หมดปัญหา หน้ามัน ! เข้าใจสาเหตุ พร้อมแชร์วิธีดูแลผิวให้ไม่เยิ้มระหว่างวัน

หน้ามัน

“หน้ามัน” ปัญหาผิวกวนใจใครหลายคน  ที่ความมันส่วนเกินมักทำให้เมคอัพไหลเยิ้ม รูขุมขนกว้าง หรือรู้สึกไม่สบายผิวตลอดวัน การจัดการความมันบนใบหน้า ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากรู้วิธีดูแลผิวอย่างถูกต้อง ในบทความนี้ เราจะมาแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวมัน  พร้อมแนะนำเทคนิคควบคุมความมันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ตลอดทั้งวัน

หน้ามัน มีลักษณะอย่างไร ?

ผิวมัน เป็นหนึ่งในประเภทของสภาพผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในคนที่มีต่อมไขมันผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าดูมันเงา และเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา เช่น สิวอุดตันหรือรูขุมขนกว้าง ซึ่งคนที่หน้ามัน มักมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

  • ผิวหน้ามันเยิ้มตลอดวัน
    หลังจากที่ล้างหน้าผ่านไปไม่นาน  ใบหน้าจะเริ่มมีความมัน โดยเฉพาะบริเวณทีโซน (T-Zone)  คือหน้าผาก จมูก และคาง ทำให้หลายคนต้องซับมันระหว่างวันอยู่บ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ผิวดูมันเยิ้มมากจนเกินไป
  • รูขุมขนกว้าง
    อีกหนึ่งลักษณะเด่นของคนหน้ามัน คือมักมีรูขุมขนที่กว้างกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณจมูกและแก้ม ซึ่งการที่รูขุมขนขยายใหญ่ มักทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันสะสมได้ง่าย ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายขึ้นด้วย
  • มีแนวโน้มเกิดสิวง่าย
    ความมันส่วนเกินที่สะสมบนใบหน้า เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด สิวอุดตัน สิวหัวดำ และสิวอักเสบได้ง่าย ซึ่งหากล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง อาจทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้หน้ามันขึ้นได้
  • เมคอัพหลุดง่าย
    คนที่หน้ามันส่วนใหญ่เครื่องสำอางมักไม่ติดทน ส่งผลให้รองพื้นเป็นคราบ แป้งหลุดง่าย เพราะน้ำมันบนผิวหน้ามากเกินไป
  • ผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื้น
    บางคนเข้าใจว่า ผิวมันคือผิวที่ชุ่มชื้น แต่จริง ๆ แล้ว ผิวมันสามารถเป็นผิวที่ขาดน้ำได้ และเมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น ร่างกายจะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชย ทำให้หน้ามันเยิ้มยิ่งขึ้นกว่าเดิม

หน้ามัน เกิดจากอะไร ?

สาเหตุของหน้ามัน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอก ที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ดังต่อไปนี้

ปัจจัยภายใน

ปัจจัยภายใน ที่ส่งผลให้หน้ามัน มีดังต่อไปนี้

  • การทำงานของต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ที่มากเกินไป
    ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนัง มีหน้าที่ผลิตซีบัม (Sebum) หรือไขมันตามธรรมชาติ เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากภาวะแวดล้อม แต่สำหรับคนที่มีผิวมัน ต่อมไขมันจะทำงานมากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวหน้ามันเยิ้มและรูขุมขนกว้างขึ้น
  • พันธุกรรม
    หากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีผิวมัน โอกาสที่คุณจะหน้ามันก็มีสูงขึ้น เพราะลักษณะผิวเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
  • ฮอร์โมนและวัยที่เปลี่ยนแปลง
    ในช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงที่ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) กระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดหน้ามันและสิวได้ง่าย ในขณะที่ผู้หญิงที่มีรอบเดือนหรือกำลังตั้งครรภ์ จะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันใต้ผิว ทำให้บางช่วงผิวหน้ามันมากขึ้น แม้กระทั่ง ในวัยผู้ใหญ่ แม้ว่าฮอร์โมนจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่บางคนยังคงมีผิวมันจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น พันธุกรรม หรือการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
    ความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น รวมถึงการนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้การฟื้นฟูของผิวลดลง ส่งผลให้ผิวขาดสมดุลและมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น จึงทำให้หน้ามันได้มากขึ้นด้วย

ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอก ที่ส่งผลทำให้หน้ามัน มีดังต่อไปนี้

  • การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่แรงเกินไป
    การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือซัลเฟต อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น จนกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น หรือบางคนอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ใช้ครีมบำรุงที่หนักเกินไป หรือใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากเกินไป ก็สามารถทำให้หน้ามันมากขึ้นได้
  • สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
    ในสภาพอากาศร้อนชื้น ผิวจะผลิตน้ำมันมากขึ้น เพื่อช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำรวมถึง มลภาวะ ฝุ่นควัน และแสงแดด อาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบ และผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น จนทำให้หน้ามันขึ้นด้วยเช่นกัน
  • การรับประทานอาหาร
    อาหารที่มีน้ำตาลสูง อย่างน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว อาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้นด้วย รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันสูง อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวมันมากขึ้น

เคล็ดลับดูแลผิว หน้ามัน ให้ไม่เยิ้มระหว่างวัน

หากคุณกำลังมองหาวิธีควบคุมความมัน ให้ผิวดูเรียบเนียน และสดชื่นตลอดวัน มีวิธีที่คุณสามารถดูแลผิวมันแบบง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ช่วยควบคุมความมัน
    ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่ไม่มีสารชะล้างรุนแรง เช่น SLS หรือแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น จนทำให้หน้ามัน แต่ให้เลือกที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดความมัน เช่น Salicylic Acid, Tea Tree Oil, Zinc PCA หรือ Green Tea Extract เป็นต้น
  • ใช้โทนเนอร์เพื่อกระชับรูขุมขนและลดความมัน
    หลังล้างหน้า ควรใช้โทนเนอร์ที่ช่วยปรับสมดุลผิว และลดความมันส่วนเกิน เช่น Witch Hazel ช่วยกระชับรูขุมขน , Niacinamide ช่วยลดการผลิตน้ำมันและลดรอยแดง และAHA/BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตันของรูขุมขน
  • บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา
    เช่น มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจล หรือ เนื้อน้ำ (Water-based) หรือมีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น Hyaluronic Acid, Aloe Vera หรือ Centella Asiatica เป็นต้น
  • เลือกครีมกันแดดสูตรสำหรับผิวมัน
    ที่มีเนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ , ควบคุมความมันได้ดี (Oil-free, Mattifying โดยไม่ทำให้หน้ามัน , Sebum Control) และมีค่า SPF 30-50 PA+++ ขึ้นไป
  • ใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งคุมมันระหว่างวัน
    โดยให้เลือกแป้งที่มีส่วนผสมของ Silica หรือ Kaolin Clay ซึ่งช่วยดูดซับความมันได้ดี และให้หลีกเลี่ยงแป้งที่มีน้ำมันเยอะ เพราะอาจทำให้หน้ามันมากขึ้นได้
  • พกกระดาษซับมันติดตัว
    ซึ่งวิธีใช้คือ ให้กดซับเบา ๆ บนผิวหน้า อย่าถูแรง เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นได้
  • ปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต
    โดยให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน , ลดอาหารมัน ของทอด และน้ำตาลสูง เพราะกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น และให้นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวสมดุลและลดความมันบนผิวได้
หน้ามัน

สกินแคร์แบบไหน เหมาะกับผิว หน้ามัน ?

การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับผิวมันเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะไม่ไปกระตุ้นความมันให้มากขึ้นแล้ว ยังต้องช่วยให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพดีขึ้นด้วย

  • ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวมัน
    สำหรับคนหน้ามัน ควรเลือกสูตรควบคุมความมัน (Oil Control)  มีเนื้อสัมผัสบางเบา ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนผิว , ไม่มีสารชะล้างรุนแรง (SLS, SLES, แอลกอฮอล์) เพื่อไม่ให้ผิวแห้งจนผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น และให้เลือกที่มีส่วนผสมช่วยลดความมัน เช่น Salicylic Acid, Zinc PCA, Tea Tree Oil เป็นต้น มีประสิทธิภาพช่วยทำความสะอาดล้ำลึก แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
  • โทนเนอร์ควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน
    เลือกที่มี AHA/BHA หรือ Niacinamide ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดความมัน และทำให้ผิวกระจ่างใส , ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อลดการระคายเคือง และมี Witch Hazel หรือ Zinc ช่วยกระชับรูขุมขน
  • มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเติมน้ำ ไม่เพิ่มความมัน
    เช่น สูตร Oil-Free หรือ Water-Based ซึมเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขน,  มี Hyaluronic Acid, Aloe Vera หรือ Centella Asiatica เพื่อเติมความชุ่มชื้น โดยไม่ทำให้หน้ามัน
  • ครีมกันแดดสูตรสำหรับผิวมัน
    ที่มีค่าSPF 30-50 PA+++ ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยไม่ทำให้หนักผิว , สูตร Oil-Free ควบคุมความมันระหว่างวัน เน้นใช้เนื้อเจลหรือฟลูอิด (Fluid) ซึมเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขน ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม
  • เซรั่มควบคุมความมัน
    โดยให้เลือกเซรั่มที่มี Niacinamide 5-10% ช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน มี Salicylic Acid หรือ Tea Tree Oil ช่วยลดการอุดตัน ไม่ทำให้หน้ามัน และป้องกันการเกิดสิว
  • มาส์กหน้าเพื่อดูดซับความมัน
    เช่น Clay Mask (โคลนมาส์ก) เช่น Kaolin หรือ Bentonite ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกิน โดยให้ ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดความมัน และทำให้ผิวสะอาดขึ้น

purifying mousse เคล็ดลับผิวสะอาดใส ควบคุมความมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

purifying mousse

purifying mousse โดย mesoestetic เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเนื้อมูส สำหรับผิวมันและผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ มีประสิทธิภาพในการช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า รวมถึงฝุ่นละอองที่ตกค้างบนผิวให้สะอาด โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่ทำให้หน้ามัน มีส่วนประกอบที่สำคัญ ดังต่อไปนี้

  • Chlorhexidine
    มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียบนผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวตามมา
  • Salicylic acid
    มีประสิทธิภาพในการช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ไม่ทำให้หน้ามัน พร้อมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ให้หลุดออกมา ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
  • Lactic acid
    ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการอุดตันบนผิว ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • Postbiotic
    ช่วยปรับความสมดุลของจุลินทรีย์บนผิว ทำให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรง โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • Anti-pollution
    มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากสารแอนติออกซิแดนท์ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน มลภาวะต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • Menthol
    ทำให้ผิวสดชื่น ผ่อนคลาย
  • Urea
    ลดการระคายเคือง  ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น สุขภาพดี

การจัดการกับปัญหาหน้ามันไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเข้าใจสาเหตุ และเลือกวิธีดูแลผิวที่เหมาะสม การทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก เลือกสกินแคร์ที่ช่วยควบคุมความมัน และปรับพฤติกรรมการดูแลผิวอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน สดใส และปราศจากความมันส่วนเกิน อย่าปล่อยให้ปัญหาหน้ามันมากวนใจ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คำถามที่พบบ่อย

Q : หน้ามัน ควรล้างหน้าวันละกี่ครั้ง ?
A : แนะนำให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เพราะหากล้างหน้าบ่อยเกินไป อาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น

Q : อาหารมีผลต่อความมันของผิว จริงหรือไม่ ?
A : อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารมัน หรือผลิตภัณฑ์นม อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แนะนำให้รับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ

Q : สกินแคร์ที่มีแอลกอฮอล์ ช่วยลดความมันจริงไหม ?
A : แม้ว่าแอลกอฮอล์บางชนิด จะช่วยลดความมันชั่วคราว แต่ถ้าใช้ต่อเนื่อง อาจทำให้ผิวแห้งเกินไป และกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้เลือกสกินแคร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์รุนแรง

Q :  หน้ามันไม่ควรใช้อะไร ?
A : คนหน้ามัน ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน(Oil base) เพราะจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีลักษณะข้น เหนียว ซึมลงผิวยาก เพราะนอกจากจะทำให้หนักผิวแล้ว ยังอาจทำให้ผิวมันมากขึ้นด้วยเช่นกัน

Q :   หน้ามันมีกลิ่นเหม็น เกิดจากอะไร?
A : หน้ามันที่มีกลิ่นเหม็น เป็นไปได้ว่ามีเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหน้าเพิ่มมากขึ้น , เป็นโรคผิวหนังอักเสบ หรือมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ในรูขุมขนเป็นจำนวนมาก