“การล้างหน้าให้สะอาด” ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวให้กระจ่างใส สุขภาพดี เนื่องจากเป็นการทำความสะอาดผิว ช่วยชำระล้างคราบเครื่องสำอาง ไขมันส่วนเกิน รวมถึงฝุ่นและมลภาวะต่างๆที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน เป็นการลดการอุดตันและการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ต้นตอของการเกิดสิว ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผิวเพื่อที่จะรับการบำรุงด้วยสกินแคร์ตัวอื่นๆต่อไป เพื่อให้สารบำรุงผิวสามารถซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการใช้โฟมล้างหน้าที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราจึงมีความสำคัญ วันนี้เราจะมาเรียนรู้จักสาระดีๆเกี่ยวกับโฟมล้างหน้าด้วยกันพร้อมวิธีในการล้างหน้าอย่างถูกต้องเพื่อตอบโจทย์ในทุกปัญหาผิวของคุณ
โฟมล้างหน้าคืออะไร
“โฟมล้างหน้า” หรือที่เรารู้จักกันว่า ”คลีนเซอร์” (Cleanser) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าจากสิ่งสกปรก เชื้อโรค ฝุ่นละอองและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และไม่สามารถใช้เพียงแค่น้ำเปล่าล้างให้สะอาดได้อย่างหมดจด
ทำไมโฟมล้างหน้าถึงจำเป็นสำหรับผิว
การล้างหน้าให้สะอาด เป็นประตูด่านแรกสู่ผิวสวย กระจ่างใส เนื่องจากผิวของคนเรามีการขับน้ำมันออกมาเพื่อปกป้องผิวจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศ เมื่อมารวมกับเหงื่อไคลและเชื้อแบคทีเรียก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขนและกลายเป็นสิวในที่สุด นอกจากนั้นผิวของคนเรายังมีอาการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการหมักหมมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และถ้ายิ่งมีคราบไขมันปนเปื้อนหรือมีฝุ่นละอองเหนียวๆด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะทำให้กระบวนการการผลัดเซลล์ผิวใหม่เกิดขึ้นได้ช้าลง ส่งผลให้ผิวไม่เรียบเนียน ไม่กระจ่างใส ดังนั้นการใช้โฟมล้างหน้า จึงเป็นการช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่างๆที่ตกค้างอยู่ตามรูขุมขนของผิวให้สะอาดหมดจด ทำให้ผิวหน้าสะอาดและลดปัญหาผิวลงได้
โฟมล้างหน้าที่ใช้อยู่เหมาะกับสภาพผิวของคุณหรือไม่
แน่นอนว่าโฟมล้างหน้าล้วนมีคุณสมบัติในการล้างทำความสะอาดผิว แต่คำถามตามมาก็คือว่า แล้วโฟมล้างหน้าที่เราใช้อยู่เหมาะสมกับสภาพผิวของเราหรือเปล่า? ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะหลายครั้งผู้คนมักจะเลือก โฟมล้างหน้าจากโปรโมชั่น ของแถม หรือยี่ห้อ มากกว่าการพิจารณาว่าโฟมล้างหน้าเหล่านั้นเหมาะกับสภาพผิวหรือปัญหาผิวของเราหรือไม่ และบ่อยครั้งทำให้โฟมที่เราเลือกซื้อมานั้นไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้ ทั้งยังสามารถทำร้ายผิวหน้าของเราได้ด้วย
คลีนซิ่งกับโฟมล้างหน้า
หลายคนสับสนระหว่าง “คลีนซิ่ง” กับ “โฟมล้างหน้า” หรือที่เราเรียกกันว่า “คลีนเซอร์” จะว่าไปแล้ว คลีนซิ่งก็คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง (make up remover) หรือครบสกปรกบนใบหน้าให้สะอาด ก่อนที่จะล้างออกด้วย”คลีนเซอร์” หรือโฟมล้างหน้าอีกครั้ง
ผลเสียของการไม่ล้างหน้าให้สะอาด
มีผลเสียมากมาย ในกรณีที่ไม่ให้ความใส่ใจในการล้างหน้าให้สะอาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับผิวในระยะยาวได้ ดังต่อไปนี้
- ทำให้รูขุมขนกว้าง
- เกิดสิวได้ง่าย ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน
- เกิดริ้วรอยได้ง่าย ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย
- ทำให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้เกิดจุดด่างดำและผิวไม่เรียบเนียน
- เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทำให้เกิดโรคผิวหนังตามาได้ง่าย
ส่วนผสมของโฟมล้างหน้า
เป็นที่ทราบกันดีว่าโฟมล้างหน้า มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวหน้า แต่เนื่องด้วยสภาพผิวของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ทั้งปัญหาผิวก็ไม่เหมือนกันด้วย หลายท่านหน้ามัน เป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่าย ดังนั้นในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าจึงได้มีการใส่สารตัวอื่นๆเข้าไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ดังต่อไปนี้
- กรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid)
กรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) มักถูกนำไปใส่ในโฟมล้างหน้าในสูตรสำหรับลดสิว เนื่องจากมีความเป็นกรดอ่อนๆที่สามารถละลายในไขมันได้ จึงทำให้แทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้เป็นอย่างดี โดยจะเข้าไปสลายสิ่งอุดตันและสิ่งสกปรกที่อยู่ตามรูขุมขนบนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกมาด้วย ทำให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น
- สารให้ความชุ่มชื้น
โดยส่วนใหญ่ มักเป็นสารที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant) ซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำจากชั้นใต้ผิวหนังขึ้นมาถึงชั้นบนของผิว เพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้กับผิวที่ชั้นบนสุด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคุณสมบัติช่วยดึงน้ำจากความชื้นในอากาศเข้าสู่เซลล์ผิว ให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น โดยสารให้ความชุ่มชื้นที่นิยมใส่ในโฟมล้างหน้า ได้แก่ Hyaluronic Acid, Sodium PCA, glycerin เป็นต้น
- สารจากใบบัวบก (Centella asiatica)
สารจากใบบัวบก (Centella asiatica) เรียกได้ว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยในการดูแลผิวพรรณ ประกอบไปด้วยสารสำคัญ 4 อย่าง คือ มาเดคาสโซไซด์ (madecassoside) กรดมาเดคาสสิก (madecassic acid) อะเซียติโคไซด์ (asiaticoside) และกรดอะเซียติก (asiatic acid) มีคุณสมบัติช่วยในการปลอบประโลมผิว ช่วยลดรอยที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดี
- น้ำมันพริมโรส (Primrose Oil)
ในดอกพริมโรสธรรมชาติมีกรดแกมมาไลโนเลอิค ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของโครงสร้างผิว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกระชับ ให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้ด้วย เป็นอีกสารสกัดสำคัญที่นำมาเป็นส่วนผสมในโฟมล้างหน้า
- น้ำมันบีจา (Bija Oil)
น้ำมันบีจา (Torreya Nucifera Seed Oil)เป็นน้ำมันจากเมล็ดลูกจันทร์เทศ มีคุณสมบัติช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดโอกาสในการเกิดสิว ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี
โฟมล้างหน้ากับเจลล้างหน้า
โดยปกติการใช้โฟมหรือเจลล้างหน้านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวเป็นสำคัญ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดโฟม
มักมีเนื้อนุ่มละมุน บางเบา มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจด ล้ำลึก ชาวยควบคุมความมัน ทั้งยังสามารถชำระสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่ผิวมัน หรือมีสิวเสี้ยน - เจลล้างหน้า
มีความอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากในโฟมอาจจะมีสารที่ขจัดความมันมากจนเกินไป ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและแห้งมากขึ้น เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้โดยง่าย
ประเภทของโฟมล้างหน้า
ผลิตภัณฑ์ประเภทโฟมล้างหน้าที่อยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ พร้อมทั้งใส่ส่วนผสมต่างๆเข้าไปเสริมประสิทธิภาพ เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆคือ โฟมล้างหน้าแบบมีฟอง และโฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง
- โฟมล้างหน้าแบบมีฟอง
โฟมล้างหน้าประเภทนี้พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งจะมีฟองที่หนานุ่มในขณะที่ใช้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารในกลุ่ม SLS หรือ sodium lauryl sulfate ซึ่งมีประจุไฟฟ้าเป็นประจุลบ แต่มีผลข้างเคียงคือเสี่ยงต่อการทำให้ผิวระคายเคือง ส่งผลทำให้ผิวหน้าแห้งตึงและสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว ไม่เพียงเท่านั้นประจุลบที่อยู่ในโฟมล้างหน้าจะมีการจับตัวกันกับประจุบวกบนผิวของเรา เมื่อนานวันเข้าจะทำให้สารต่างๆตกค้างอยู่ตามรูขุมขนจนกลายเป็นสิวอุดตัน (Comedone) ขึ้นมาได้
- โฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง
โฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง เป็นประเภทของโฟมล้างหน้าที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน มีความแตกต่างจากโฟมล้างหน้าแบบมีฟองตรงที่ไม่มีประจุไฟฟ้า ทำให้มีค่า PH ใกล้เคียงกับผิวหน้าของคนเรามากที่สุด ซึ่งส่งผลดีคือไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และยังสามารถชำระล้างออกได้ง่าย ไม่ทิ้งสารตกค้างจึงไม่เกิดการอุดตันในรูขุมขน ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันตามมา โฟมล้างหน้าประเภทนี้มีความอ่อนโยน เหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
ลักษณะและสูตรต่างๆของโฟมล้างหน้า
นอกจากโฟมล้างหน้าจะแบ่งออกเป็นประเภทที่มีฟองกับไม่มีฟองแล้ว ยังสามารถแบ่งได้ตามลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์และสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เนื้อครีม
ลักษณะของโฟมล้างหน้าประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นครีม ตรงตามชื่อ โดยจะมีความอ่อนโยนต่อผิวค่อนข้างสูง เนื้อครีมมีความนุ่มนวล สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว และในบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของเม็ดบีทต์ที่ช่วยสครับผิวไปในตัว
- เนื้อเจล
โฟมล้างหน้าแบบเนื้อเจลจะมีความบางเบากว่าแบบเนื้อครีม จึงมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า โดยส่วนใหญ่มีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณน้อย ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนผิวมันรวมไปถึงคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย
- เนื้อผง
โฟมล้างหน้าแบบผงแป้ง หรือแบบผง นับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีความล้ำหน้าเป็นพิเศษ ที่มาพร้อมกับการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไป โดยไม่มีความชื้นอยู่ในตัวเอง จึงสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และถ้าหากโดนน้ำก็จะทำให้เกิดฟอง มีการใช้งานที่ง่าย มักพบในรูปแบบยาหรือเวชภัณฑ์ที่ได้จากแพทย์ผิวหนัง ใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนังโดยเฉพาะ เช่น สิว ฝ้า กลากเกลื้อน ฯลฯ เนื่องจากยาหรือสารสกัดที่ใช้จะให้ประสิทธิภาพดีในรูปแบบผง เมื่อใช้ทำความสะอาดผิวหน้าจะช่วยสครับผิวไปในตัว ทั้งยังช่วยดูแลความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เหมาะแก่การทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งยังสามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิว
- เนื้อบาล์ม
โฟมล้างหน้าแบบเนื้อบาล์มจะมีลักษณะคล้ายออยล์ ซึ่งพบมากในประเทศแถบเมืองหนาว โดยมีจุดเด่นคือช่วยกักเก็บและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการแห้งแตกของผิว จึงไม่ค่อยเห็นโฟมล้างหน้าแบบนี้ในแถบเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เพราะหากใช้แล้วจะยิ่งเพิ่มความมันและอุดตันรูขุมขนเพิ่มขึ้น
- โฟมล้างหน้าแบบสบู่
นับเป็นลักษณะแรกเริ่มของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเลยก็ว่าได้กับโฟมล้างหน้าแบบสบู่ ส่วนใหญ่ราคาไม่แพง มีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิว สิ่งสำคัญคือควรจะเลือกให้เหมาะสมตามลักษณะของผิวหน้า เพราะบางสูตรอาจจะมีมีความแรงของส่วนผสมมากกว่าแบบอื่น และที่สำคัญคือมีความเป็นด่างสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นโฟมล้างหน้าชนิดอื่นๆ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ในบางราย
- โฟมล้างหน้าแบบ Exfoliating
โฟมล้างหน้าแบบ Exfoliating มีลักษณะคล้ายกับโฟมสำหรับสครับหน้า ที่จะช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวไม่แห้งตึง
- โฟมล้างหน้าแบบซินเด็ท (Syndets)
เป็นโฟมล้างหน้าที่พัฒนามาจากโฟมแบบสบู่ โดยมีค่าความเป็นด่างน้อยกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ยังถือว่ามีความเป็นด่างในระดับที่สูงอยู่ดี จึงควรเลือกใช้ด้วยความระมัดระวัง
เคล็ดลับการเลือกโฟมล้างหน้าให้เหมาะกับผิว
การเลือกผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องได้รับการดูแลและทำความสะอาดแตกต่างกันตามสภาพผิวนั้น โดยมีเคล็ดลับในการเลือกดังต่อไปนี้
- ผิวธรรมดา
ผิวธรรมดาเป็นผิวที่ได้เปรียบกว่าผิวประเภทอื่น เพราะมีปัญหาผิวน้อยที่สุดจึงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าได้แทบทุกชนิด แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
- ผิวมัน
สำหรับคนผิวมันควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันให้กับผิวหน้ามากขึ้น แต่ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน พร้อมทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก ก็จะช่วยลดความมันและการอุดตันรูขุมขนลงได้ นอกจากนั้นควรเลือกโฟมล้างหน้าที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วย เนื่องจากว่า ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าบางชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยลดความมัน จะเข้าไปทำลายความชุ่มชื้นบนผิวหน้าให้หมดไป ทำให้ผิวแห้ง จนถึงขั้นลอกเป็นขุยเลยก็ว่าได้
- ผิวแห้ง
สำหรับผู้ที่ผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของน้ำมันธรรมชาติ น้ำผึ้ง รวมไปถึงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะมีคุณสมบัติที่จะช่วยกักเก็บและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดความแห้งกร้านให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้อย่าง AHA และ BHA เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้านมากกว่าเดิม
- ผิวผสม
สำหรับคนที่มีผิวผสม จะมีลักษณะสำคัญคือจะมีทั้งสภาพผิวที่แห้งและมันผสมกัน บางครั้งสภาพผิวใดสภาพผิวหนึ่งอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยบริเวณที่มันจะเป็นบริเวณที่เรียกว่า T-zone คือบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง ในช่วงที่อากาศร้อน บริเวณนี้มักสร้างปัญหาให้แก่ผิวคือจะมีความมันมาก หรือถ้าหากมีสภาพอากาศที่หนาว ในบริเวณผิวที่แห้งก็อาจจะลอกเป็นขุยได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสมดุลให้แก่ผิว ซึ่งควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ช่วยขจัดความมันส่วนเกินและช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นในคราวเดียวกัน เวลาทำความสะอาดควรเน้นบริเวณที่เป็นทีโซน (T-zone) เป็นพิเศษเพื่อลดการอุดตันของคราบไขมันตามรูขุมขน
- ผิวบอบบาง
สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ซึ่งเป็นผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย ระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ควรเป็นโฟมแบบไม่มีฟองและมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองผิวอย่างพวกว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ และควรหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารอันตราย แอลกอฮอล์ น้ำหอม กรดผลไม้ รวมไปถึงโฟมที่มีส่วนผสมของเม็ดบีทต์สครับ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
วิธีล้างหน้าอย่างถูกวิธี
เพื่อหน้ากระจ่างใส ห่างไกลจากสารตกค้างและสิว เรามีวิธีการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีมาฝากดังนี้
- สำหรับท่านที่แต่งหน้า ทาครีมกันแดด ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ ควรเริ่มต้นด้วยการใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง คราบฝุ่น คราบสกปรกต่างๆออกให้หมดก่อน
- เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของเราให้มากที่สุด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายเกราะป้องกันผิว ที่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันธรรมชาติและความชุ่มชื้นบนผิวไป
- ล้างมือทั้งสองข้างให้สะอาด เพื่อลดโอกาสการสะสมของเชื้อโรคที่มือ
- เปิดรูขุมขนก่อนล้างหน้าด้วยการล้างน้ำอุ่น หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วมาประคบวางบนผิวหน้า 2-3 นาที
- บีบโฟมล้างหน้ามาถูวนบนฝ่ามือเพื่อลดแรงเสียดสีระหว่างใบหน้าและฝ่ามือ ทำให้ไม่เกิดริ้วรอย
- ล้างและนวดหน้าตามแนวขน โดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนางทั้งสองข้างลูบไล้อย่างอ่อนโยน เริ่มจากกลางหน้าผากออกไปขมับทั้งสองข้าง แล้วมาที่บริเวณหัวตา จมูก เหนือริมฝีปาก และคาง จากนั้นทำความสะอาดโหนกแก้มและหน้าแก้ม
- ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ
เนื่องจากการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน ทำให้สูญเสียน้ำมันธรรมชาติบนผิวหน้า ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมา เพื่อชดเชยน้ำมันที่เสียไป ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่าย ส่วนการล้างหน้าด้วยน้ำเย็น อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเป็นตัวการที่ทำลายปราการของผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกล้างหน้าด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ ให้ล้างโฟมล้างหน้าออกอย่างเบามือ - เช็ดหน้าให้สะอาดอย่างเบามือด้วย กระดาษหรือสำลีเช็ดหน้าค่อย ๆ ซับ ถ้าจะใช้ผ้าขนหนูแนะนำให้เปลี่ยนผ้าขนหนูทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ไม่ขยี้ผิว เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมีความเหี่ยวย่นได้
- ควรใช้ทาสกินแคร์หลังล้างหน้าทันที
หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ เป็นช่วงที่รูขุมขนเปิด ควรทาสกินแคร์เพื่อการบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวทันทีหลังจากเช็ดหน้าให้แห้งและสะอาด เพื่อตัวครีมจะได้ซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้ทันที ทำให้ผิวได้รับการบำรุงได้อย่างเต็มที่
แนวทางการเลือกซื้อโฟมล้างหน้า
แน่นอนว่าในท้องตลาดมีโฟมล้างหน้ามากมายหลากหลายยี่ห้อ แต่เพื่อคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ เรามีแนวทางในการเลือกซื้อโฟมล้างหน้ามาฝากกัน ดังต่อไปนี้
- เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว
สิ่งแรกที่ราจำเป็นต้องรู้คือ เรามีสภาพผิวแบบไหน เพื่อจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ในสูตรที่ตอบโจทย์กับการทำความสะอาดผิวหน้าของเราได้มากที่สุด เช่น เช่น ผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำมัน ควรใช้โฟมล้างหน้าที่ส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติและมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ขณะเดียวกันคนผิวมันก็ไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพราะจะยิ่งทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้นไปอีก
- เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ตรงกับปัญหาผิว
นอกจากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวแล้วเรายังต้องเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ตรงกับปัญหาผิวหน้าของเราด้วย เช่น หากมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งหรือมีส่วนผสมของสครับ กรดผลไม้หรือกรดซาลิไซลิก เพื่อช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าพร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ริ้วรอย กระ และอื่น ๆ ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ช่วยดูแลรักษาปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุดที่สุด
- หลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งตึง
หลายคนคิดว่าโฟมล้างหน้าที่ใช้แล้วหน้าเกิดเสียงเอี๊ยดตอนถูนั่นคือหน้าสะอาดมากแล้วจริงๆ แต่นั่นคือความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เพราะมันเป็นสัญญาณของการที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ดังนั้นเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังใช้ และควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH หรือค่าความเป็นกรด-ด่างเหมาะกับสภาพผิวของเราเพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง ต้องใช้ได้ดี ทั้งบริเวณที่ผิวแห้งและบริเวณที่เป็นผิวมัน พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยใดๆตามมา
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนกับผิว
สามารถทำความสะอาดล้างสิ่งอุดตัน คราบน้ำมัน คราบของสารเคมีตกค้างออกได้อย่างสะอาดหมดจด เพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงต่อไป
- เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารอันตรายต้องห้าม
รวมถึงสารที่สามารถทำอันตรายต่อผิว อย่างเช่น น้ำหอม สารเติมแต่งสี วัตถุกันเสีย สารแต่งกลิ่น มิเนรัลออยล์ แอลกอฮอล์ และพาราเบน เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและนำมาซึ่งปัญหาผิวอื่นๆตามมาอีกมากมาย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ตามที่โรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำระดับโลกแนะนำ
อาการแพ้โฟมล้างหน้า
อาการแพ้โฟมล้างหน้า สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับคนที่ผิวหน้ามีความบอบบาง แพ้ง่าย ซึ่งสามารถแสดงอาการต่างๆได้ดังต่อไปนี้
- แพ้แอลกอฮอล์ในโฟมล้างหน้า
โดยปกติ แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติพิเศษในการทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่อาจจะมีประสิทธิภาพมากเกินไป หรือใส่ในปริมาณที่สูงจนเกินไป จึงส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการแพ้ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดอาการแสบที่ผิว
- ผิวมันกว่าเดิม
การที่ใช้โฟมล้างหน้าแล้ว ผิวมีความมันมากกว่าเดิม เป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆไม่ได้มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมัน อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ และหลังจากที่ผิวเริ่มขาดความชุ่มชื้น ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อเคลือบผิว นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมหน้าจึงมีความมันมากขึ้นนั่นเอง
ตอบโจทย์ทุกสภาพผิวด้วยผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าจาก mesoestetic
ผลิตภัณฑ์จาก Mesoestetic เป็นเวชสำอางแบรนด์ระดับโลก ผ่านมาตรฐานการผลิตที่ทันสมัยและผ่านการรับรองคุณภาพ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารสกัดที่มีคุณภาพ แบบเข้มข้น ปลอดภัย ช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างตรงประสิทธิภาพ โดยผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าของ Mesoestetic มี 3 ตัวด้วยกัน
- hydracream fusion
ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าแบบเนื้อครีมสูตรที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ช่วยทำความสะอาดผิวได้สะอาดล้ำลึกถึงระดับรูขุมขน ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวใช้แล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึง นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ post biotic ที่ได้จากกระบวนการหมัก Lactobacillus ช่วยปรับสมดุลค่า PH ให้กับผิว ลดการระคายเคืองผิว และยังมี Squalane น้ำมันสกัดจากธรรมชาติช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว มาพร้อมกับเทคโนโลยี Anti-pollution ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะในอากาศได้อีกด้วย
- Brightening foam
ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าสูตรเพื่อมผิวกระจ่างใส ช่วยลดเลือนกระ ฝ้า จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เนื้อสัมผัสเป็นครีมเจลที่จะค่อย ๆ แตกตัวเป็นฟองนุ่ม ซอกซอนทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก สูตรนี้เหมาะกับผิวธรรมดาและผิวผสม มีส่วนผสมของ Glycolic Acid และ Lactic acid ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพรวมไปถึงสิ่งอุดตันตามรูขุมขนให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและแข็งแรงกว่าเดิม นอกจากนั้นยังมี postbiotic ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงลดการอักเสบระคายเคืองผิว
- purifying mousse
ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าเนื้อมูสบางเบาสูตรอ่อนโยนเหมาะกับผิวมันและเป็นสิวง่าย ช่วยขจัดและควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันรูขุมขน นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี BIO-BALANCING ACTION ช่วยปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงลดการอักเสบระคายเคือง ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Chlorhexidine ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิว และยังมี Salicylic acid และ Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและลดการอุดตันรูขุมขน
การทำความสะอาดผิวหน้า เป็นเรื่องง่ายๆที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็เป็นขั้นตอนที่จะต้องให้ความสำคัญและความใส่ใจอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีผิวสุขภาพดี ที่สำคัญควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีมาตรฐานการผลิตที่ได้คุณภาพ สามารถตอบโจทย์ในทุกปัญหาผิวและมีความเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของคุณ เพราะนั่นหมายถึงการดึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อผิวสะอาด ก็พร้อมรับการบำรุงอย่างล้ำลึกในลำดับขั้นตอนต่อไปได้อย่างเต็มที่ แล้วอย่างนี้ผิวดีๆจะไปไหนเสีย!