การดูแลผิวให้สุขภาพดี เริ่มต้นจากการบำรุงอย่างถูกวิธี และหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ที่เหมาะสมและถูกต้อง หลายคนอาจสงสัยว่า ควรเริ่มจากผลิตภัณฑ์ตัวไหนก่อน หรืออะไรที่ช่วยให้ผิวดูดซึมสารบำรุงได้ดีที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ลำดับการใช้สกินแคร์แบบมืออาชีพ เพื่อให้การบำรุงผิวได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวที่ช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดีในทุกวัน
ทำไม ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ให้ถูกต้องจึงสำคัญ ?
ขั้นตอนการลงสกินแคร์อย่างถูกต้อง มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการบำรุงผิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้ทำงานตามลำดับที่เฉพาะเจาะจง หากลำดับการใช้ผิด อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ ขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่ไม่ถูกต้อง อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดการอุดตันของรูขุมขน หรือทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
ลำดับ ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ที่ถูกต้อง ทำอย่างไรบ้าง ?
เพื่อการบำรุงผิวอย่างถูกต้อง และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ควรมีขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่ถูกต้อง ตามลำดับต่อไปนี้
ทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้า
การทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว มีความสำคัญดังนี้
- ช่วยขจัดสิ่งสกปรกหรือสารตกค้าง
ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรกจากมลภาวะ, น้ำมันจากผิว, หรือเครื่องสำอางต่างๆ ที่อาจยังตกค้างอยู่บนผิวหน้า ช่วยให้การล้างหน้าในขั้นตอนต่อไปสะอาดหมดจดมากขึ้น - ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
หากผิวหน้าไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้องก่อนล้างหน้า สิ่งสกปรกและน้ำมันจากผิวที่สะสมอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวอุดตันหรือการระคายเคืองได้ - ช่วยรักษาสมดุลของผิว
ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น สิว, ความมันส่วนเกิน, หรือการระคายเคือง
micellar biphasic ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง จาก mesoestetic ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ใช้ได้แม้บริเวณผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตาและริมฝีปาก ช่วยทำความสะอาดผิวให้สะอาด หมดจด โดยมีส่วนผสมที่สำคัญ ดังนี้
- Biphasic make-up remover , very high smoothness
มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดแม้เครื่องสำอางกันน้ำได้อย่างหมดจดและอ่อนโยนต่อผิว โดยไม่ทำลายเกราะปกป้องผิว มีส่วนประกอบของ sunflower seed oil ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 6 ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น - Biobalancing
ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์บนผิว ด้วย post biotic ทำให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรง ช่วยป้องกันการระคายเคืองของผิว และช่วยปรับสมดุล pH balance ของผิว - Anti-pollution Action
ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน และอนุมูลอิสระจากภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวระคายเคือง
ล้างหน้าให้สะอาด
การล้างหน้าที่สะอาดเป็นหนึ่งในขั้นตอนการลงสกินแคร์พื้นฐาน และสำคัญในการดูแลผิว เนื่องจากผิวหน้าของเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
ประโยชน์ของการล้างหน้าให้สะอาด มีดังต่อไปนี้
- ช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
การล้างหน้าที่ไม่สะอาด อาจทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันที่สะสมอยู่บนผิวหน้าอุดตันในรูขุมขน เป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงรอยดำหรือรอยแดงจากสิวตามมา - มีผลต่อการดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
การล้างหน้าให้สะอาด จะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ในขั้นตอนถัดไป หากผิวหน้าไม่สะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงอาจไม่สามารถซึมซาบได้เต็มที่ ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์จากการใช้สกินแคร์ลดลง - ป้องกันการระคายเคือง
สิ่งสกปรกจากเครื่องสำอาง , มลภาวะ หรือสารเคมีที่ตกค้าง อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดการอักเสบได้ ดังนั้นการล้างหน้าให้สะอาดจึงเป็นขั้นตอนการลงสกินแคร์ ที่จะช่วยป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ที่จะตามมา - ช่วยฟื้นฟูผิวให้สดชื่นและกระจ่างใส
การล้างหน้าที่สะอาดจะช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น และยังช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย - ช่วยรักษาความสมดุลของผิว
การล้างหน้า จะช่วยทำความสะอาดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป พร้อมกับช่วยปรับสมดุลน้ำมันบนผิวหน้า การทำความสะอาดที่ดี จะไม่ทำให้ผิวแห้งหรือมันเกินไป
mesoestetic ขอแนะนำ purifying mousse ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเนื้อมูส สูตรสำหรับผิวมัน และผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย มีคุณสมบัติในการขจัดความมันส่วนเกิน รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างบนผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง ให้ความรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้นและสบายผิว
ไม่เพียงมีส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Biobalancing ที่ช่วยปรับสมดุลให้แก่ผิว และ Anti-pollution Action ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะเท่านั้น แต่ยังมี Purifying , Keratolytic , Refining
ซึ่งประกอบไปด้วย Chlorhexidine ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทั้งยังช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ประกอบไปด้วย Salicylic acid และ Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และขจัดความมันที่อุดตันรูขุมขนด้วย
ใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว
การใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า เป็นขั้นตอนที่สำคัญในกิจวัตรการดูแลผิว เนื่องจากโทนเนอร์มีคุณสมบัติ ดังนี้
- ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้าง
แม้ว่าการล้างหน้าจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินออกไป แต่บางครั้งก็ยังมีน้ำมันหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ที่อาจหลงเหลืออยู่ การใช้โทนเนอร์ จะช่วยขจัดสิ่งเหล่านี้ให้หมดไปได้ - ช่วยปรับสมดุล pH ของผิว
โทนเนอร์จะช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ช่วยป้องกันการระคายเคือง และการอักเสบ ที่อาจเกิดจากการที่ผิวแห้งหรือมันเกินไป - กระชับรูขุมขน
โทนเนอร์บางสูตรมีส่วนผสมของสารที่ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น
hydratonic mist โทนเนอร์ช่วยปรับสภาพผิวก่อนการบำรุง จาก mesoestetic มีคุณสมบัติพิเศษช่วยปรับ pH balance ผิว ให้อยู่ในสภาวะสมดุล เพื่อเสริมประสิทธิภาพขั้นตอนการลงสกินแคร์ในลำดับถัดไป ให้ผิวชุ่มชื้น รูขุมขนกระชับ พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก นอกจากมี Biobalancing และ Anti-pollution Action แล้ว ยังมี Moisturising , Regenerating ,Smoothing ที่ประกอบไปด้วย สารบำรุงวิตามินบี 5 ช่วยฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิว โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง มีสารสกัดจากดอกกุหลาบ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วย
บำรุงผิวด้วยเซรั่ม
ขั้นตอนการลงสกินแคร์ลำดับต่อมาคือ การบำรุงผิวด้วยเซรั่ม ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูแลผิว ดังนี้
- ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว
เนื่องจากเซรั่มมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว เช่น วิตามินซี, กรดไฮยาลูโรนิก, เปปไทด์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง
เซรั่มมักจะถูกใช้หลังจากโทนเนอร์ เพราะช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวได้รับประโยชน์จากสารบำรุงอย่างเต็มที่ - ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส
ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและการฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ เซรั่มช่วยให้ผิวดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
ha densimatrix เซรั่มบำรุงผิวหน้ายอดนิยมจาก mesoestetic ที่อัดแน่นไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) เข้มข้นถึง 4 ชนิดด้วยกัน ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง ฟิวยืดหยุ่น เต่งตึง กระชับ ไม่เพียงเท่านั้น ยังผสานการบำรุงด้วย Marshmallow root extract ซึ่งเป็นสารสกัดจากรากต้นมาร์ชเมลโลว์ ทำให้การคงอยู่ของกรดไฮยาลูโรนิกยาวนานขึ้น รวมถึง Malachite extract สารสกัดจากหินมาลาไคต์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องการคงอยู่ของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ริ้วรอยดูจางลง และผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
เติมความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์
การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่สำคัญในลำดับสุดท้าย เนื่องจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมการบำรุงและปกป้องผิวในหลายด้าน ดังนี้
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ช่วยปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวไม่แห้งหรือมันเกินไป - ปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นในผิวระเหยออกไปจากผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งหรือเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว(Skin Barrier)
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น การติดเชื้อ หรือมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม - ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
ช่วยลดการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส และอ่อนเยาว์ขึ้น
hydra-vital factor k ครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างเกราะปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่ยาวนาน ทำให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี มีส่วนผสมของ Ultra – moisturizing complex ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน ยูเรีย อัลลันโทอิน และกรดแลคติค คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ยาวนานมากขึ้น มีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก ที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยใน ขั้นตอนการลงสกินแคร์
มีความเข้าใจผิด และข้อผิดพลาดมากมาย ในขั้นตอนการลงสกินแคร์ ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่าที่ควร ดังนี้
- ไม่ทำความสะอาดผิวให้สะอาดก่อน
การข้ามขั้นตอนการล้างหน้าอาจทำให้สิ่งสกปรก น้ำมัน หรือเครื่องสำอางตกค้างบนผิว ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในขั้นตอนต่อไป ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ - การใช้ผลิตภัณฑ์มากเกินไป
การใช้สกินแคร์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ซึมซาบลงสู่ผิวได้ดี หรือทำให้ผิวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ดังนั้น ควรใช้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการบำรุงแต่ละจุด และใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน - การใช้ผลิตภัณฑ์ผิดลำดับขั้นตอน
การลงสกินแคร์ในลำดับที่ผิด อาจทำให้การบำรุงไม่ได้ผลเต็มที่ - ไม่ให้เวลาให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิว
ส่งผลให้ผิวหน้าไม่ได้รับสารบำรุงอย่างเต็มที่ ดังนั้น หลังทาสกินแคร์ ควรรอให้ซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 1-2 นาที ก่อนลงผลิตภัณฑ์ถัดไป - ไม่ใช้ครีมกันแดด
การไม่ทาครีมกันแดด อาจทำให้ผิวได้รับความเสียหายจากรังสียูวี และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ - การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม
เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารเคมีที่แรงเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคือง และเป็นอันตรายต่อผิว
ขั้นตอนการลงสกินแคร์อย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงและกระจ่างใสในระยะยาว สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มดูแลผิว การลำดับขั้นตอนที่ถูกต้อง เช่น การทำความสะอาดผิวหน้า การใช้โทนเนอร์ เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงการดูแลผิวด้วยความใส่ใจ จะช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดี และเปล่งประกายมีออร่าได้อย่างที่ต้องการ
คำถามที่พบบ่อย
Q : ต้องลงสกินแคร์ทั้งเช้าและเย็นหรือไม่ ?
A : ในขั้นตอนการลงสกินแคร์อย่างถูกต้อง ควรทำทั้งเช้าและเย็น โดยขั้นตอนตอนเช้าจะเน้นปกป้องผิว ส่วนตอนเย็นจะเน้นการฟื้นฟูผิว
Q : ระหว่างขั้นตอนการลงสกินแคร์ ควรรอให้ซึมก่อนหรือไม่ ?
A : ในขั้นตอนการลงสกินแคร์ ควรรอให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 1-2 นาที ก่อนลงผลิตภัณฑ์ถัดไป
Q : ผิวแพ้ง่ายมีข้อควรระวังในขั้นตอนการลงสกินแคร์ อย่างไรบ้าง ?
A : ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารระคายเคือง และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
Q : จำเป็นต้องล้างหน้าก่อนลงสกินแคร์ทุกครั้งหรือไม่ ?
A : จำเป็นต้องล้างหน้าในขั้นตอนก่อนลงสกินแคร์ เพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกและทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
Q : การลงสกินแคร์ผิดลำดับส่งผลต่อผิวอย่างไรบ้าง ?
A : อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ไม่เต็มที่ และลดประสิทธิภาพการบำรุงผิวของแต่ละขั้นตอนลง