อย่าเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้!

ถ้าพูดเรื่องความสวยความงาม เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากให้มันเกิดขึ้นและอยู่กับเราไปได้นานๆตลอดๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการคิดค้นวิธีการต่างๆขึ้นมาเพื่อช่วยในการชะลอวัย กลบริ้วรอย ร่องลึกแห่งวัยบนใบหน้า ยิ่งถ้าช่วยโกงอายุได้ก็ยิ่งดี และหนึ่งในตัวช่วยดีๆที่นิยมนำมาเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้คุณสวยทันใจได้นั่นก็คือ “ฟิลเลอร์” ถึงแม้ฟิลเลอร์จะถูกนำมาใช้ยาวนาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีเชื่อหรือความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับสารเติมเต็มชนิดนี้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับฟิลเลอร์ เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องและตอบโจทย์ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) เรียกได้ว่าเป็นสารเติมเต็มที่นำมาฉีดเพื่อ่ชวยในการปรับรูปหน้า ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยในการชะลอวัยให้หน้าดูเด็กลงได้ด้วย แท้จริงแล้ว ฟิลเลอร์มีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ถูกนำไปใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังมีระยะเวลาในการสลายตัวที่แตกต่างกันอีกด้วย แต่ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา(อย.) ทั้งไทยและทั่วโลก คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือที่เรียกว่า HA ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเลียนแบบจากสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย สามารถสลายได้เองในช่วง6 – 24 เดือน โดยขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ

ฟิลเลอร์ช่วยอะไรได้บ้าง

จุดเด่นของฟิลเลอร์ คือช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกในส่วนต่างๆบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอบดวงตา ร่องแก้ม ปาก คาง หรือหน้าผาก นอกจากนั้นยังรวมถึงรอยย่นเป็นเส้นที่ลำคอ มือเท้าที่เหี่ยวย่น ติ่งหู และอวัยวะเพศ ทั้งยังสามารถช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดีขึ้นได้อีกด้วย การใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มในส่วนต่างๆ สามารถช่วยแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆได้ ดังต่อไปนี้

• คาง – นิยมใช้ฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ให้รูปหน้าดูเรียวยาว มีมิติ และมีสัดส่วนที่ดีมากขึ้น

• ปาก – เมื่อฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปาก สามารถช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่มีขอบ ปากไม่เป็นทรง ทาลิปสติกแล้วไม่สวยได้ ซึ่งสารเติมเต็มในฟิลเลอร์สามารถทำให้ปากดูอวบอิ่ม มีรูปปากที่ชัดเจน มุมปากยกขึ้น ทำให้หน้าดูหวานขึ้น

• ใต้ตา – ปัจจัยต่างๆทั้งในเรื่องของอายุและการใช้ชีวิต เช่นนอนดึก เป็นภูมิแพ้ ล้วนแต่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระดูกใต้ตายุบตัวลง เนื้อบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยหรือความหมองคล้ำรอบดวงตา การเติมฟิลเลอร์ในส่วนนี้จะทำให้บริเวณรอบดวงตามีความอิ่มฟูขึ้น ดูสดใส สุขภาพดี

• ขมับ – คนส่วนใหญ่มักมีปัญหาเกี่ยวกับขมับตอบลง ทำให้หน้าดูโทรม ดูมีอายุ การใช้ฟิลเลอร์เติมเข้าไป ทำให้รูปหน้าดูมีมิติ มีความละมุนมากขึ้น และหลายคนยังเชื่อว่าสามารถเสริมโหงวเฮ้งได้ดีอีกด้วย

• ร่องแก้ม – อีกหนึ่งจุดที่คนนิยมฉีดฟิลเลอร์คือช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ที่ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย แต่เมื่อเติมฟิลเลอร์เข้าไป จะช่วยให้หน้าอิ่มฟู ร่องแก้มดูตื้นขึ้น

• แก้มส้ม – อีกหนึ่งเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าแบน บริเวณแก้มเกิดการยุบตัวลง แต่การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าแก้มสามารถช่วยปรับเปลี่ยนจุดกระทบของแสงที่ตกบริเวณโหนกแก้ม ให้เปลี่ยนมาตกกระทบที่บริเวณหน้าแก้มหรือครึ่งกลางตา ทำให้หน้าหวานละมุนในสไตล์เกาหลีมากขึ้น

• แก้ม – ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ ที่ทำให้หน้าโทรม ดูแก่ก่อนวัย แต่เมื่อเติมสารเติมเต็มเข้าไป จะช่วยทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อย ใบหน้าอิ่มเอิบและสดใส ทั้งยังช่วยลดความเด่นของบริเวณโหนกแก้มได้ดีอีกด้วย

• กรอบหน้า – การฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ใบหน้าได้รูปที่สวยมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยม ทั้งยังสามารถช่วยกระชับผิวที่เกิดปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าให้กลับมาเต่งตึงได้ดีอีกด้วย

• ผิวหน้าโดยรวม – ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาความบกพร่องในจุดต่างๆบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวโทรม ผิวขาดน้ำ ให้มีความฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดีขึ้น

ทำไมฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

การฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

• แพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีด ฉีดฟิลเลอร์ในระดับที่ตื้นจนเกินไป ทำให้จับตัวกันเป็นก้อน

• เลือกฟิลเลอร์ผิด เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละประเภท แต่ละยี่ห้ออาจจะไม่เหมาะสมกับคนเอเชีย และอาจทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนขึ้นมาได้

• บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ เช่น ใต้ดวงตา เป็นก้อนอยู่แล้ว ซึ่งสามารถรู้ได้ในขั้นตอนของการตรวจสภาพผิวหน้าหรือการประเมินสภาพผิวก่อนฉีด หนึ่งในปัจจัยที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหนียวของเส้นเอ็นหรือความหนาตัวของกล้ามเนื้อบริเวณหัวตาหรือในจุดที่ต้องการฉีดด้วย

• ใช้ฟิลเลอร์ปลอม แน่นอนว่าฟิลเลอร์ปลอม ไม่เพียงทำให้เกิดก้อนในบริเวณที่ฉีดเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่ออาการผิดปกติต่างๆตามมา เช่นกล้ามเนื้อตาย หรือในบางรายก็ส่งผลให้ตาบอดได้เลย

ฉีดฟิลเลอร์แล้วอันตรายหรือไม่? นอกจากการไม่เสี่ยงไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่นำมาซึ่งอันตรายร้ายแรงแล้ว การพิจารณาถึงประเภทของฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วยกัน ฟิลเลอร์ในทางการแพทย์เรียกว่าสารเติมเต็ม(Injectible Filler) ซึ่งมีหลายประเภทด้วยกัน ดังต่อไปนี้

• Hyaluronic Acid(HA) เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้ ทั้งยังสามารถฉีดใหม่ได้อยู่เรื่อยๆ

• Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เนื่องจากสามารถทำให้เกิดอาการแพ้ บวมแดงได้โดยง่าย

• Transplanted Fat (เติมไขมัน) เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ประเภทนี้ครั้งละมากๆ ประมาณ 10-20 cc ขึ้นไป

• Biosynthetic polymers เช่น Calcium hydroxylapatite, polymethylmethacrylate, เป็นกลุ่มซิลิโคนเหลว เรียกได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ที่สลายได้ไม่หมด ไม่ปลอดภัย และไม่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยา

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์

ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีหลายประเด็นที่คนทั่วไปอาจจะเข้าใจบิดเบือนหรือมีความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ดังต่อไปนี้

• เข้าใจว่าฟิลเลอร์หรือซิลิโคนเหลว แท้จริงแล้ว ฟิลเลอร์ ไม่ใช่ซิลิโคนเหลว แต่เป็นสารเติมเต็มที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาจุดบกพร่องในส่วนต่างๆของผิวหน้า ส่วนซิลิโคนเหลว เป็นเพียงแค่หนึ่งในประเภทของฟิลเลอร์ที่มีอยู่ทั่วไปเท่านั้น และโดยปกติฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1) แบบชั่วคราว หมายถึงว่า สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยจะใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา มีความปลอดภัยสูง เป็นฟิลเลอร์ประเภทเดียวที่ได้รับการรับรอง สามารถอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและการใช้ชีวิตของแต่ละคน

2) แบบกึ่งถาวร เป็นสารประกอบสังเคราะห์ประเภท PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) สามารถเข้ากันกับเนื้อของคนเราได้ดี อยู่ได้นานกว่าแบบชั่วคราว อยู่ได้นานประมาณ 2 ปี เป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง อาจเกิดอาการแพ้ได้ในบางราย

3) แบบถาวร มีสารประกอบของซิลิโคนเหลว ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง มีผลข้างเคียงสูง ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายในบางรายถึงขั้นเสียโฉมได้ แก้ไขโดยการขูดออกเพียงอย่างเดียว

• วิธีดูว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ต้องดูที่กล่องเท่านั้น ในข้อสังเกตนี้ ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เนื่องจากในปัจจุบันมีการลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ปลอมได้อย่างแนบเนียนจนแยกไม่ออกเลยทีเดียว จนไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตาเปล่า แต่มีจุดสังเกตที่สำคัญ คือ

o ให้สังเกตฉลากภาษาไทยที่กล่อง เนื่องจากฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย จะมีการระบุรายละเอียดสินค้าเป็นภาษาไทยติดเอาไว้ที่ข้างกล่อง รวมถึงการ

ระบุราคา วันหมดอายุ ข้อมูลของฟิลเลอร์ ตรามาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจาก อ.ย. ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ ให้สันนิษฐานเอาไว้ว่าเป็นของปลอมชัวร์ๆ

o สังเกตราคา ถ้าราคาถูกเกินไป ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่าฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอม

o หากไม่แน่ใจในการแยกแยะของแท้กับของปลอม ให้นำฟิลเลอร์นั้นไปพบแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จะเป็นผู้ที่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนแท้หรือปลอม

• สามารถซื้อฟิลเลอร์มาฉีดเองได้ นี่เป็นความเชื่อและความเข้าใจผิดแบบมหันต์และอันตรายมากๆ สำหรับคนที่เข้าใจว่าสามารถซื้อฟิลเลอร์มาแล้วฉีดได้เองหรือให้หมอกระเป๋าที่รับจ้างฉีดฟิลเลอร์ฉีดให้ โดยไม่ต้องง้อแพทย์ สิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจก่อนเลยก็คือว่า ตำแหน่งที่จะฉีดฟิลเลอร์นั้น ล้วนมีความละเอียดอ่อนสูงมาก เพราะเกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่อและเส้นเลือด โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา หรือหว่างคิ้ว ซึ่งจำเป็นเป็นอย่างมากที่จะต้องให้แพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญเท่านั้นเป็นผู้ฉีด เพราะถ้าหากฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดเข้ากล้ามเนื้อผิดชั้น ก็จะทำให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงตามมาได้ ที่ไม่เพียงทำให้เกิดการอักเสบเท่านั้น แต่ยังถึงขั้นทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว

• ฉีดฟิลเลอร์ครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดชีวิต สิ่งนี้ไม่เป็นความจริง เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่มีสารประกอบ Hyaluronic Acid(HA) จะมีอายุอยู่ได้ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละท่าน รวมถึงการใช้ชีวิตของแต่ละคนว่าจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ช้าหรือเร็วมากเพียงใด และถ้าหากว่าฟิลเลอร์สลายตัวไปแล้ว ก็จะต้องกลับมาฉีดซ้ำใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนเป็นลำ สามารถฉีดสลายได้ทุกกรณี ความจริงก็คือ ถ้ากรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แล้ว เป็นก้อนเป็นลำ ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ สามารถที่จะฉีดเพื่อย่อยสลายได้ โดยแพทย์จะใช้สารที่เรียกว่า Hyaluronidase ซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ใช้ฉีดเพื่อย่อยสลายสารประกอบ Hyaluronic acid โดยเฉพาะ แต่กรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมา หรือใช้ฟิลเลอร์ประเภทถาวรพวกซิลิโคนเหลว จะไม่สามารถฉีดสบายออกได้ ต้องแก้ไขด้วยการขูดออกเพียงอย่างเดียว

• ฟิลเลอร์ราคาแพงเกินไป ฉีดได้เฉพาะคนมีเงิน สิ่งที่ทำให้เราคิดว่าฟิลเลอร์ต้องราคาแพงเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่าพรีเซ็นเตอร์ของฟิลเลอร์ส่วนใหญ่เป็นดารา หรือเซเลบ ที่ใช้ของแพงๆ ก็เลยทำให้หลายคนเหมาไปว่า ฟิลเลอร์ต้องราคาเกินเอื้อมแน่นอน แต่

แท้ที่จริงแล้ว ฟิลเลอร์แท้ที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคา ทั้งจากทางยุโรปไปจนถึงเกาหลี ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น สามารถเลือกได้ตามงบประมาณที่ท่านมี

• ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้แค่ริมฝีปากเท่านั้น แท้จริงแล้ว ริมฝีปากก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฟิลเลอร์สามารถฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาหรือทำให้ปากอวบอิ่มดูมีสุขภาพดีเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มีการผลิตฟิลเลอร์ออกมาในหลากหลายยี่ห้อและรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็สามารถใช้ฉีดในจุดที่แตกต่างกันได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคาง หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม หรือเพิ่มความชุ่มชื้นผิวฉ่ำวาวให้กับใบหน้าก็สามารถใช้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการฉีดที่ตำแหน่งใด และเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าและสามารถแนะนำยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ได้

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วอันตราย การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นความเสี่ยงและอันตรายในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอที่ขาดความรู้และประสบการณ์ ทำในสถานเสริมความงามเถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตรวมถึงพวกหมอกระเป๋า และความเข้าใจที่บอกว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วเสี่ยงต่ออันตราย อาจจะเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ในยุคแรกๆที่เป็นประเภทซิลิโคนเหลวหรือคอลลาเจนจากสัตว์ ที่เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วเป็นสิ่งแปลกปลอมที่สามารถเกิดการอักเสบหรือเกิดอาการแพ้ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเกิดภาวะฟิลเลอร์ไหล มีการจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้เกิดพังผืดในบริเวณที่ฉีด ทั้งยังไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสารประกอบในฟิลเลอร์เป็น Hyaluronic Acid(HA) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในเนื้อเยื่อร่างกายมนุษย์ ที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทั้งยังไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เพียงมีรอยช้ำจากการใช้เข็ม อาการบวมหรือแดงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดเท่านั้น

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ อีกหนึ่งความเข้าใจผิดของใครหลายคน คือฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าจะดูแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ละมุน แต่ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าเลือกฟิลเลอร์ให้ตรงจุดกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข และเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และมีความรู้เรื่องสรีระบนใบหน้า เป็นอย่างดี ที่จะช่วยประเมินผิวและรูปหน้า เพื่อที่จะเลือกฟิลเลอร์ที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ก็จะทำให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ออกมาดี มีความเป็นธรรมชาติ มีมิติ สวยละมุนขึ้นมาได้ตามต้องการ

• ฟิลเลอร์เป็นสารตกค้าง ไม่สามารถย่อยสลายได้ ตามที่กล่าวไปข้างต้น ว่าฟิลเลอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทใหญ่ๆ คือฟิลเลอร์ที่สามารถย่อยสลายเองได้ แบบกึ่งย่อยสลายได้แต่ใช้เวลานาน และแบบถาวรที่ไม่สามารถย่อยสลายเองตามธรรมชาติอย่างพวกซิลิโคนเหลว เมื่อฉีดเข้าไปในตำแหน่งต่างๆบนใบหน้า ก็จะยึดเกาะอย่างแน่นหนากับเนื้อเยื่อในส่วนนั้นๆ ถ้าต้องการนำออก จะต้องใช้วิธีผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น หรือในบางกรณีที่มีพังผืดยึดติดเกาะกับเนื้อเยื่อจำนวนมาก ก็จะต้องตัดเอาเนื้อเยื่อที่ดีออกมาด้วย ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า ฟิลเลอร์ที่ตกค้างหรือไม่สามารถสลายได้จะเป็นสารเติมเต็มแบบถาวรหรือเป็นพวกฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วมักจะไหลไปที่อื่น หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์แล้ว เนื้อฟิลเลอร์สามารถไหลไปที่อื่น ที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องการได้ โดยมีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประการใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

o ใช้ฟิลเลอร์ประเภทถาวร คือไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสารประกอบประเภทซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน เมื่ออยู่ในผิวหนังของคนเรานานเข้า ก็มักจะมีการเคลื่อนตัวอยู่บ่อยครั้ง หรือที่เข้าใจกันว่าฟิลเลอร์ไหลนั่นเอง

o เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์เกิดอาการไหลได้ ในกรณีนี้รวมไปถึงความไม่ชำนาญหรือขาดประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการฉีดด้วย โดยแพทย์จะต้องเป็นผู้ที่ประเมินผิวหน้า เพื่อดูภาพรวมของใบหน้าทั้งหมด วิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าเป็น พร้อมทั้งแนะนำยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและไม่มีปัญหาเรื่องการไหลของฟิลเลอร์ตามมา

• ฟิลเลอร์จะละลายเมื่อโดนความร้อน ในกรณีที่ให้ระมัดระวังเรื่องความร้อนกับการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่ประเด็นว่าจะทำให้ฟิลเลอร์ละลาย หากแต่เป็นเพราะว่าความร้อนสามารถทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสลายได้เร็วขึ้นต่างหาก เพราะผิวหนังและกล้ามเนื้อจะมีการบีบรัดตัวในขณะที่โดนความร้อนสูง เช่น การอบไอน้ำหรือการอบซาวน่า ซึ่งอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวหรือไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ หรือที่เรียกว่าฟิลเลอร์ไหลนั่นเอง

• ฟิลเลอร์ 1 หลอดสามารถฉีดได้ทุกที่จริงหรือ? ฟิลเลอร์ 1 หลอด มีปริมาณ 1 cc เท่านั้น จึงไม่สามารถฉีดได้ทุกที่บนใบหน้าได้ และนอกจากนั้นฟิลเลอร์แต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาในแต่ละจุดที่แตกต่างกันด้วย

และโดยทั่วไป ฟิลเลอร์จะถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับคือแข็ง กลาง และนิ่ม ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละระดับมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและช่วยแก้ปัญหาได้ในตำแหน่งที่แตกต่างกันด้วย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

o ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟิลเลอร์ในลักษณะนี้จะเป็นกลุ่มก้อนที่ชัดเจน มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะที่จะใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการขึ้นรูป หรือปั้นทรง เช่นแก้ม คาง ขมับ จมูก สันกราม และกรอบหน้า ทำให้ดูคมชัดและมีมิติมากขึ้น

o ฟิลเลอร์เนื้อกลาง ฟิลเลอร์ลักษณะนี้จะนิ่มกว่าแบบเนื้อแข็ง ปั้นทรงได้ง่าย มักนำมาใช้ฉีดบริเวณหน้าผาก ริมฝีปาก ขมับ ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก เหมาะกับคนผิวบางที่ชอบความเป็นธรรมชาติ

o ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์ระดับนี้จะมีความยืดหยุ่นและการคงรูปต่ำ มีลักษณะเป็นเนื้อเหลว แต่สามารถกลืนเข้ากับผิวของคนเราได้มากที่สุด ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล ฉ่ำวาว เรียบเนียน ทำให้ชั้นผิวดูหนาขึ้น มักถูกนำมาใช้บริเวณใต้ตา ร่องน้ำตา ริ้วรอยต่างๆ รวมถึงฉีดเพื่อแก้ปัญหาปากแห้งได้อีกด้วย

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ก่อนฉีดจะต้องมีการประเมินสภาพผิวหน้าก่อนว่าแต่ละจุดมีปัญหาแบบไหนและต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหน ยี่ห้อไหนและใช้ในปริมาณเท่าไร

• จริงหรือ? ที่ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ท่านใดก็ได้ ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน นี่เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ให้จะต้องมีความชำนาญสูงและมีประสบการณ์ในการฉีด พร้อมทั้งสามารถเลือกยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่มาฉีดได้อย่างตรงจุด รวมถึงเทคนิคต่างๆและความแม่นยำในการลงเข็มที่ชั้นผิวหนังได้อย่างถูกต้องด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนเป็นลำ

• ห้ามกินวิตามินก่อนมาฉีดฟิลเลอร์จริงหรือ? เนื่องจากวิตามินบางตัวหรือพวกอาหารเสริมบางชนิด อย่างเช่น วิตามินอี ยาแอสไพริน หรือสารสกัดจากใบแปะก๊วย มีฤทธิ์ที่ไปกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า ซึ่งในระหว่างที่ฉีดฟิลเลอร์นั้น อาจจะทำให้เกิดภาวะเลือดไหลไม่หยุดและทำให้เกิดอาการช้ำมากกว่าปกติตามมานั้นเอง

• หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามนวดหน้าใช่หรือไม่? เนื่องจากการนวดหน้าหลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวในตำแหน่งที่ฉีดก็เป็นได้

ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ นอกจากนั้น ควรงดแต่งหน้า 24 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรงๆ รวมถึงพยายามที่จะไม่ยิ้มกว้างๆมากจนเกินไป เป็นต้น

• ฟิลเลอร์สามารถทำให้ตาบอดได้จริงหรือ? การฉีดฟิลเลอร์แล้วทำให้ตาบอด สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐานและฉีดกับหมอเถื่อน หรือแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่สารประกอบในฟิลเลอร์หลุดเข้าไปในกระแสเลือดแล้วเกิดการบล็อคเส้นเลือดเอาไว้ ซึ่งจะต้องระมัดระวังในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก หรือจมูกเพราะเป็นจุดที่มีเส้นเลือดพาดผ่านเป็นจำนวนมาก

• ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน แล้วสามารถหายได้เองจริงหรือ? ในการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีอยู่ 2 ลักษณะคือ เกิดจากการบวมเข็ม บวมยาช้า กรณีนี้ไม่อันตราย สามารถหายเองได้ แต่ถ้าฉีดแล้วเป็นก้อนแข็งแล้วไม่ยุบ เป็นไปได้ว่าเกิดจากการที่แพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องในการฉีด หรืออาจจะฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เห็นเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน ในกรณีเช่นนี้ สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ แต่ถ้าในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ผ่านไปนานหลายปีแล้ว ยังเห็นเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไม่สลายไปเอง ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งไม่สามารถฉีดสลายออกได้ ต้องใช้การขูดหรือผ่าตัดออกเท่านั้น

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำให้หน้าดูใหญ่ การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในส่วนที่ขาดหาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของมวลกระดูกหรือไขมัน เป็นไปได้ที่หน้าจะดูใหญ่ขึ้นหรือดูย้อยถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์และไม่มีความเชี่ยวชาญ เพราะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงจุดหรือฉีดฟิลเลอร์ในระดับที่ตื้นจนเกินไป ทำให้เนื้อของฟิลเลอร์ไปกองกันอยู่ในชั้นผิวที่ตื้นๆ ทำให้นูนออกมา เห็นเป็นก้อนที่ชัดเจน ทำให้หน้าดูใหญ่ ห้อยย้อย หรือหน้าผิดรูปได้

• ฟิลเลอร์สลายไปแล้ว ทำให้หน้าเหี่ยวจริงหรือ? ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว และถึงแม้ว่าฟิลเลอร์สลายออกไปแล้ว คอลลาเจนและอีลาสตินก็ยังคงอยู่ แต่สภาพผิวก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนฉีด แต่จะไม่ทำให้หน้าเหี่ยวกว่าเดิม แต่ที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าผิวไม่เหมือนเดิม เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ชินกับสภาพผิวของตัวเองตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นได้

ความจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่คุณต้องรู้

ฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามตัวท็อปที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและช่วยแก้ไขข้อบกพร่องบนใบหน้าได้ ทำให้เป็นที่นิยมกันเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่จะฉีดจะต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และนี่คือความจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่คุณจำเป็นต้องรู้ด้วย

1) ฟิลเลอร์ช่วยชะลออายุผิว พร้อมลดการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่นิยมนำมาฟื้นฟูสภาพผิวหน้า ให้มีความฉ่ำวาว สุขภาพดี เนื่องจากด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำ กักเก็บน้ำได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่น ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีความชุ่มชื้นราวกับมีน้ำไปหล่อเลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวได้ด้วย ทั้งยังสามารถช่วยลดริ้วรอยที่จะเกิดใหม่ได้เช่นกัน

2) สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้หลายจุด หลายคนเข้าใจว่า ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้เฉพาะบริเวณตำแหน่งต่างๆบนใบหน้าเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ในหลายๆตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น

o ฉีดที่หลังมือ เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้มีความเต่งตึงและชุ่มชื้นขึ้น เหมาะกับผู้ที่มือเหี่ยวหรือมีเส้นเลือดปูดที่หลังมือ

o ฉีดที่คอ เพื่อช่วยลดความเหี่ยว เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวบริเวณลำคอดูกระชับขึ้น

o ฉีดที่ใบหน้า ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาในจุดต่างๆ แต่ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า ให้ผิวเรียบเนียน ไม่ขรุขระ ทั้งยังช่วยเติมเต็มหลุมสิวได้ด้วย

3) กรดไฮยาลูรอนิคที่เป็นสารประกอบในฟิลเลอร์ เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา กรดไฮยาลูรอนิค เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ เมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่นๆ ทำให้จำนวนคอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ขาดความกระชับและความแข็งแรง ทำให้เกิดปัญหาผิวมากมายตามมา โดยเฉพาะเรื่องของร่องลึกและริ้วรอย จึงได้มีการคิดค้นสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนสังเคราะห์ขึ้นมาทดแทนไฮยาลูโรนิค เอซิดในร่างกายที่สูญเสียไปตามวัย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวดังกล่าว

4) สามารถเติมฟิลเลอร์ใหม่ได้ โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดสลาย แน่นอนว่าเราสามารถเติมฟิลเลอร์ได้ใหม่ตามความเหมาะสมและอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมที่เคยฉีดสลายไปก่อน แต่ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์

เพื่อที่จะได้เลือกยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

5) สามารถนำฟิลเลอร์มาฉีดเพื่อบำบัดโรคได้ ถ้าพูดถึงฟิลเลอร์ในระดับสากล มักจะหมายถึงไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือที่เราเรียกกันว่า HA ซึ่งสารประกอบชนิดนี้ไม่เพียงแต่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคด้วย เช่น เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม, ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ , ซ่อมแซมจอประสาทตาถลอก ตาแห้งและรักษาตาต้อกระจก เป็นต้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ อาการแบบไหนที่ไม่เป็นอันตราย?

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ มักมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นตามมาเล็กน้อย แต่ไม่ถือว่าอันตราย ดังต่อไปนี้

• อาการบวมเข็ม หรือมีผื่นคันเกิดขึ้นในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์

• หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจจะมีอาการบวมเกิดขึ้นบ้าง แต่จะค่อยๆเข้าที่ภายใน2 สัปดาห์

• แพทย์มักจะใช้พาสเตอร์ชิ้นเล็กๆปิดรอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ใน 1 ชั่วโมงหลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่มีอันตราย

เมื่อความสวยงามต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย ในการฉีดฟิลเลอร์ก็เช่นกัน ที่จะต้องมีข้อควรระวังในการฉีดการเลือกใช้ ที่ไม่เพียงให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีเท่านั้น แต่ยังต้องไม่ส่งผลเสียต่อผู้ที่รับการฉีดด้วย ซึ่งมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

• เลือกฟิลเลอร์ที่สามารถย่อยสลายได้ เช่น Hyaluronic Acid แท้ เพราะถ้าในกรณีที่มีปัญหาก็จะได้ฉีดสลายได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย

• เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรมีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล่องก่อนที่จะนำมาใช้ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับผิวหน้าในภายหลัง

• เลือกฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน คลินิกหรือสถานเสริมความงามที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ จะต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล มีเลขที่

ใบอนุญาต 11 หลัก ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สถานที่โปร่ง ไม่ลึกลับ สะอาด ปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ที่ http://privatehospital.hss.moph.go.th/

• เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีประสบการณ์ สามารถประเมินและวิเคราะห์สภาพผิวหน้าเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถตรวจสอบได้จริงที่ https://www.tmc.or.th/check_md/

• เลือกฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่มีรีวิวจริง ควรศึกษารีวิวจากช่องทางที่เป็นกลาง ไม่มีหน้าม้า เป็นโพสต์หรือรีวิวที่ทางคลินิกไม่สามารถลบได้ เพื่อจะได้นำมาประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ

แนะนำฟิลเลอร์น้องใหม่ ตอบโจทย์ทุกปัญหาบนใบหน้า

mesofiller® หนึ่งในนวัตกรรมความงามจาก mesoestetic ที่ถูกผลิตคิดค้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาในจุดต่างๆบนผิวหน้าของคุณได้อย่างมืออาชีพ โดยมีสารประกอบ Hyaluronic acid ที่สามารถย่อยสลายได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ด้วยเทคโนโลยี densimatrix technologyทำให้ได้โครงสร้างแบบ cross-linked hyaluronic acid 100% (non-free ha) มีคุณสมบัติพิเศษที่ตอบทุกโจทย์การแก้ปัญหาทุกจุดได้อย่างครอบคลุม ดังนี้

• ปลอดภัยต่อร่างกาย (Biocompatible)

• สามารถดูดซึมได้อย่างดี

• บาดเจ็บน้อยไม่ต้องผ่าตัด

• เห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรก

• ไม่ต้องพักฟื้น

• ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ในขณะที่จำนวนการฉีดลดลง

• สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย

• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและโครงสร้างของผิว

• ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น โดยการดูดความชื้น

• ปัจจัยเกิดการบวมต่ำ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีเนื้อเยื่อที่บางมาก เช่น ใต้ดวงตาและบริเวณหน้าผาก

• มีการปรับตัวและผสานกับเนื้อเยื่อ พร้อมกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

• ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 9-12 เดือน

ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการความงามที่เห็นผลได้ในทันทีทันใด และตอบโจทย์ความสวยได้แบบทันใจโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ แต่เพื่อความปลอดภัยผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรมีการศึกษาหาข้อมูลในแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อจะได้มีความเข้าใจ พร้อมทั้งขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการ ไม่เห็นแก่ของถูกหรือเสี่ยงฉีดกับหมอกระเป๋า เพราะนอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้วยังเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อันตราย สร้างความเสียหายต่อผิวหน้าได้อีกนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว