รู้จัก “คอลลาเจน” ตัวช่วยดีๆ มีประโยชน์ต่อร่างกาย

หากพูดถึงคอลลาเจน (collagen) เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักและคุ้นเคยกันดี เพราะถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารเสริม ทั้งนี้ก็เพราะว่าคอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ผิวเนียนใสและยกกระชับไม่หย่อนคล้อย วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเจ้าคอลลาเจนให้มากขึ้นกันว่ามีประโยชน์อย่างไร และคอลลาเจนมีส่วนในการดูแลผิวเราอย่างไร แล้วจำเป็นแค่ไหนที่เราจะต้องเสริมคอลลาเจนให้ร่างกาย ร่วมหาคำตอบกันได้ในบทความนี้

คอลลาเจนคืออะไร

คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีการรวมตัวกันของกรดอะมิโนหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเนื้อเยื้อเกี่ยวพันในสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าในร่างกายของมนุษย์ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ โดยคอลลาเจนมักจะเป็นส่วนประกอบของผม ผิวหนัง เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ซึ่งหน้าที่ของมันก็คือช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับอวัยวะเหล่านี้

ประโยชน์และความสำคัญของคอลลาเจนในร่างกาย

อย่างที่กล่าวไปว่าคอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายของเรา โดยคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วทั้งร่างกายของเรา หรือราว ๆ ร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว ทั้งนี้โดยธรรมชาติแล้วร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นได้เอง แต่ประสิทธิภาพในการสังเคราะห์คอลลาเจนจะลดน้อยลงตามอายุที่มากขึ้น นอกจากนั้นเรายังสามารถรับคอลลาเจนได้จากการรับประทานอีกด้วย ความสำคัญของคอลลาเจนในร่างกายก็คือเป็นเนื้อเยื้อเกี่ยวพันช่วยยึดเกาะเป็นโครงสร้างให้กับผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ ช่วยให้อวัยวะเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากขาดคอลลาเจนก็อาจจะทำให้อวัยวะเหล่านี้เสื่อมสภาพลงได้

ประเภทของคอลลาเจน

แม้ว่าคอลลาเจนในร่างกายของเราจะเป็นอนุพันธ์ของโปรตีนแต่ก็สามารถแบ่งออกได้ 5 ประเภท
ตามโครงสร้างและหน้าที่ ดังนี้

  • คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Collagen type I)

คอลลาเจนประเภทนี้พบมากที่สุดถึง 90% ในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นเส้นใยโปรตีนที่มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด ช่วยเพื่อความหยืดหยุ่นให้กับโครงสร้างของร่างกายป้องกันไม่ให้เนื้อเยื้อฉีกขาดมักพบว่าเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก หลอดเลือด เส้นเอ็น กระจกตก และเนื้อเยื้อเยวพันอื่น ๆ

  • คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Collagen type II)

คอลลาเจนประเภทนี้จะมีโครงสร้างเส้นใยหลวมกว่าคอลลาเจนประเภทที่ 1 จึงมีความเหนียวน้อยกว่า ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและข้อต่อ พบมากที่กระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง เป็นเสมือนกาวช่วยประสานให้กระดูกอ่อนและข้อต่อต่าง ๆ ยึดติดกันและเคลือนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Collagen type III)

คอลลาเจนประเภทนี้มักพบอยู่ร่วมกับคอลลาเจนประเภทที่ 1 แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10 % ส่วนใหญ่มักพบในผนังหลอดเลือด นอกจากนี้ยังพบในผิวหนังและกล้ามเนื้อบางส่วน

  • คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Collagen type IV)

คอลลาเจนประเภทนี้จะมีลักษณะเฉพาะตัว พบมากในบริเวณของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน นอกจากนั้นยังพบในเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิวต่าง ๆ

  • คอลลาเจนประเภทที่ 5 (Collagen type V)

คอลลาเจนประเภทนี้จะพบมากในบริเวณเยื้อหุ้มเซลล์และเป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังพบว่าคอลลาเจนชนิดนี้เป็นส่วนประกอบของเส้นผมด้วย

อัตราการเสื่อมของคอลลาเจน

อย่างที่กล่าวไปว่าร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนได้เอง ทว่า อัตราการสังเคราะห์คอลลาเจนของร่างกายนั้นก็แปรผกผันกับอายุ กล่าวคือ ยิ่งเราอายุมากขึ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนก็จะลดต่ำลง จึงเป็นเหตุผลว่าคนที่เริ่มมีอายุผิวพรรณก็จะเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึงเหมือนกันคนหนุ่มสาวอันเนื่องจากว่าคอลลาเจนในชั้นผิวลดลง ผิวจึงไม่ยืดหยุ่นยกกระชับแบบเดิม ไม่เพียงเท่านั้นยังรวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ของกระดูก ข้อต่อ และเส้นผมที่เสื่อมสภาพลงจากการขาดคอลลาเจนอีกด้วย

งานวิจัยพบว่าคอลลาเจนในร่างกายของเราจะลดลงเมื่อเราอายุเข้า 25 ปีแล้วจะค่อย ๆ ลดลง 1-2% ทุกปี พอเข้าช่วงอายุ 30 ปี ผิวหน้าก็จะเริ่มบางลง เริ่มมีรอยย่นระหว่างคิ้วและรอบดวงตา จะเห็นชัดมากเวลาขมวดคิ้วและเวลาแสดงสีหน้าหรือหน้านิ่ว พอช่วงอายุ 40 ปี รอยย่นต่าง ๆ บนผิวเริ่มเห็นได้ชัดขึ้นแม้ไม่แสดงสีหน้า พอเริ่มเข้าช่วง 50 ปีขึ้นไปคอลลาเจนเสื่อมสภาพอย่างมากผิวเริ่มหยาบกระด้างไม่ชุ่มชื้น ริ้วรอยต่าง ๆ ชัดและลึกขึ้นมาก

ปัญหาที่เกิดจากคอลลาเจนเสื่อม

ดังได้กล่าวไปแล้วคอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนที่สำคัญกับร่างกาย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น ผม และเล็บ ดังนั้นเมื่อคอลลาเจนในร่างกายเสื่อมลงอวัยวะเหล่านี้ก็ย่อมต้องเสื่อมลงตามไปด้วย ซึ่งหากคอลลาเจนเสื่อมลงจะมีปัญหา ดังนี้

  • ผิวพรรณ

คอลลาเจนเป็นส่วนหลักประกอบของผิวหนังที่อยู่ลึกในใต้ชั้นผิว แน่นอนว่าเมื่อคอลลาเจนเสื่อมลงปัญหาผิวย่อมเกิดตามมา โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่พบหลังจากคอลลาเจนเสื่อมหรือลดลงก็คือผิวจะไม่ชุ่มชื้นและเรียบเนียน เริ่มเห็นความหยาบกร้าน ไม่เต่งตึงยกกระชับ ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยต่าง ๆ เริ่มมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นรอยร่องแก้ม รอยใต้ตา รอยตีนกา รวมไปถึงรอยเหี่ยวย่นตามบริเวณต่าง ๆ ของผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย

  • กระดูกและข้อ

บริเวณกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็นยึดข้อ ร่วมไปถึงบริเวณน้ำเลี้ยงไขข้อมีส่วนประกอบของคอลลาเจนโดยเฉพาะคอลลาเจนประเภทที่ 2 มากถึง 90% ด้วยเหตุนี้หากคอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือมีอัตราที่ลดน้อยลงก็ย่อมทำให้เกิดปัญหากับกระดูกและข้อ เช่น ปวดบริเวณตามข้อกระดูก ข้อเข่า ข้อศอก ข้อมือ หรือมีเสียงกร๊อบแกรบตามข้อมักจะเกิดตอนเดินขึ้นลงบันได

  • ผมและเล็บ

ผมและเล็บก็มีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบ ดังนั้นเมื่อขาดคอลลาเจนก็จะทำให้ผมบางเส้นเล็กลง เกิดปัญหาผมแห้งเสียเปราะแตกไม่นุ่มนวลเงางามและยังขาดหลุดร่วงง่าย เช่นเดียวกันเล็บที่ขาดคอลลาเจนก็จะเปราะฉีกได้ง่าย ผิวบริเวณจมูกเล็บก็จะแห้งกร้านลอกเป็นขุยไม่ชุ่มชื้น

ปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นทำลายคอลลาเจน

เชื่อว่าอ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยกันแล้วว่าปัจจัยอะไรบ้างทำให้คอลลาเจนในร่างกายของเราเสื่อมสภาพและลดน้อยลง จริง ๆ แล้วมีด้วยกันหลายปัจจัย ดังนี้

  1. อายุ

เป็นปัจจัยตามธรรมชาติที่เมื่อเราอายุมากขึ้นเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพและร่วงโรยลงตามวัย คอลลาเจนก็เป็นหนึ่งในนั้น

  1. แสงแดด

ในแสงแดดมีรังสียูวีทั้ง UVA และ UVB ซึ่งจะเข้าไปทำลายให้เส้นใยโปรตีนคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเปลี่ยนสภาพและเสื่อมสลายลง ไม่เฉพาะแค่แสงแดดเท่านั้นยังรวมไปถึงแสงและความร้อนจากหลอดไฟและแสงจากหน้าจอต่าง ๆ ด้วย

  1. มลภาวะ

มลภาวะในในอากาศไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน มลพิษ รวมไปถึง PM 2.5 สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราสูญเสียคอลลาเจน เพราะถือว่าเป็นกลุ่มสารอนุมูลอิสระที่จะทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลง

  1. ความเครียด

ความเครียดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเราสูญเสียคอลลาเจน เพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สูญเสียคอลลาเจน แน่นอนว่าการพักผ่อนน้อยก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาเช่นกัน

  1. อาหารที่มีน้ำตาล

เมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปก็จะทำปฏิกิริยากับโปรตีนหรือที่เรียกว่าปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Glycation) ซึ่งได้สารที่เรียกว่า AGEs (Advanced Glycation End-Products) ซึ่งทำให้โปรตีนเสื่อมสภาพส่งผลให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพลงด้วย

  1. บุหรี่และแอลกอฮอร์

การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำจะเพิ่มสารอนุมูลอิสระในร่างกายซึ่งจะไปทำร้ายให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพและลดน้อยลงในที่สุด

วิธีการเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกาย

แม้ว่าคอลลาเจนจะเสื่อมสลายลงได้แต่เราก็สามารถเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ โดยวิธีการเสริมคอลลาเจนง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยรับประทานจากอาหาร ซึ่งอาหารที่เป็นแหล่งของคอลลาเจนก็จะพบในเนื้อสัตว์โดยเฉพาะในส่วนกระดูก ไขกระดูก เส้นเอ็น และหนัง นอกจากนั้นยังพบในกลุ่มของปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาแซลมอนและทูน่า ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีเลยทีเดียว ประกอบกับในกลุ่มของปลาทะเลน้ำลึกยังมีโอเมก้าสูงมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ไม่เพียงเท่านั้นในพืชที่มีโปรตีนและโอเมก้าอย่างถั่วและธัญพืชต่าง ๆ ก็อุดมไปด้วยคอลลาเจนเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้วการทาสกินแคร์และการรับประทาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เป็นการช่วยเสริมคอลลาเจนให้ร่างกายได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนั้นเรายังจำเป็นจะต้องเสริมด้วยวิตามินซีด้วย เพราะวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการดูซึมคอลลาเจนให้เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นวิตามินซียังมีประสิทธิภาพช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวของเราอีกด้วย ดังนั้น หากเราต้องการเสริมคอลลาเจนก็อย่าลืมเสริมวิตามินซีเข้าไปพร้อมกันด้วยไม่ว่าจะเป็นการทาบำรุงหรือการรับประทาน ซึ่งหาได้ในกลุ่มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ฝรั่ง ผักใบเขียว หรือจะรับประทานวิตามินซีสกัดในรูปแบบอาหารเสริมได้ นอกจากนั้นโคเอนไซม์ คิว (Co-Enzyme Q) วิตามินเอก็ยังช่วยลดการสูญเสียคอลลาเจน เพราะโคเอนไซม์คิวจะช่วยลดการสูญเสียคอลลาเจนจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้าย ส่วนวิตามินเอจะไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้แก่ผิว

ฟื้นฟูคอลลาเจนสู่ผิวด้วยผลิต collagen 360

collagen 360 เป็นกลุ่มไลน์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์เวชสำอางระดับโลกอย่าง Mesoestetic ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่มีการสูญเสียคอลลาเจนขาดความกระชับ ให้มีความยืดหยุ่น พร้อมกับลดเลือนริ้วรอยบำรุงผิวให้ดูเต่งตึงยกกระชับ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม collagen 360 ประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เซรั่มเอสเซนส์ ครีมบำรุงผิวเนื้อบางเบา และครีมเจลบำรุงรอบดวงตา ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดอุดมไปด้วย Enriched marine collagen ซึ่งเป็นคอลลาเจนเข้มข้นจากปลาทะเลซึมซาบสู่ผิวได้ล้ำลึก ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ผิวเนียนกระชับไม่หย่อนคล้อยและคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว

จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายจริง ๆ โดยเฉพาะกับผิวหนัง หากเราปล่อยคอลลาเจนเสื่อมสลายและสูญเสียไปก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวขึ้น ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องใส่ใจดูแลตัวเองเพื่อชะลอความเสื่อมของคอลลาเจนไปพร้อม ๆ กับหาตัวช่วยดี ๆ อย่าง collagen 360 มาเป็นไอเทมเสริมช่วยฟื้นบำรุงเติมเต็มคอลลาเจนให้กับผิวเพื่อให้ผิวของเราแข็งแรง ยกกระชับไม่หย่อนคล้อย และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ใส่ความเห็น