ฟิลเลอร์ปาก (Lip filler) คือกระบวนการทางเคมีและการศัลยกรรมเสริมความประณีตของปาก โดยใช้สารฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มปริมาณ เป็นวิธีการปรับรูปทรงปากให้อวบอิ่มและสวยงาม โดยแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปในริมฝีปาก ซึ่งสารไฮยาลูโรนิค แอซิดเป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว ทำหน้าที่เก็บกักน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง เมื่อฉีดเข้าไปในริมฝีปาก จะทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง และชุ่มชื้นขึ้น และเน้นความสวยงามของปาก สารฟิลเลอร์ที่บ่งบอกถึงการเติมปากมักจะเป็นสารที่เหมือนกับสารที่มีอยู่ภายในร่างกาย
กระบวนการนี้มักจะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการปรับปรุงลักษณะของปาก ทำให้ดูเต็มเปี่ยมมีปริมาณ และมีรูปร่างที่สวยงาม มีหลายยี่ห้อและประเภทของฟิลเลอร์ปากที่ใช้กันทั่วไป และผลลัพธ์มักจะสามารถเห็นได้ทันทีหลังจากทำการทางคลินิก ควรให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำฟิลเลอร์เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
ทำไมถึงเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก
มีหลายเหตุผลที่ผู้คนเลือกที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทั่วโลก บางคนอาจตัดสินใจที่จะทำการนี้เพื่อเสริมความสวยงามของปาก หรือเพื่อลดริ้วรอยและเส้นรอยรอบปาก นี่คือบางเหตุผลที่ส่วนใหญ่ของคนที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากเลือกที่จะทำ
-
แก้ปัญหาปากบาง ฟิลเลอร์ปากสามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง สวยงามขึ้น
-
แก้ปัญหาปากแห้ง ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ฉ่ำวาว
-
แก้ปัญหาปากไม่สมมาตร ฟิลเลอร์ปากสามารถปรับรูปทรงปากให้สมมาตรกันมากขึ้น
-
แก้ปัญหามุมปากตก ฟิลเลอร์ปากสามารถยกมุมปากให้สูงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น
-
แก้ปัญหาปากเป็นร่อง ฟิลเลอร์ปากสามารถเติมเต็มร่องบริเวณริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูเรียบเนียนขึ้น
-
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปากยังสามารถใช้เพื่อปรับแต่งทรงปากให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น ปากกระจับ ปากสายฝอ เป็นต้น
ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่นิยมใช้ในการปรับปรุงลักษณะของปาก ข้อดีมีหลากหลายประการ
-
เพิ่มปริมาณและเติมเต็มปาก ทำให้ปากดูเนียนนุ่มและมีความปราณีต
-
ลดริ้วรอยและเส้นรอย ฟิลเลอร์ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก รวมถึงรอยย่นในบริเวณรอบปาก
-
ช่วยปรับรูปร่างของปาก ฟิลเลอร์ปากช่วยปรับปรุงรูปร่างของปาก เช่น ทำให้ปากมีรูปทรงที่สมส่วนและสวยงาม
-
สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่มีรอยแผลหรือเวลาฟื้นตัวนาน
-
เห็นผลทันทีหลังทำ ผู้รับบริการสามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำการ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานได้ทันที
-
ปลอดภัยต่อร่างกายเพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง สารฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดปากบางประการเป็นสารที่มีอยู่ธรรมชาติในร่างกาย เช่น ไฮยาลูโรนิค แอซิด
-
ใช้เวลาพักฟื้นน้อย กระบวนการฉีดฟิลเลอร์ปากมีเวลาในการทำที่สั้น และผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที
-
ราคาไม่แพงมาก
-
ความยืดหยุ่น ฟิลเลอร์ปากมีความยืดหยุ่นที่ดี ทำให้ปากดูธรรมชาติและไม่ทำให้ดูแข็งกระด้าง
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่บางคนอาจต้องพิจารณา ดังนี้คือข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ
-
ความไม่ถาวร ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือนผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากมีอาจมีอาการย่นลดลงในระยะเวลาที่ผ่านไป ซึ่งทำให้คุณต้องทำการฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
-
ค่าใช้จ่าย การทำการฉีดฟิลเลอร์ปากมีค่าใช้จ่ายที่สูง และคุณต้องพิจารณาต้นทุนในการรักษาในระยะยาว
-
อาจเกิดอาการบวมและแดง ในบางกรณีผู้ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากอาจประสบกับอาการบวมและแดงที่จุดที่ทำการฉีด ซึ่งสามารถเป็นไปได้ในช่วงเวลาไม่นานหลังการทำ
-
อาจเกิดแผลหรือหนอง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะแผลหรือหนองในจุดที่ทำการฉีด ทั้งนี้อาจจะต้องมีการรักษาเสริม
-
อาจเกิดปัญหาทางการแพทย์ การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไม่ถูกต้องหรือที่ไม่มีการควบคุมจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางการแพทย์
-
รูปทรงไม่ถูกต้อง อาจเกิดการทำฟิลเลอร์ปากที่ไม่ถูกต้องทำให้ได้รูปทรงที่ไม่ถูกต้องอาจเกิดการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
-
เสี่ยงต่อการติดเชื้อ มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อหรือแท้งติดเชื้อในจุดที่ทำการฉีด
-
อาจมีการรู้สึกบอบบาง บางคนอาจมีการรู้สึกบอบบางหรือไม่สบายในช่วงเริ่มต้นหลังการทำฟิลเลอร์ปาก
-
ต้องระวังในกรณีบางกลุ่ม บางกลุ่มผู้คนอาจมีความแพ้หรือไม่เหมาะสมกับการทำฟิลเลอร์ปาก
-
ผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจ มีกรณีที่ผลลัพธ์ไม่ได้ตรงตามที่คาดหวัง และบางครั้งอาจจะไม่สามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้
สัดส่วนของริมฝีปากสวย
การมีริมฝีปากที่สวยงามมักจะคำนึงถึงสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งในเชิงลำดับและลักษณะรูปร่าง ต่อไปนี้คือสัดส่วนที่มีความสำคัญในการกำหนดความสวยงามของริมฝีปาก ริมฝีปากสวย โดยทั่วไปจะมีสัดส่วนดังนี้
-
สัดส่วนของริมฝีปากบนและล่าง ริมฝีปากบนควรมีความหนาน้อยกว่าริมฝีปากล่างเล็กน้อย โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ 1:1.68
-
ความกว้างของริมฝีปาก ความกว้างของริมฝีปากควรสัมพันธ์กับขนาดของใบหน้า โดยริมฝีปากควรกว้างประมาณ 1 ใน 3 ของความกว้างของใบหน้า
-
ความยาวของริมฝีปาก ความยาวของริมฝีปากควรสัมพันธ์กับความยาวของใบหน้า โดยริมฝีปากควรยาวประมาณ 1 ใน 4 ของความสูงของใบหน้า
-
ความโค้งของริมฝีปาก ริมฝีปากควรมีความโค้งมนเล็กน้อย โดยริมฝีปากบนควรมีกระจับเล็กน้อย
-
มุมปาก มุมปากควรยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูยิ้มแย้มสดใส
-
ลักษณะของริมฝีปาก ริมฝีปากควรมีลักษณะที่เนียนนุ่มและไม่มีรอยย่นมากมายและไม่ควรมีริ้วรอยเกินไป
-
ความสมส่วนกับใบหน้า ริมฝีปากควรมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้าโดยรวม ไม่ควรมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
นอกจากสัดส่วนแล้ว ริมฝีปากที่สวยงามควรมีความสมมาตรกันทั้งสองข้าง ไม่มีรอยแตกหรือริ้วรอย และควรมีความชุ่มชื้น เรียบเนียน อย่างไรก็ตาม ความสวยงามของริมฝีปากเป็นความสวยงามที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล บางคนอาจชอบริมฝีปากที่อวบอิ่ม บางคนอาจชอบริมฝีปากที่บางเฉียบ ดังนั้น การเลือกสัดส่วนริมฝีปากจึงควรพิจารณาจากความต้องการของตนเองและลักษณะใบหน้าโดยรวม
รูปทรงฟิลเลอร์ปากที่คนไทยนิยมฉีด
รูปทรงฟิลเลอร์ปากที่คนไทยนิยมฉีดมักจะคล้ายกับแนวโน้มทั่วไปที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม. แต่ควรจำไว้ว่าการเลือกรูปทรงขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกสบายของแต่ละบุคคล. ต่อไปนี้คือรูปทรงฟิลเลอร์ปากที่คนไทยนิยมฉีด
-
ปากกระจับ ปากกระจับเป็นทรงปากที่มีลักษณะเป็นกระจับบริเวณริมฝีปากบน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูยิ้มแย้มสดใส รูปทรงปากนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่คนไทย เนื่องจากดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาจนเกินไป
-
ปากสายฝอ ปากสายฝอเป็นทรงปากที่มีลักษณะอวบอิ่มทั้งบนและล่าง ริมฝีปากบนหนากว่าริมฝีปากล่างเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูเซ็กซี่ รูปทรงปากนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนไทย เนื่องจากเป็นที่นิยมในหมู่ดาราและนางแบบต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีรูปทรงฟิลเลอร์ปากอื่นๆ ที่คนไทยนิยมฉีด เช่น ปากทรงหัวใจ ปากทรงหยดน้ำ ปากทรงธรรมชาติ เป็นต้น โดยแพทย์จะพิจารณารูปทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ บนใบหน้า เช่น รูปหน้า โครงหน้า จมูก ตา เป็นต้น เพื่อให้ได้รูปทรงปากที่สวยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ Vs ศัลยกรรมปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากและการทำศัลยกรรมปากเป็นวิธีที่สองทางที่ใช้ในการปรับปรุงลักษณะของปาก ทั้งนี้คุณควรพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละวิธีตามความต้องการและความพึงพอใจของตนเอง ต่อไปนี้คือบางความแตกต่างระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปากและศัลยกรรมปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
1.กระบวนการและเวลา ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นกระบวนการที่รวดเร็วและไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานมาก
2.ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องมีกระบวนการผ่าตัด ทำให้ไม่มีรอยแผลหรือเวลาฟื้นตัวนาน
3.ความนิยม เป็นทางเลือกที่นิยมในการปรับปรุงลักษณะของปากโดยไม่ต้องผ่าตัด
4.ผลลัพธ์ทันที ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการทำและสามารถปรับแต่งได้
5.ความปลอดภัย สารฟิลเลอร์ที่ใช้มักเป็นสารที่ถูกต้องทางการแพทย์
ศัลยกรรมปาก
1.กระบวนการและเวลา ศัลยกรรมปากเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลามากขึ้นและต้องมีเวลาฟื้นตัวนาน
2.ผ่าตัด ต้องมีกระบวนการผ่าตัดที่ต้องการห้องพักในโรงพยาบาลและการฟื้นตัวในช่วงเวลาที่นาน
3.ความถาวร ผลลัพธ์จะมีความถาวรและไม่ต้องทำการซ้ำบ่อยๆ
4.ปรับแต่งได้มาก สามารถปรับแต่งได้หลากหลายตามความต้องการของผู้รับบริการ
5.ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ในบางกรณีศัลยกรรมปากอาจให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและมีความยั่งยืน
ในการตัดสินใจระหว่างฉีดฟิลเลอร์ปากและศัลยกรรมปาก ควรพิจารณาความสะดวกสบาย ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และความถาวรของผลลัพธ์ คำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม
การเลือกวิธีการปรับรูปทรงปาก
การเลือกวิธีการปรับรูปทรงปากควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
-
ความพึงพอใจ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล บางคนอาจชอบผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ บางคนอาจชอบผลลัพธ์ที่คงอยู่ถาวร
-
ระยะเวลา หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม หากต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ถาวร การผ่าตัดปากเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
-
งบประมาณ การฉีดฟิลเลอร์ปากมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดปาก
-
สุขภาพร่างกาย หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ
โดยสรุปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ปากและการผ่าตัดปากเป็นวิธีการปรับรูปทรงปากให้อวบอิ่มและสวยงาม ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีการใดจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและความปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์จะเน้นปรับทรงปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น สามารถทำรูปทรงได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดสามารถเปลี่ยนรูปทรงของปากได้ตามเทรน หากทำแล้วไม่ชอบหรือไม่ได้รูปทรงที่ต้องการสามารถฉีดสลายได้ทันที แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้อยู่ถาวร
ส่วนการผ่าตัดปากมีข้อดีคือ ได้ผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร แต่รูปทรงที่ได้จะขึ้นอยู่กับทรงปากเดิม หรือ เนื้อปากของแต่ละคน หลังการทำอาจต้องใช้เวลาในการฟักฟื้น อย่างน้อย 3-7 วัน ใช้เวลาพักฟื้นนาน และอาจจะต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัดเนื่องจากหากมีข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ยากทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการทำที่สูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากหลายเท่า
ฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ฟิลเลอร์ปากเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว ทำหน้าที่เก็บกักน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง เมื่อฉีดเข้าไปในริมฝีปาก จะทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง และชุ่มชื้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ปากก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน เช่น
-
อาการบวมช้ำ เป็นอาการที่พบได้บ่อยหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
-
อาการแดง อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง
-
อาการเจ็บ อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด
-
อาการแพ้ อาการแพ้อาจเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยมาก หากเกิดอาการแพ้ ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์ทันที
-
การเกิดก้อนแข็ง อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง แพทย์สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดสารละลายฮีรูดอยรูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจไม่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น อาการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนองดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี เหมาะกับใช้ฉีดปากที่สุด
1.mesofiller global เนื้อเจลมีความสมดุลระหว่างความยืดหยุ่นและความหนืด เหมาะสำหรับเติมเต็มและแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หลากหลาย เนื้อเจลมีความละเอียดทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงของใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการฉีดเสริมบริเวณริมฝีปาก มุมปาก รอบปาก
2.mesofiller intense เนื้อเจลไฮยาลูโรนิกที่มีความเข้มข้นสูง เนื้อเจลมีความหนืดและความคงตัวสูง ทำให้สามารถคงรูปได้ดี สามารถปรับแต่งให้ได้ตามรูปทรงที่ต้องการ เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณปาก
ฟิลเลอร์ทั้ง 2 ชนิด cross-linking process กระบวนการทำให้ ha มีโครงสร้างเป็นร่างแห เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายในทำให้เกิดรูปทรง เทคโนโลยีการทำ ha ให้อยู่ในรูป crosslink 100% โดยไม่มี free ha มีความปลอดภัยสูง BDDE ต่ำ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง สามารถคงรูปในการฉีดได้ดี ผิวเรียบเนียน อัตราการบวมต่ำ สามารถกำหนดปริมาณการฉีดและสามารถจัดรูปทรงได้อย่างง่ายดาย สามารถเข้าได้ดีกับเนื้อเยื่อ เติมเต็มได้ทันที และไม่ก่อให้เกิดลักษณะเป็นก้อนนูนหลังการฉีด สามารถกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อที่ขาดน้ำทำให้เติมเต็มความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 9-12 เดือน หลังจากการฉีดเพียงครั้งเดียว
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน เกิดจากอะไร?
การเกิดก้อนหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปากอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ และควรได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม นี่คือบางสาเหตุที่อาจก้อนหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก:
1.การไปทำฉีดฟิลเลอร์ปากที่สถานที่ไม่ปลอดภัย ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน : การทำการฉีดฟิลเลอร์ปากที่สถานที่ไม่มีความสะอาดหรือไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยในด้านการทำศัลยกรรมความงาม ฟิลเลอร์ปลอม อาจไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เกิดการติดเชื้อที่จุดที่ทำการฉีด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดก้อน
2.ปัญหาในกระบวนการทำฉีด : การใช้วิธีทำฉีดที่ไม่ถูกต้องหรือการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
3.การสลายลงไม่เพียงพอ : ในบางกรณีฟิลเลอร์ที่ถูกใช้อาจไม่ได้รับการสลายลงในระยะเวลาที่เพียงพอ
4.การฉีดที่ลึกเกินไป ผิดตำแหน่ง : การฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง เช่น ฉีดเข้าไปในเส้นเลือด อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
5.การตอบสนองที่แพ้ต่อสารฟิลเลอร์ : บางบุคคลอาจมีการตอบสนองที่แพ้ต่อสารที่ใช้ในฟิลเลอร์
6.สภาพสุขภาพของผู้รับบริการ : สภาพสุขภาพของบุคคล มีผลต่อวิธีการทำการฉีดและการซ่อมแซมของฟิลเลอร์
7.การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ : แพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณที่มากเกินไปหรือผิดตำแหน่ง อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
-
การติดเชื้อ การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
-
การแพ้ การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
-
การเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนตัวจากตำแหน่งที่ฉีดได้ ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
ข้อควรระวัง:
-ควรค้นหาแพทย์ที่มีความชำนาญ ควรค้นหาแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก
-คำปรึกษากับแพทย์ คำปรึกษากับแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อทราบข้อเสี่ยงและเลือกตัวเลือกที่เหมาะสม
-ทดลองแรก ถ้าเป็นครั้งแรกที่ทำ ควรทดลองด้วยปริมาณเล็กๆ เพื่อดูว่าผลลัพธ์เป็นไปอย่างไร
-ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการอนุมัติ: ให้ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีการปรับรูปทรงปากที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีการที่รวดเร็ว เห็นผลทันที และปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีคุณภาพก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและความปลอดภัย