“ดาวเรือง” หนึ่งในดอกไม้ที่คนไทยรู้จักกันดี ด้วยความที่มีสีสันสดใสสะดุดตา แถมยังขึ้นง่าย ปลูกแล้วโตไวแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นดอกไม้สิริมงคลของไทยโบราณ ที่เชื่อกันว่า เมื่อปลูกไว้ในบ้านจะทำให้มีเงินมีทองไหลมาเทมา หนุนนำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง นั่นเอง นอกจากคุณค่าทางด้านความเชื่อและวัฒนธรรมแล้ว ดอกดาวเรืองยังมาพร้อมกับสรรพคุณมากมายที่ช่วยในการบำรุงร่างกายอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในปัจจุบันได้มีการสกัดดอกดาวเรืองเพื่อใช้ในวงการความงามและเครื่องสำอางกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสารสกัดจากดอกดาวเรือง (calendula extract) พร้อมคุณประโยชน์มากมายที่จะทำให้สุขภาพผิวของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนน่าอัศจรรย์ใจ
รู้จักดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรือง (Marigold) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tagetes erecta L. เป็นดอกไม้ที่อยู่ในวงศ์ของ Asteraceae ซึ่งถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเม็กซิโกหรือแถบทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะเป็นพุ่มดอก สีเหลืองทอง ในสมัยโบราณ ชนชาวพื้นเมืองจะปลูกดอกดาวเรืองเพื่อจุดประสงค์ในการบูชาเทพเจ้า และต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ของดาวเรืองไปยังทวีปอื่นๆตั้งแต่ยุโรปเรื่อยไปจนถึงประเทศต่างๆทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ในปัจจุบันมีดอกดาวเรืองมากถึง 5 สายพันธุ์ ได้แก่
- ดาวเรืองอเมริกัน (American marigold)
- ดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigolds)
- ดาวเรืองนักเก็ต (Nugget Marigolds)
- ดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigold)
- ดาวเรืองใบ (Foliage Marigold)
สำหรับประเทศไทย มักพบดอกดาวเรืองในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกฉียงเหนือ จุดเด่นคือเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย โตเร็ว สวยงาม และทนทานต่อสภาพภูมิอากาศได้ดี มีชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่น เช่นภาษาเหนือเรียกว่าดอกคำปู้จู้ ส่วนในแถบจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีชื่อเรียกว่าพอทู เป็นต้น ส่วนประโยชน์การใช้งานนั้น ดอกดาวเรืองก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะนำมาใช้ร้อยพวงมาลัย ถวายพระ จัดแจกัน หรือใช้ประดับตกแต่งสถานที่ในงานสำคัญต่างๆ นอกจากนั้น ยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ลึกซึ้งว่าสีเหลืองอร่ามตาของดาวเรือง ถ้าปลูกเอาไว้ในบ้าน จะก่อให้เกิดโชคลาภ ทำให้เจริญรุ่งเรือง เงินทองไม่ขาดมือ ทำให้เจ้าบ้านมั่นคงทั้งเรื่องความรักและครอบครัวอีกด้วย
ลักษณะของดอกดาวเรือง (Marigold)
ดอกดาวเรือง (Marigold) เป็นไม้ดอกที่มีความสูงประมาณ60-100 เซนติเมตร มักจะมีการแตกกิ่งก้านที่บริเวณโคนต้น โดยจะมีใบเพิ่มมากขึ้นในลักษณะที่เรียงตัวกันประมาณ11-17 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปวงรี บริเวณปลายใบแหลม ส่วนขอบใบจะหยักคล้ายซี่ฟัน มีแผ่นใบสีเขียว เนื้อใบนิ่ม ในส่วนของลำต้นจะมีสีเขียวแก่ มีพื้นผิวเป็นร่อง จะออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด ลักษณะของดอกดาวเรืองจะเป็นสีเหลืองเข้ม มีริ้วประดับสีเขียว ในส่วนของดอกจะแบ่งออกเป็น 2 วง คือดอกวงนอก ซึ่งเป็นดอกที่ยังไม่สมบูรณ์มากนัก ส่วนดอกวงใน จะมีลักษณะเป็นหลอดเล็กอยู่ตรงกลาง ดอกดาวเรืองเป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้ง และมีการยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ไม่เพียงความสวยงามของดอกดาวเรืองเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ แต่ทุกส่วนของต้นดาวเรืองยังสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรบำรุงร่างกายได้ด้วย โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรืองจะมีสีเหลืองทองหรือออกไปในโทนสีส้ม และเมื่อนำดอกดาวเรืองไปสกัดจะได้รับสารที่มีชื่อเรียกว่าสารลูทีนและซีแซนทีน ที่สามารถช่วยบำรุงดวงตาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนจีน มักจะใช้ดอกดาวเรือง มาปรุงกับตับไก่เพื่อใช้ดื่มบำรุงสายตาและยังสามารถรักษาอาการตาเจ็บ ตาบวมได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น สารสกัดที่ได้จากดอกดาวเรืองนั้น สามารถช่วยบรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ บำรุงตับ ช่วยขับลม และบรรเทาอาการปวดฟันได้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์เป็นยาเย็นที่สามารถใช้เป็นยาฟอกเลือดตามแบบฉบับโบราณ นอกจากนั้นแล้ว การดื่มน้ำต้มดอกดาวเรืองยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะและรักษาคางทูมได้อีกด้วย
ต้นดาวเรือง
ในส่วนของต้นดอกดาวเรือง ก็มีคุณประโยชน์ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ เช่น อาการปวดท้องรุนแรงคล้ายกับเป็นไส้ติ่ง ทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ และสามารถใช้เป็นยารักษาโรคไส้ตันอักเสบและยารักษาฝีลมได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของลำต้น ยังสามารถนำมาบดเป็นผง แล้วผสมกับน้ำส้มสายชู นำไปพอกรักษาอาการฝีได้อีกต่างหาก หรือหลายท่าน นำไปบดแล้วต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยาขับลม ลดอาการจุกเสียด หรือใช้รักษาริดสีดวงทวารได้เช่นกัน
ใบดาวเรือง
ใบของต้นดาวเรือง มีสรรพคุณช่วยแก้โรคตานขโมยในเด็ก โดยนำใบแห้งประมาณ5-10 กรัมมาต้มกับน้ำดื่ม นอกจากนั้น ยังสามารถนำใบมาคั้น ชงกับน้ำ ช่วยบรรเทาอาการปวดหรือเจ็บที่หูได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถนำใบมาทาผิวเพื่อรักษาอาการเน่าเปื่อย หรืออาจนำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วทาที่แผล ก็จะสามารถลดอาการเน่าเปื่อยและฝีต่างๆได้เช่นกัน
รากดาวเรือง
ไม่เพียงดอก ใบ ลำต้นเท่านั้น ที่มีฤทธิ์ในการรักษาและบำรุงสุขภาพร่างกาย แม้แต่รากของดาวเรืองก็ยังสามารถใช้เป็นยาระบาย เป็นยาถอนพิษ และลดอาการบวมอักเสบภายในได้อีกด้วย และเนื่องจากรากของต้นดาวเรืองมีรสขม เป็นยาเย็น จึงมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอดและตับได้
ปัจจุบัน ได้มีการสกัดสารจากดอกดาวเรือง(Calendula Extract) มาใช้กันมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งสรรพคุณและประโยชน์นานาประการ ใช้ทั้งเป็นอาหารเสริมและเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณ รวมถึงการเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ใช้รักษาและบำรุงร่างกายอย่างได้ผล
สรรพคุณของดาวเรืองด้านการรักษา
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ดาวเรืองเป็นมากกว่าไม้ดอกที่ให้สีสันความสดใส แต่ยังมีสรรพคุณมากมายที่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการผิดปกติต่างๆของร่างกาย ดังต่อไปนี้
บำรุงสายตา
สายตา เป็นอวัยวะที่สำคัญมากของคนเรา ดังนั้นผู้คนจึงหันมาดูแลและถนอมสายตากันมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้ดวงตาเกิดอาการเสื่อมได้โดยง่าย โดยเฉพาะโรคจอประสาทเสื่อมตามอายุหรือ AMD ( Age – Related Macular Degeneration) พบได้มากในคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคนี้สามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นและตาบอดได้ และหนึ่งในสารสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงสายตาและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกคือลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งสารเหล่านี้ เป็นสารที่โดยส่วนใหญ่สกัดมาจากดอกดาวเรือง เนื่องจากโดยปกติในดอกดาวเรืองจะมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แซนโทฟิลล์ (Xanthophyll) ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) ชนิดหนึ่ง ในสารชนิดนี้มีส่วนประกอบเป็นโมเลกุลที่มีออกซิเจน ได้แก่ลูทีนและซีแซนธินนั่นเอง โดยสารเหล่านี้จะอยู่ในจอประสาทตาของมนุษย์เราหรืออาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็น เม็ดสีจอประสาทตา โดยถูกจัดให้เป็นสารบำรุงสายตาจากพืชมีสี มีสรรพคุณช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยกรองแสงสีฟ้า ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงแดดหรือรังสีอัลตร้าไวโอเลต ช่วยปรับปรุงความสามารถในการกรองของดวงตา ทำให้มองเห็นได้ง่ายขึ้นในสภาพแสงน้อย ช่วยเพิ่มน้ำตา ช่วยลดอาการตาแห้งได้ อีกทั้งยังเป็นสารออกซิเดชั่น ที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของจอประสาทตาให้ลดลงได้ สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือทั้งลูทีนและซีแซนธิน เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์จากอาหารเสริมเท่านั้น โดยแนะนำให้รับประทานลูทีนและซีแซนทีนประมาณ 10-20 มก. ต่อวัน และอาจต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาโดยเฉพาะ เช่นโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ เป็นต้น
บรรเทาโรคผิวหนัง
ในดอกดาวเรืองมีสารที่เรียกว่าคาเลนดูลา (Calendula) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่นโรคผิวหนังอักเสบ แผลเป็น และผิวหนังแห้งแตก ซึ่งในการดูแลปัญหาในส่วนนี้ มักเป็นสารสกัดจากดอกดาวเรืองที่อยู่ในรูปแบบของครีมยา น้ำมันหอมระเหย หรือโลชั่นบำรุงผิว
แก้ร้อนใน
เนื่องจากในดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ที่ช่วยต้านอาการอักเสบ ทำให้สามารถรักษาอาการร้อนในได้ โดยการนำดอกดาวเรืองไปตากให้แห้ง แล้วนำมาชงน้ำดื่ม จะช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้อาการร้อนในลดลง นอกจากนั้น ยังสามารถนำชาจากดอกดาวเรืองมาใช้บ้วนปาก ก็จะช่วยรักษาอาการร้อนในได้อีกทางหนึ่ง
แก้ปวดฟัน
หากนำดอกดาวเรืองแห้ง 7-8 ดอกไปต้มกับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วจิบแทนน้ำตลอดทั้งวัน ก็จะสามารถลดอาการปวดฟันได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด
ลดไขมันในเลือด
เนื่องจากในสารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ไลเปส (Pancreatic lipase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยไขมันจากตับอ่อน จัดเป็นสารพฤกษเคมีประเภทสารประกอบฟีนอลิก ที่ออกฤทธิ์ทำให้เอนไซม์ย่อยไขมันทำงานไม่เป็นปกติ จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพการย่อยอาหารที่มีไขมันและการดูดซึมไขมันในร่างกายลดลง ช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด ทั้งยังช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคอ้วนได้ด้วย
ช่วยขับลม แก้ท้องผูก รักษาริดสีดวงทวารหนัก
ตามตำหรับยาของอินเดีย ได้ใช้ดอกดาวเรืองเพื่อขับลมในกระเพาะอาหาร และรักษาริดสีดวงทวาร โดยจะใช้น้ำคั้นจากช่อดอกดาวเรืองมาดื่ม หรือในบางกรณีจะใช้น้ำคั้นจากช่อดอก ผสมกับน้ำอุ่น แล้วนั่งแช่ ก็จะสามารถช่วยลดอาการบวมของแผลที่เกิดจากริดสีดวงทวารได้ เนื่องจากฤทธิ์ของดอกดาวเหลือง จะทำให้หลอดเลือดหดตัว ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารให้ดีขึ้นได้
ลดน้ำตาลในเลือด
ได้มีข้อมูลจากงานวิจัยของสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ระบุเอาไว้ว่า ในสารสกัดดอกดาวเรืองนั้นมีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส (Alpha-glucosidase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลในลำไส้เล็ก ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของสารสกัดดาวเรืองจะช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในร่างกาย ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงนั่นเอง
ช่วยละลายเสมหะ แก้เจ็บคอ
อาการที่เกี่ยวข้องกับต่อมทอนซิลอักเสบ รวมไปถึงอาการแผลในช่องปาก เหงือกอักเสบ และปากเปื่อย
บรรเทาอาการเวียนหัว ปวดหัว คลื่นไส้ ช่วยให้ไข้ลดลง
แก้อาการปวดท้อง ปวดตามข้อ ปวดเต้านมเนื่องมาจากอาการอักเสบ ปวดประจำเดือน เจ็บหู ปวดหู
ข้อควรระวังในการใช้สารสกัดดอกดาวเรืองในการรักษาอาการเจ็บป่วย
แน่นอนว่าทุกอย่างเมื่อมีข้อดี ก็ย่อมมีข้อจำกัด รวมถึงดอกดาวเรืองและสารสกัดดอกดาวเรือง ซึ่งเราจำเป็นต้องรู้ถึงข้อควรระวัง เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัยและไม่ก่อเกิดอันตราย ดังนี้
การซื้อดอกดาวเรืองจากร้านข้างนอก มีข้อควรระวังในเรื่องความสะอาดและสารปนเปื้อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่จะต้องนำมาต้มหรือใช้เป็นชา ควรเลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือปลูกเองที่บ้าน
ควรบริโภคดอกดาวเรืองที่ผ่านกรรมวิธีการต้มหรือเป็นสารสกัดแล้วเท่านั้น เพราะยังไม่มีหลักฐานหรืองานวิจัยที่ยืนยันถึงประโยชน์ของการรับประทานดอกดาวเรืองแบบสดๆ
ระมัดระวังการใช้สารสกัดดอกดาวเรืองต่อผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ เช่นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคตับหรือโรคไต เป็นต้น ทั้งนี้ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ในกรณีที่เป็นสารสกัดดอกดาวเรืองที่ใช้รับประทาน ไม่ควรบริโภคมากเกินขนาดที่กำหนด เนื่องจากในสารสกัดดอกดาวเรืองอาจจะมีสารชีวเคมี หากร่างกายได้รับมากจนเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้
สรรพคุณของสารสกัดดอกดาวเรืองทางด้านความงาม
ไม่เพียงประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่สารสกัดดอกดาวเรือง ยังมีสรรพคุณในการดูแลผิวพรรณได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย เนื่องจากในสารสกัดดอกดาวเรืองอุดมไปด้วยสารที่มีชื่อว่า Lutein ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวแบบครบวงจร ดังต่อไปนี้
- Anti-inflamatory มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของผิว เช่น การอักเสบของสิว ลดรอยแดงของสิว ช่วยสมานแผล
- Moisturizing ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและแห้ง หรือผิวที่ระคายเคือง
- Immunodolulatory ช่วยเสริมให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง ทำให้ผิวไม่แพ้ง่าย เหมาะสำหรับผิวที่มักเป็นผื่นหรือผิวแพ้ง่าย
- Reepithelizing ช่วยเร่งการก่อตัวของชั้นผิว ทำให้ชั้นผิวแข็งแรง มีสุขภาพดี กระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างชั้นผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนได้อย่างรวดเร็ว ช่วยชะลออายุของผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ (anti-aging)
โดยคุณสมบัติทั้ง 4 ประการนี้ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำให้ผิวมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่แพ้ง่าย ทั้งยังเป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันให้แก่ผิวได้อีกด้วย ในส่วนของสรรพคุณของสารสกัดดอกดาวเรืองที่มีต่อผิวพรรณอื่นๆ สามารถจำแนกคุณประโยชน์ได้ดังต่อไปนี้
สารสกัดดอกดาวเรือง
สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวหนังและลดการเกิดสิวอักเสบ เนื่องจาก สารสกัดจากดอกดาวเรืองอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มไตรเทอปีน ฟลาโวนอยด์ และซาโปนิน ซึ่งมีฤทธิ์ที่ช่วยต้านการอักเสบ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ช่วยสมานแผล ช่วยทำความสะอาดเนื้อเยื่อ และป้องกันการติดเชื้อบนผิวหนัง นอกจากนั้น ยังมีผลการวิจัยออกมาว่า สารสกัดดอกดาวเรือง สามารถลดอาการบวมแดง ลดการเกิดผดผื่น ทั้งยังช่วยให้รอยแผลที่เกิดจากการอักเสบหายเร็วขึ้นเป็นสองเท่า ลดรอยดำรอยแดงจากสิว และด้วยเหตุนี้ จึงนิยมนำสารสกัดดาวเรืองมาใช้เป็นส่วนผสมในครีมทาสิว เจลแต้มสิวและครีมบำรุงผิว แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการแพ้เกสรดอกไม้
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งมีความจำเป็นมากสำหรับเรื่องของผิวพรรณ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการศึกษาโดยนำดอกไม้ 4 ชนิด คือ ดอกดาวเรือง ดาวกระจาย พวงชมพู และเฟื่องฟ้ามาทำการศึกษา แล้วพบว่าในดอกดาวเรืองมีสารพวกกรดฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์มากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ถึง 3-4 เท่าเลยทีเดียว
บำรุงผิวและลดเลือนริ้วรอย
เนื่องจากในสารสกัดดอกดาวเรืองมีกรดจำพวกฟีนอลิก ซึ่งได้แก่ กรดแกลลิก กรดวานิลลิก กรดคาเฟอิก กรดคูมาริก และกรดไซรินจิก ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ด้วย
ช่วยลดรอยแผล รอยช้ำบนผิว
จากข้อมูลของ Onlymyhealth ได้กล่าวถึงสรรพคุณของดอกดาวเรืองว่าเป็นไม้ดอกที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากบาดแผลและริ้วรอยต่างๆแล้ว ยังทำให้ผิวกระจ่างใส รอยดำ รอยด่างลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ผิว
เนื่องจากในดอกดาวเรืองมีสาร Glycoprotein และ Nucleoprotein ที่มีคุณสมบัติช่วยในการเพิ่มเซลล์ผิว ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างเซลล์ใหม่ของผิวขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ และถ้าหากร่างกายมีการสร้างเซลล์ผิวเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงการที่ผิวจะมีสุขภาพดีตามมา
ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น
ดอกดาวเรืองมีส่วนช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาได้ โดยจะนำส่วนของใบมาบดเป็นผง แล้วนำไปผสมกับน้ำนม ทาในบริเวณผิวหนังที่ต้องการการบำรุง สารสกัดในดอกดาวเรืองจะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมาชุ่มชื้นขึ้นได้ หรืออาจจะมองหาโลชั่นทาผิวที่มีส่วนผสมของสารสกัดดอกดาวเรืองมาทาผิวกาย ก็จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น
ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปริมาณคอลลาเจนที่ลดลงของร่างกาย ตามวัย ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้หน้าแลดูอิ่มเอิบ สุขภาพดี ท่านสามารถหามาส์กดอกดาวเรืองมามาส์กหน้า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยให้ผิวหน้าดูฉ่ำวาว โกลด์ แลดูสุขภาพดี
Skin Balance by mesoestetic เป็นเซรั่มที่มีความเข้มข้น แต่มีความอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ โดยมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรและดีต่อสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่แพ้ง่าย (sensitive skin) และเกิดการระคายเคืองอยู่เป็นประจำ ดังต่อไปนี้
ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว (barrier function)
Skin Balance มีส่วนผสมที่เรียกว่า Acetyl Heptapeptide-4 (Prebiotic) ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดี ทำให้แบคทีเรียเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิว ช่วยเสริมสร้างเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง
- ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ (anti-oxidant)
โดยสารที่เรียกว่า Acetyl Tetrapeptide-2 ที่จะช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระในชีวิตประจำวัน เช่นสิ่งแวดล้อมภายนอก แสงแดด และมลภาวะต่างๆ - ช่วยปลอบประโลม และฟื้นคืนความแข็งแรงให้ผิว (soothing & repairing)
ด้วยส่วนผสมของ Sensicalm complex ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง แดง คัน และอาการแสบร้อน ทั้งยังช่วยฟื้นฟูและปรับสมดุลของผิวให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น - ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูผิวใหม่ (regenerance)
ด้วยส่วนผสมของ Panthenol (vitamin B5) ที่สามารถช่วยฟื้นบํารุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ช่วยปลอบประโลมผิว และช่วยกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ ทั้งยังมี Aloe vera ที่มีส่วนช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้น และเกิดการสมานของผิว
นอกจากนั้น ยังมีสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ, สารสกัดจากเมล็ดพืช Tephrosia Purpurea ที่ช่วยรักษาสมดุลของผิว ช่วยปลอบประโลมผิว ทั้งยังป้องกันผิวจากการระคายเคือง เมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะ,สารสกัดจากหญ้าฝรั่น ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยลดการระคายเคืองที่เกิดจากผิวที่แห้งกร้าน, สารสกัดจากดอกคาโมมายด์ ที่จะช่วยปลอบประโลมและบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว และที่สำคัญคือมีสารสกัดจากดอกดาวเรือง (Calendula Extract) ที่ช่วยปลอบประโลมผิวให้รู้สึกสบาย บรรเทาอาการแดงและการอักเสบของผิวได้ดีอีกด้วย
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าดอกดาวเรือง ดอกไม้ที่เกิดได้ง่ายๆ หาพบได้ทั่วไปจะมากด้วยสรรพคุณมากมาย ไม่เพียงดอกสวยๆ ที่นำไปประดับตกแต่งตามอาคารสถานที่เท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนกับยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายและบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ในหลายๆด้าน ในการรับประทานแบบสดๆ อาจจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ในปัจจุบันได้มีการนำดอกดาวเรืองมาแปรรูปเป็นสารสกัดมากขึ้น เพื่อความสะดวกในการใช้และสามารถจำกัดปริมาณที่ร่างกายกายรับได้ และได้ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งในส่วนที่เป็นยารักษาโรค อาหารเสริม และใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลาย ด้วยสรรพคุณมากมาย ที่จะช่วยให้ผิวพรรณดูผ่องใสและอ่อนกว่าวัยขึ้นไปอีกระดับ