กรดอะมิโน คืออะไร ? สำคัญกับผิวเราอย่างไร ? ตัวช่วยกู้ผิวที่ห้ามมองข้าม

กรดอะมิโน

“กรดอะมิโน” ตัวช่วยสำคัญในครีมบำรุงผิวหรือสกินแคร์ทั้งหลาย ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน และดูอ่อนล้า ไม่สดใส ช่วยกู้ผิวหน้าให้กลับมาเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ พร้อมเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง  ซึ่งกรดอะมิโน เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญ ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เป็นตัวช่วยทรงพลัง ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักประโยชน์ของกรดอะมิโน พร้อมวิธีเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวหน้าของคุณกลับมาสวยใส ดูอ่อนวัย และแข็งแรงได้อีกครั้ง

กรดอะมิโน คืออะไร ?

กรดอะมิโน (Amino Acid) คือองค์ประกอบสำคัญของโปรตีน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ผิวหนัง มีบทบาทในการฟื้นฟูและบำรุงผิวให้แข็งแรง ช่วยรักษาความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและการระคายเคืองต่าง ๆ  กรดอะมิโน ประกอบไปด้วยโครงสร้าง 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่

  • กลุ่มอะมิโน (NH2)  ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นด่าง
  • กลุ่มคาร์บอกซิล (COOH) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรด

ประเภทของ กรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อผิวมีอะไรบ้าง?

กรดอะมิโนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามหลักโภชนาการ ได้แก่

  1. กรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids)
    เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหารอื่น ๆ  เช่น ลิวซีน (Leucine), ไอโซลิวซีน (Isoleucine), และวาลีน (Valine) เป็นต้น
  2. กรดอะมิโนไม่จำเป็น (Non-Essential Amino Acids)
    คือ ร่างกายสามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนประเภทนี้ได้เอง เช่น กลูตามีน (Glutamine) และไกลซีน (Glycine) เป็นต้น

สำหรับกรดอะมิโนสำคัญ ที่มีส่วนในการดูแลผิวมีหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • กลูตามีน (Glutamine)
    เป็นกรดอะมิโนที่มีความสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอย
  • ไกลซีน (Glycine)
    เป็นกรดอะมิโนที่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีน ที่ทำให้ผิวแน่นกระชับ ลดการเกิดริ้วรอย และช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น
  • โปรลีน (Proline)
    ช่วยในการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว และรักษาความชุ่มชื้นจากภายใน
  • ซีรีน (Serine)
    มีบทบาทสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้น และทำให้ผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่ง สุขภาพดี
  • อาร์จินีน (Arginine)
    ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในผิวหนัง ทำให้ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ช่วยลดการอักเสบ และฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมภายนอก
  • ทรีโอนีน (Threonine)
    กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยฟื้นฟูผิวที่บอบบางและระคายเคือง พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว

ประโยชน์ของ กรดอะมิโน สำหรับการดูแลผิว คืออะไร?

กรดอะมิโน (Amino Acids) มีประโยชน์มากมายในการดูแลผิวพรรณ ดังต่อไปนี้

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

กรดอะมิโนมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวดูสดใส และเนียนนุ่มตลอดทั้งวัน ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง และผิวลอกเป็นขุยได้เป็นอย่างดี

เสริมความยืดหยุ่นและยกกระชับผิว

กรดอะมิโนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญ ในการทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ นอกจากนั้น ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์

ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย

กรดอะมิโนช่วยในการซ่อมแซมผิวที่มีความเสียหายจากแสงแดด มลภาวะ หรือการระคายเคืองต่าง ๆ โดยช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและแข็งแรง

ลดการอักเสบและระคายเคือง

กรดอะมิโนบางชนิด มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบและระคายเคืองผิว ช่วยปลอบประโลมผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย ทำให้ผิวดูสุขภาพดี และไม่เกิดอาการบวมแดง

เสริมเกราะป้องกันผิว

กรดอะมิโนช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและสารเคมี ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง หรือสูญเสียความชุ่มชื้น โดยการรักษาผิวให้แข็งแรง และสามารถต้านทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

ข้อควรพิจารณาในการใช้กรดอะมิโนในการดูแลผิว

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เซรั่ม, มอยส์เจอไรเซอร์ หรือมาสก์หน้า จะช่วยให้กรดอะมิโนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ทั้งยังช่วยให้ผิวได้รับประโยชน์จากกรดอะมิโนอย่างเต็มที่ ในการฟื้นฟูและรักษาผิว มีสิ่งที่จะต้องพิจารณา ดังต่อไปนี้

  • เลือกครีมที่ระบุส่วนผสมกรดอะมิโน
    ประเภท โปรลีน (Proline) และ กลูตามีน (Glutamine) ที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิว และช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิวได้ดีอีกด้วย
  • เลือกเซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    โดยเฉพาะเซรั่มที่มีกรดอะมิโนอย่าง ซีสเทอีน (Cysteine)  ที่มีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว
  • เลือกมาส์กที่ช่วยฟื้นฟูผิว
    เลือกมาส์กที่มีสารอาหาร และมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก ในการใช้กรดอะมิโนในการบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิธีการ ดังต่อไปนี้
  • ใช้กรดอะมิโนในขั้นตอนการบำรุงผิวตอนเช้าและเย็น
    ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอะมิโนในขั้นตอนการบำรุงผิวทั้งเช้าและเย็น เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ โดยในตอนเช้าให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีกรดอะมิโนเพื่อเสริมความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากมลภาวะตลอดทั้งวัน ส่วนตอนเย็นให้ใช้เซรั่ม หรือมาสก์หน้า เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวในช่วงกลางคืน
  • ใช้กรดอะมิโนร่วมกับสารบำรุงอื่น ๆ
    การใช้กรดอะมิโนร่วมกับสารบำรุงอื่น ๆ เช่น วิตามินซี หรือกรดไฮยาลูโรนิก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวได้มากขึ้น
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอะมิโนหลายชนิด
    การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอะมิโนหลายชนิด จะช่วยให้ผิวได้รับประโยชน์จากกรดอะมิโนที่หลากหลาย  เช่น การเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอย เป็นต้น
  • ไม่ใช้ในปริมาณมากเกินไป
    แม้กรดอะมิโนจะดีต่อผิว แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ผิวมีการสะสมสารต่าง ๆ ในผิว ดังนั้น จึงควรใช้ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ หรือทดสอบในปริมาณเล็กน้อยก่อนใช้โดยการทาเนื้อครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของอะมิโน ลงบนบริเวณหลังหูหรือข้อมือ แล้วรอดูอาการประมาณ 24 ชั่วโมง หากไม่เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้  สามารถใช้ได้ตามปกติ

เพิ่มเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง ด้วยพลังกรดอะมิโน เผยผิวเรียบเนียน สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ กับ melan recovery

melan recovery

melan recovery หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจาก mesoestetic ที่มาในรูปแบบของบาล์มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโน Ectoin ที่ช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงให้เกราะปกป้องผิว(barrier function) พร้อมทั้งช่วยลดการสะสมของอนุมูลอิสระบนผิว ที่เป็นผลมาจากความร้อน แสงยูวี และอนุมูลอิสระจากภายนอก พร้อมทั้งช่วยปลอบประโลมผิว ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะหลังจากการทำทรีตเม้นท์ ที่อาจทำให้ผิวหลุดลอก และช่วยป้องป้องผิวจากสิ่งแวดล้อมภายนอก  ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวระคายเคือง ลดอาการแดงของผิว และช่วยทำให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งนอกจากมีส่วนผสมของกรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อผิวแล้ว ยังมีส่วนผสมสำคัญที่เป็นประโยชน์ในการบำรุงผิว ดังต่อไปนี้

  • Rhodosorus marinus extract
    สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง  มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว และช่วยบรรเทาอาการแดงของผิว
  • Aqualane
    สคาเลน เป็นน้ำมันชนิดเดียวกันกับผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
  • Bisabolol
    เป็นสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองบนผิว ทำให้ผิวผ่อนคลาย ปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ
  •  Vitamin B3
    มีประสิทธิภาพช่วยลดเลือนจุดด่างดำ  พร้อมปรับสีผิวให้กระจ่างใส
  • Shea butter
    อุดมไปด้วยโอเมก้า 6 ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม สุขภาพดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว บรรเทาอาการแห้งตึงของผิว  เสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง
  • Prebiotic defense
    เป็นพรีไบโอติก ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิว ช่วยให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
กรดอะมิโน

การกู้ผิวหน้าให้กลับมาเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ และ เสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงด้วยกรดอะมิโน เป็นวิธีดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์อย่างยั่งยืน เพราะกรดอะมิโนช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เสริมสร้างความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และปกป้องผิวจากมลภาวะและการระคายเคือง การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโนอย่างเหมาะสม พร้อมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีผิวสุขภาพดี เนียนนุ่ม กระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ

คำถามที่พบบ่อย

Q : กรดอะมิโนสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวหรือไม่ ?
A : กรดอะมิโนเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่แห้งหรือบอบบาง เนื่องจากกรดอะมิโนช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น และบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก

Q : ใช้กรดอะมิโนในการบำรุงผิวแล้ว จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่ ?
A : หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโนแล้ว จะเห็นผลในช่วง 1-2 สัปดาห์ หากใช้อย่างต่อเนื่อง จะสังเกตเห็นผิวที่กระจ่างใสและกระชับขึ้น

Q :  กรดอะมิโนในสกินแคร์ ปลอดภัยหรือไม่ ?
A : กรดอะมิโนที่เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ มีความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย

Q :  ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโนตอนไหน ?
A : ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโน สามารถใช้ได้ทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น ควรทาเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีกรดอะมิโน หลังจากทำความสะอาดผิวแล้ว เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

Q : อาหารที่มีกรดอะมิโน มีอะไรบ้าง ?
A : อาหารที่มีกรดอะมิโนสูง เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งมีกรดอะมิโนที่สำคัญ เช่น โปรลีน (Proline) และไกลซีน (Glycine) ช่วยสร้างคอลลาเจน , ปลา มีกรดอะมิโนและโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว , ถั่วและธัญพืช เป็นแหล่งกรดอะมิโนจากพืช ที่ดีต่อสุขภาพผิว , ไข่ อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทุกชนิด ช่วยซ่อมแซมเซลล์และฟื้นฟูผิวที่เสียหาย รวมไปถึงผักและผลไม้ เช่น ผักโขม, อโวคาโด และเบอร์รี่ ช่วยเสริมการดูดซึมกรดอะมิโนและเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถรับประทาน ควบคู่กับการบำรุงผิวภายนอกได้