ผิวไหม้แดด (Sunburn) เกิดจากอะไร ? กู้ผิวจากแดดแบบเห็นผลจริง

ผิวไหม้แดด แสบ แห้ง ลอก และหมองคล้ำ จนผิวเสียและเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่ดูแล อาจทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ การฟื้นฟูผิวไหม้แดด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับสาเหตุ และอาการของผิวไหม้แดด พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลและฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น แข็งแรง และเปล่งปลั่งอีกครั้ง

ผิวไหม้แดด คืออะไร?

ผิวไหม้แดด (Sunburn) คือ ภาวะที่ผิวหนังได้รับความเสียหาย หลังจากที่ได้สัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดมากเกินไป ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ระคายเคือง และแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา  เช่น แสบ แดง ร้อน และบางครั้งอาจมีการลอกของผิวหนังในระยะต่อมา ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ผิวกำลังสูญเสียความชุ่มชื้น และเกิดความเสียหายที่ชั้นผิวด้วย

อาการของ ผิวไหม้แดด เป็นอย่างไร ?

อาการของผิวไหม้แดด สามารถแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงจากการสัมผัสกับแสงแดด ดังนี้

ผิวไหม้แดด ระดับแรก

ผิวไหม้แดดในระดับแรกนี้  หลังจากที่ผิวอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน ผิวจะเริ่มแดง , รู้สึกร้อนเมื่อสัมผัส และรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย จากนั้นผิวจะลอก เมื่อผ่านไป 3-5 วัน เนื่องจากผิวหนังมีการผลัดเซลล์ผิว

ผิวไหม้แดด ระดับที่ 2

อาการของผิวไหม้แดดในระดับนี้ ผิวจะมีอาการแสบ คัน ผิวบวม แดง เนื่องจากการสูญเสียความชุ่มชื้น และเกิดความเสียหายของเซลล์ผิว และเมื่อสัมผัสบริเวณผิวที่ไหม้แดดจะรู้สึกเจ็บปวด  โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ในการฟื้นฟูให้ผิวกลับเข้าสู่สภาพปกติ

ผิวไหม้แดด ระดับที่ 3

เป็นระดับที่ผิวมีการไหม้แดดอย่างรุนแรง มักจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังมากกว่าปกติ เนื่องจากมีการระคายเคืองของผิว  รวมถึงมีอาการบวม แดง คัน และอาจเกิดแผลพุพองในบางราย หรือมีตุ่มน้ำใส ๆ เกิดขึ้น ในกรณีเช่นนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อขอคำแนะนำ และแนวทางในการฟื้นฟูผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการฟื้นฟูผิว

ผิวไหม้แดด เกิดจากอะไร ?

ผิวไหม้แดด เกิดจากการที่ผิวต้องเผชิญกับรังสี UV ในแสงแดดในปริมาณมาก  ในระยะเวลาที่นานเกิน 15 นาที โดยไม่ได้รับการปกป้องที่เหมาะสม เช่น ไม่ทาครีมกันแดด ไม่ใส่เสื้อผ้าปกปิด หรือไม่ได้สวมหมวกและแว่นกันแดด ทำให้รังสี UV สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังและทำลายเซลล์ผิว ส่งผลให้เกิดการอักเสบ คัน แดงที่ผิวหนัง มีอาการระคายเคือง และเป็นตุ่มใส จนทำให้ผิวมีความหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด และถ้าหากสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานแบบต่อเนื่อง ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นฝ้าแดดได้ด้วย

มีวิธีดูแลผิวไหม้แดดทำอย่างไร ให้ผิวรู้สึกสบายและลดการอักเสบ  ?

เมื่อผิวไหม้แดด การดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูผิวให้กลับมาสุขภาพดีได้เร็วขึ้น ดังต่อไปนี้

  •  หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดเพิ่มเติม
    ให้ปกป้องผิวจากแสงแดดทันที และอยู่ในที่ร่มให้มากที่สุด
  • ประคบเย็น
    โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น หรือเจลประคบเย็น วางบนผิวบริเวณที่ไหม้  ความเย็นจะช่วยลดความร้อน , ลดอาการอักเสบ และอาการแสบร้อนบริเวณผิวไหม้แดดให้ลดลงได้ แต่ควรระวังที่จะไม่ใช้น้ำเย็นจัดจนกัดผิว
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์
    เลือกครีมบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือไฮยาลูรอนิค แอซิด เพื่อช่วยปลอบประโลม และเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวไหม้แดด ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง
  • ดื่มน้ำมาก ๆ
    การดื่มน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สามารถช่วยให้ร่างกายช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้ดีมากยิ่งขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
  • เลี่ยงการแกะ เกา หรือขัดผิว
    เมื่อผิวไหม้แดด โดยส่วนใหญ่ผิวหนังมักจะมีการลอก เนื่องจากเซลล์ผิวหนังมีการผลัดตัว ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือสัมผัสผิวหนังในบริเวณนั้น ๆ เนื่องจากผิวหนังมีความเปราะบาง และระคายเคืองได้ง่าย หรืออาจจะทำให้ผิวติดเชื้อที่รุนแรงตามมาได้เช่นกัน
  • ทาครีมกันแดดแม้อยู่ในที่ร่ม
    แม้ผิวจะได้รับความเสียหายจากการสัมผัสกับแสงแดดมาแล้ว แต่การทาครีมกันแดด ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผิวที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน เป็นสกินแคร์ที่ต้องทาเป็นประจำทุกวัน แม้จะไม่มีแดดก็ตาม และควรเลือกครีมกันแดดที่มีความอ่อนโยน ไม่อุดตันผิว เหมาะกับสภาพผิว และที่สำคัญคือสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวไหม้แดด
    การที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดมายาวนาน นอกจากจะทำให้เกิดผิวไหม้แดดแล้ว ยังทำให้ผิวหมองคล้ำสะสมได้อีกด้วย ดังนั้น ควรหาสกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ปรับผิวให้กระจ่างใส ช่วยให้ผิวแข็งแรง และสุขภาพดีขึ้นมาอีกครั้ง

มีวิธีปกป้องผิวไหม้แดดอย่างไรบ้าง ?

การป้องกันผิวไหม้แดด เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวในระยะยาว โดยสามารถทำได้ดังนี้

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UVA/UVB โดยให้ทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดเอาไว้ mesoestetic ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดด  ดังต่อไปนี้

mesoprotech mineral fluid SPF 50

mesoprotech mineral fluid

ครีมกันแดดเนื้อแมท เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง ที่ช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มันวาว  ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วย มีส่วนผสมสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น mesoprotech complex ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี นอกจากนั้น ยังมีสารแอนติออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ  ในรังสีอินฟราเรด และแสงสีฟ้าที่มากระทบผิวได้ , มี collagen pro-47 ที่ผสานพลังธรรมชาติจาก Lupinus albus Seed Extract , Helianthus annuus Seed Oil และวิตามินอี ที่ช่วยส่งเสริมการคงอยู่ของคอลลาเจนธรรมชาติ ให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น  ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี mattifying particles ที่มีประสิทธิภาพช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า และให้ผิวดูเปล่งประกายอีกด้วย

mesoprotech water veil SPF 50+

mesoprotech water veil

เป็นกันแดดสูตรเติมน้ำให้ผิว ช่วยมอบความชุ่มชื้น ความสบายให้แก่ผิว ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว สามารถกันน้ำได้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้งยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยได้อีกด้วย มีส่วนประกอบสำคัญคือ mesoprotech complex ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA , UVB , รังสีอินฟราเรด และแสงสีฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ , collagen pro-47 ช่วยให้คอลลาเจนตามธรรมชาติคงอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น รวมถึง Hyaluronic acid และ  Silicon from silica ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และยังป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นได้ด้วย

mesoprotech hydra cream SPF 50+

mesoprotech hydra cream

ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มีค่าการปกป้อง SPF50+ เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม สบายผิว และซึมซาบเร็ว  ไม่เพียงช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB เท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุง , มอบความชุ่มชื้น และรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติให้แก่ผิว ลดการสูญเสียน้ำ ทั้งยังมีแอนติออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย มีส่วนผสมสำคัญของ UV filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากอาการผิวไหม้แดด , Allantoin สารสกัดจากพืช ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ให้ผิวชุ่มชื้น พร้อมฟื้นบำรุงผิวที่ระคายเคืองและสูญเสียน้ำ , กรดอะมิโน Serine และยูเรีย(Urea) ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น รวมถึงวิตามินอี ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

ปกป้องผิวด้วยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด

เช่น ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกปีกกว้าง  ร่ม และแว่นกันแดด เพื่อป้องกันรังสี UV ไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรง

หลีกเลี่ยงในช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด

พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV มีความเข้มข้นสูงสุด

บำรุงผิวให้แข็งแรง

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เซรั่มไฮยาลูรอนิค หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น และแข็งแรงมากขึ้น

การกู้ผิวไหม้แดดให้กลับมาสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยาก หากเราใส่ใจดูแลอย่างถูกต้อง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การเติมความชุ่มชื้นให้ผิว การหลีกเลี่ยงแสงแดด และการบำรุงด้วยส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว จะช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง แสบ ลอก ให้กลับมาชุ่มชื้น แข็งแรง และเปล่งปลั่งได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การป้องกันผิวด้วยครีมกันแดด และเสริมเกราะป้องกันผิวเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

Q : ผิวไหม้แดดใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นฟู ?
A : โดยปกติผิวไหม้แดดในระดับที่ไม่มาก จะใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 3-7 วัน ส่วนระดับรุนแรงอาจใช้เวลานานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละคนด้วย

Q : การประคบเย็นช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้จริงหรือไม่ ?
A : การประคบเย็น สามารถช่วยลดอาการแสบร้อนและบวมของผิวได้  โดยให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบเบา ๆ ประมาณ 10-15 นาที

Q : การทาครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงของผิวไหม้แดดได้มากแค่ไหน ?
A : การทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี สามารถลดความเสี่ยงของผิวไหม้แดดได้มากถึง 90%  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องอย่างต่อเนื่อง ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง

Q : หลังผิวไหม้แดด ไม่ควรทำอะไร ?
A : ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิว , ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของกรด , หลีกเลี่ยงการแช่น้ำร้อน และการออกแดดโดยไม่มีการป้องกัน

Q : ผิวไหม้แดดสามารถทำให้เกิดปัญหาผิวระยะยาวได้หรือไม่ ?
A : หากปล่อยให้ผิวไหม้แดดบ่อยครั้ง อาจทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดจุดด่างดำ  มีริ้วรอยก่อนวัย และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังได้