกระตุ้นกลไกการสร้างเนื้อเยื่อได้ด้วย
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชาย
การฉีดฟิลเลอร์น้องชาย มีข้อดีคือ
- ไม่ต้องใส่ซิลิโคน เพื่อแก้ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว
- ช่วยให้ส่วนปลายของอวัยวะเพศมีรูปร่างที่สวยงามและสามารถใช้งานได้ดีขึ้นด้วย
- ช่วยให้ปลายอวัยวะเพศแข็งแรง ทำให้ร่วมเพศได้ดีมากขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหารอยต่อ ลดแรงกระแทกของแท่งซิลิโคนกับส่วนปลายอวัยวะเพศได้
- ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติคือช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบริเวณ GLAN ทำให้รูปร่างดีขึ้น
- ไม่กระทบต่อความรู้สึกทางเพศของลูกค้า
ผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชาย
ผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ที่อวัยวะเพศชาย คือกลุ่มคน ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร HA
- ผู้ที่แพ้ Lidocaine
- ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ อาจเกิดการติดเชื้อได้โดยง่าย
- ผู้ที่มีประวัติเกิดแผลเป็นนูนได้ง่าย
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์อวัยะเพศชาย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่อวัยวะเพศชาย จะต้องมีการเตรียมตัว เพื่อความปลอดภัยและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ดังนี้
- ให้งดยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น Aspirin Brufen Warfarin Conmadin หรือ NSAD อื่นๆ
- ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- ถ้ามีแผลหรือมีการติดเชื้อไม่ควรฉีด ให้เลื่อนออกไป รอให้แผลหายก่อน
- หากไม่สบายหรือตัวร้อน เป็นไข้ ให้รอหายก่อนแล้วค่อยกลับมาฉีด
- ควรใส่กางเกงหลวมๆในวันที่มาฉีด
- ให้งดกระเทียมและสมุนไพรบางชนิด 5 วัน ก่อนวันที่จะมาฉีด
ขั้นตอนการฉีด fillers อวัยวะเพศชาย
ในการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ก่อนฉีดให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนเสมอ เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินตำแหน่งที่จะฉีด รวมถึงปริมาณของฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ด้วย
- ทายาชาบริเวณ GLAN ประมาณ15-30 นาที
- ฉีดยาชาที่บริเวณโคนอวัยวะเพศเพื่อให้ชามากที่สุด เพื่อที่ระหว่างที่ฉีดจะได้ไม่มีความเจ็บปวด
- ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ต้องการ
การดูแลตนเองหลังการฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชาย
หลังฉีดฟิลเลอร์ จะต้องมีการดูแลตนเองอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ ดังต่อไปนี้
- หลังฉีดอาจจะมีเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ให้ใช้ผ้าก๊อตกดเอาไว้ประมาณ 5-10 นาที เลือดจะหยุดไปเอง
- หลังจากฉีดให้นวดบริเวณที่ฉีดประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อให้เรียบเสมอกัน
- สามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้ทุกเวลา ถ้ายังรู้สึกว่ามีบางส่วนไม่เต็ม
- ฟิลเลอร์จะหมดฤทธิ์และลดลงในระยะเวลาประมาณ 1 ปี หลังการฉีด สามารถกลับมาฉีดเติมได้ เพื่อให้มีความต่อเนื่องและรูปร่างของอวัยวะเพศดีขึ้น
อันตรายจากการ อัพไซส์น้องชาย แบบไม่ถูกต้อง
หากท่านมีความกังวลใจในเรื่องขนาดและความยาวของอวัยวะเพศของตน แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อที่จะสามารถประเมินลักษณะอาการ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่แนะนำให้หาทางออกโดยการซื้อยามารับประทานด้วยตนเอง หรือพยายามสรรหาวิธีการอื่นๆจากโลกออนไลน์มาใช้ เพราะสินค้าหรือยาเหล่านั้นอาจไม่มีมาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย และอาจเป็นอันตรายขั้นรุนแรงได้ เช่น การฉีดน้ำมันมะกอก หรือพวกซิลิโคนเข้าไป ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะเพศเกิดลักษณะผิดรูป แข็งคล้ายเป็นเนื้องอกในระยะยาว เกิดเป็นเนื้อตายเน่า เพราะเนื้อเยื่อผิวหนังขาดเลือด ซึ่งในบางรายถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศออกไปเลยก็มี
เกร็ดความรู้ในการรักษาขนาดของอวัยวะเพศชาย
ในการเพิ่มขนาดและรักษาขนาดอวัยวะเพศชายให้มีความยาวและมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆร่วมด้วย ดังต่อไปนี้
- ลดน้ำหนัก
ในกรณีผู้ชายที่มีรูปร่างอ้วน อวัยวะเพศชายมักมีขนาดสั้น เนื่องจากบริเวณหัวหน่าวมีปริมาณไขมันอยู่มากจนทำให้น้องชายแลดูสั้น การออกกำลังกาย ควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก สลายไขมัน ก็จะทำน้องชายดูยาวขึ้นมาได้ - หมั่นบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
เนื่องจากบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมักจะมีเส้นเลือดใหญ่สำคัญที่คอยกักเก็บเลือดเอาไว้ไม่ให้ไหลออกจากอวัยวะเพศในขณะที่มีการแข็งตัว ดังนั้น การบริหารอุ้งเชิงกรานเป็นประจำโดยการฝึกเกร็งกล้ามเนื้อและคลายกล้ามเนื้อในบริเวณดังกล่าว ก็จะทำให้อวัยวะเพศของคุณแข็งแรง และมีขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ - เลิกสูบบุหรี่
ในบุหรี่มีสารพิษที่มีผลทำให้ขนาดของเส้นเลือดใหญ่ในร่างกายตีบลง ทำให้เลือดไหลเวียนเข้าไปเลี้ยงน้องชายของท่านได้น้อยลง ทำให้น้องชายมีขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ถ้าอยากให้น้องชายมีความสมดุลและสมส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ ให้เลิกสูบบุหรี่ - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ควรรับประทานอาหารที่เน้นการบำรุงอวัยวะเพศชาย เช่นโปรตีนจากเนื้อปลา ไข่ เนื้อไก่ รวมถึงผักผลไม้ เช่น แตงโม สับปะรด อะโวคาโด และธัญพืชต่างๆ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อร่างกายและการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้อวัยวะเพศของท่านสามารถขยายขึ้นได้ แถมยังฟิตปึ๋งปั๋งอีกด้วย - นวดน้องชายเป็นประจำ
วิธีการง่ายๆที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเองคือการนวดน้องชาย โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งล้อมเป็นวงกลมไว้ที่บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศ หลังจากนั้นให้รูดหนังหุ้มปลายลงไปให้สุดแล้วรูดขึ้นไปให้สุดปลายแบบเบาๆ โดยช่วงที่ดึงให้สุดปลายให้ดึงแบบตึงที่สุด แต่อย่าดึงจนเจ็บ ให้ทำซ้ำประมาณ 20-30 ครั้งต่อวัน แล้วใช้นิ้วนวดวนๆ ช่วงโคนอวัยวะเพศเป็นเวลา 2 นาที ทำเช่นนี้ทุกวันหรือทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง ก็จะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและก้าวไกล การอัพไซส์น้องชาย สามารถทำได้แบบไม่ต้องเจ็บตัว แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีเพิ่มความใหญ่ความยาวของน้องชายแบบไหน สิ่งจำเป็นที่จะต้องทำควบคู่กันคือความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย ที่จะต้องเลือกอัพไซส์น้องชายกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น พร้อมทั้งขอรับคำแนะนำเพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป และที่สำคัญจะต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและเพื่อความมั่นใจในขนาดที่มีทั้งความยาวและความใหญ่ ให้ทั้งความสุขทางใจและความสุขทางเพศได้ด้วย