วิธี รักษาฝ้า หยุดปัญหาฝ้าเรื้อรัง กู้หน้าพังให้กลับมาเนียนใส | เคล็ดไม่ลับ

รักษาฝ้า

“ฝ้า” หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่หลายคนกังวลใจ เพราะนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและหมองคล้ำแล้ว ยังส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันอีกด้วย ทำให้ในปัจจุบัน ได้มีการคิดค้นวิธี รักษาฝ้า ขึ้นมามากมาย ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของฝ้า พร้อมสาเหตุการเกิดฝ้า พร้อมเผยวิธีรักษาฝ้าอย่างตรงจุด เพื่อกู้ผิวหน้าพังให้กลับมาเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาฝ้ากลับมากวนใจอีกครั้ง!

ฝ้าคืออะไร ? มีลักษณะยังไง ?

“ฝ้า” (Melasma)  เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดรอยคล้ำหรือจุดด่างดำบนผิวหน้า  ฝ้าจะมีระดับความเข้มมากขึ้น เมื่อได้รับการกระตุ้นจากแสงแดด  ฮอร์โมน หรือการใช้ยาบางชนิด
โดยทั่วไป ฝ้ามักมีลักษณะ ดังนี้

  • ฝ้ามักมีสีเข้ม เช่น น้ำตาล เทา น้ำตาลแดง หรือดำขึ้นอยู่กับชั้นความลึกของเม็ดสีที่สะสมในผิว
  • ฝ้า มักปรากฏในตำแหน่งที่โดนแสงแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก จมูก คาง หรือเหนือริมฝีปาก
  • ฝ้า มีทั้งแบบที่เห็นขอบเขตชัดเจนและที่ไม่มีขอบเขตชัดเจน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
  • ฝ้ามักเป็นรอยคล้ำแบบแผ่น ไม่เจ็บหรืออักเสบ แต่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่สม่ำเสมอ

โดยส่วนใหญ่ ฝ้ามักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในช่วงวัย 30-50 ปี แต่สามารถดูแลและลดเลือนได้หากมีการรักษาฝ้า และมีวิธีป้องกันที่เหมาะสม เช่น การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เป็นต้น

ฝ้าเกิดจากสาเหตุอะไร ?

แท้จริงแล้ว ฝ้าสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

  • สาเหตุจากแสงแดด
    ไม่ว่าจะเป็น รังสี UVA และ UVB จากแสงแดด ก็ล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นการผลิตเม็ดสี       เมลานินในผิว การไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด จึงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    โดยเฉพาะในช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีการเปลี่ยนแปลง ไม่สมดุล เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนบำบัด สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้
  • พันธุกรรม
    หากคนในครอบครัวมีฝ้า โอกาสที่คุณจะเกิดฝ้าก็สูงมากขึ้นเท่านั้น
  • การระคายเคืองจากสารเคมี
    การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารลอกผิว อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดฝ้าได้
  • อายุ
    เมื่ออายุมากขึ้น ผิวอาจไวต่อแสงแดดและปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ทำให้ฝ้าเกิดง่ายขึ้น
  • ยาบางชนิด
    เช่น ยาต้านชัก หรือยาฮอร์โมน อาจกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้น
  • การอักเสบของผิวหนัง
    เช่น สิวหรือผิวหนังติดเชื้อ สามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสี ในบริเวณที่อักเสบ
  • ความร้อน
    ไม่ว่าจะเป็น ความร้อนจากแสงแดด การทำอาหาร หรือเครื่องสำอางบางชนิด อาจกระตุ้นให้เกิดฝ้าและหากปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจยากต่อการรักษาฝ้าได้เช่นกัน

ฝ้ามีกี่ประเภท ?

ฝ้า แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)

เป็นฝ้าที่อยู่บนผิวชั้นหนังกำพร้า มักมีสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม มีขอบชัดเจน มองเห็นได้ชัด

ฝ้าลึก (Dermal Melasma)

มีการสะสมของเม็ดสีเมลานินสะสมในชั้นหนังแท้ มีสีน้ำตาลเทาหรือเทาอมฟ้า มีขอบเขตไม่ชัดเจน มักเป็นจุดใหญ่ ใช้เวลานานในการรักษาฝ้าประเภทนี้

ฝ้าผสม (Mixed Melasma)

เป็นการรวมตัวกันของฝ้าตื้นและฝ้าลึกในบริเวณเดียวกัน มีทั้งสีน้ำตาลและสีเทาปะปนกัน มีขอบเขตแตกต่างกันตามแต่ละจุด รักษาฝ้าชนิดนี้ได้ยากกว่าฝ้าทุกประเภท

รักษาฝ้า

เป็นฝ้า อันตรายไหม ?

เป็นฝ้า ไม่อันตรายค่ะ แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของใครหลายคน จนต้องคิดหาวิธีรักษาฝ้าต่าง ๆ นา ๆ ลองผิดลองถูกหลายวิธีการรักษา เพื่อหวังให้จุดด่างดำที่อยู่บนผิวหน้าดูจางลง และบ่อยครั้งเหมือนกัน ที่ไปใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา และมีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง สามารถก่อให้เกิดปัญหาและอันตรายต่อผิวหน้าตามมาได้

มีวิธี รักษาฝ้า ได้ยังไงบ้าง ?

ในปัจจุบัน มีวิธีรักษาฝ้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สมุนไพร การทาครีมบำรุง รวมถึงวิธีทางการแพทย์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยรักษาฝ้า อย่างการทำเลเซอร์ หรือการทำหัตถการต่าง ๆ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ

รักษาฝ้า ด้วยครีม

ครีมที่ใช้ในการรักษาฝ้าส่วนใหญ่ มักมีส่วนประกอบของ AHA (Alpha Hydroxy Acid) , อาร์บูติน (Arbutin) และกรดโคจิก (Kojic) ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสกว่าเดิม แต่ควรเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าที่ได้มาตรฐานการผลิต และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา

รักษาฝ้า ด้วยยา

ยาที่ใช้ในการรักษาฝ้าส่วนใหญ่ มักมีส่วนผสมของสารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเมลานิน ทำให้ฝ้าแลดูจางลงได้ แต่ก่อนใช้ทุกครั้ง ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เสมอ

รักษาฝ้า ด้วยเลเซอร์

โดยเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีผิวด้วยความร้อน กระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้ไวขึ้น พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพ และรักษาความผิดปกติของสีผิว

รักษาฝ้า ด้วยไอออนโต

ไอออนโตจะทำหน้าที่ช่วยผลักยาหรือวิตามิน ให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้กระแสไฟฟ้าที่อยู่ในระดับอ่อน ๆ

รักษาฝ้า ด้วยการกรอผิว

เป็นการกรอผิวด้วยผงคริสตัลที่มีขนาดเล็ก เมื่อผงคริสตัลกระทบกับผิว ก็จะสามารถกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวให้หลุดออกไปได้เร็วมากขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ก็ดูจางลงอีกด้วยค่ะ

รักษาฝ้า ด้วย IPL

การรักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการใช้พลังงานจากแสงยิงลงไปที่ผิวเพื่อให้เกิดความร้อน โดยสามารถเข้าไปทำลายเม็ดสีผิว ทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นมาได้

รักษาฝ้า ด้วยเมโส

เป็นการฉีดตัวยาที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง สามารถช่วยชะลอการกระจายตัวของฝ้าได้

cosmelan pack รักษาฝ้า ได้อย่างตรงจุด ป้องกันการเกิดรอยดำใหม่ ลดเลือนฝ้ากระ จุดด่างดำได้อย่างมืออาชีพ

mesoestetic cosmelan pack

cosmelan pack จากแบรนด์คุณภาพอย่าง mesoestetic ผลิตภัณฑ์จากประเทศสเปน ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 38 ปี ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า มากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก  cosmelan pack เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยป้องกันการกลับมาของรอยดำ เหมาะกับผู้ที่มีการกระจายตัวของฝ้าในปริมาณมาก 31-100 % ของพื้นที่ผิวบนใบหน้าทั้งหมด

ภายในเซ็ท cosmelan pack มีผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า คือ

  • cosmelan 1 facial mask 
    เป็นมาส์ก ที่มีส่วนผสมเข้มเข้นของสารสกัดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพอย่าง กรดโคจิก(Kojic Acid), Azelaic Acid, Phytic Acid, Ascorbic Acid, อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin) และวิตามินบี 3 ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังได้อีกด้วย
  • cosmelan 2 maintenance cream 
    เป็นครีมสูตรเข้มข้นที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี  สามารถลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างต่อเนื่อง ป้องกันรอยดำที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ช่วยคงไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมในระยะยาว  อุดมไปด้วยส่วนผสมหลักเกรดพรีเมี่ยมอย่าง กรดโคจิก (Kojic Acid), อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin), Ascorbic Acid  และวิตามินบี 3  ไร้สารอันตราย อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว
  • melan recovery 
    เป็นบาล์มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ที่สามารถช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกหลังทำทรีตเมนต์ มีส่วนประกอบสำคัญคือ เอคโตอิน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงให้เกราะปกป้องผิว  , สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ช่วยบรรเทาอาการแดงของผิว , สควาเลน  ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว , สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว และปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ  รวมถึง Vitamin B3 ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้กระจ่างใสมากขึ้น  , Shea butter ที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม และ     พรีไบโอติก ที่ช่วยปรับค่าของจุลินทรีย์บนผิวให้เกิดความสมดุล
  • melan 130 pigment control
    ครีมกันแดดประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVBได้อย่างอ่อนโยน มีค่า SPF สูงถึง 130  มีส่วนผสมของกรดอะเซลาอิก ที่ช่วยป้องกันรอยหมองคลํ้าหรือจุดด่างดําจากแสงแดด และ Sunflower seed oil (NMF) ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว
  • degreasing solution 
    เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจด เพื่อผิวจะสามารถดูดซึมสารอาหารสำคัญจากครีมได้อย่างเต็มที่

ปัญหาฝ้า อาจดูเหมือนเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ แต่ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและการรักษาที่เหมาะสม คุณสามารถฟื้นฟูผิวหน้าที่เสียหายให้กลับมาสดใสและเรียบเนียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้าได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ รวมถึงการรักษาฝ้าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็สามารถช่วยให้รอยด่างดำจางลง เรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาได้ หากคุณเริ่มดูแลผิวตั้งแต่วันนี้ ปัญหาฝ้าเรื้อรังจะไม่กลับมากวนใจอีกแน่นอน!

คำถามที่พบบ่อย

Q : การใช้ครีมกันแดดช่วยป้องกันฝ้าได้อย่างไร ?
A : ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเกิดฝ้า ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

Q : อาหารหรือไลฟ์สไตล์มีผลต่อการเกิดฝ้าหรือไม่ ?
A : การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C และ E สามารถช่วยลดการเกิดฝ้าได้ และการพักผ่อนให้เพียงพอ ก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน

Q :  รักษาฝ้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติได้ไหม ?
A : สมุนไพรบางชนิด เช่น ขมิ้น หรือว่านหางจระเข้ อาจช่วยลดการอักเสบและทำให้ฝ้าจางลงได้ แต่ผลลัพธ์อาจไม่เท่ากับการรักษาทางการแพทย์ และอาจใช้เวลานาน

Q : คนที่มีฝ้า ควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง ?
A : ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง และความเครียดที่อาจกระตุ้นฮอร์โมน

Q : การผลัดเซลล์ผิว ช่วยรักษาฝ้าได้จริงหรือไม่ ?
A : การผลัดเซลล์ผิวด้วยสาร AHA หรือ BHA ช่วยลดเลือนฝ้าได้ เพราะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่มีเม็ดสีเมลานินสะสม แต่ควรทำอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง