ทุกวันต้องยอมรับเลยว่าคนส่วนใหญ่ ทำงานอยู่จอเป็นเวลานาน มากกว่า 8 ชั่วโมง ในการทำงาน เรียกได้ว่า ในปัจจุบันทุกวันนี้ ผู้คนต่างหันมาใช้ชีวิตผ่านหน้าจอเป็นกันส่วนมาก จะเรียกว่า 90 % เลยก็ว่า แล้วเราจะรู้หรือไม่ว่าสายตาเรานั้นต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ละวัน ที่เราได้ใช้ชีวิตกับหน้าจอ วันนี้เราจะมาพาทุกท่านทำความเข้าใจเรื่องของการใช้สายตากับหน้าจอ ไม่ว่าจะ หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือว่ามือถือก็ดี มันจะส่งผลเสียกับเราอย่างไรบ้าง และจะมีวิธีการดูแลรักษาดวงตาของเราอย่างไร ไม่ให้เสื่อมสภาพไว และอะไรที่เป็นชนวนของการทำลายสุขภาพดวงตาของเรา มาเริ่มกันเลย
ทำความรู้จักกับ แสงสีฟ้า หากว่าจ้องเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียอะไรกับดวงตาบ้าง
แสงสีฟ้าหรือ Blue light คือแสงที่เรามองเห็นอยู่ทุกๆ วัน ซึ่งเราสามารถพบได้ทั้งในแสงแดด และแสงจากมนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ทีวี หลอดไฟ LED เป็นต้น สำหรับแสงสีฟ้าจะเป็นแสงสีฟ้าที่ดีและแสงสีฟ้าที่มีโทษ
แสงสีฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีเพียงแค่ต้องทำความเข้าใจหลักการการทำงาน และข้อดีของแสงสีฟ้าก็ส่งผลดีต่อร่างกายของเราอยู่ไม่น้อยหากว่าคุณนั้นได้ถูกปลูกฝังมาว่าแสงสีฟ้าเป็นสิ่งไม่ดีแท้จริงแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จริง จากรายงานการวิจัยเรื่องของแสงสีฟ้า ได้ค้นพบว่าแสงพลังงานสูงที่มองเห็นได้ช่วยเพิ่มความตื่นตัว ช่วยเรื่องความจำและความรู้ความเข้าใจ และทำให้อารมณ์ดีขึ้นในความเป็นจริงสิ่งที่เรียกว่าการบำบัดด้วยแสงใช้ในการรักษาโรคอารมณ์ตามฤดูกาล ซึ่งได้ถือว่าเป็นภาวะซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล โดยอาการมักจะเริ่มในฤดูใบไม้ร่วงและดำเนินต่อไปจนถึงฤดูหนาว แหล่งกำเนิดแสงสำหรับการบำบัดนี้จะปล่อยแสงสีขาวสว่างซึ่งมีรังสีแสงสีฟ้า HEV จำนวนมากออกมา และนอกจากนี้แสงสีฟ้ายังมีความสำคัญ
- มากในการควบคุมจังหวะเซอร์คาเดียน ซึ่งเป็นวงจรการนอนหลับการตื่นตามธรรมชาติของร่างกาย การสัมผัสแสงสีฟ้าในช่วงเวลากลางวันช่วยรักษาจังหวะเซอร์คาเดียนซึ่งดีต่อสุขภาพ ต้องบอกเลยว่าถึงจะมีภัยแต่บางมุมบางเรื่องก็มีข้อดีเช่นกัน
- สำหรับในด้านของแสงสีฟ้าเป็นโทษที่เรานั้นอาจจะได้ยินมาบ่อย โดยสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการเล่นมือถือ เล่นคอมเป็นเวลานาน ซึ่งนั้นก็ไม่ผิด เพราะว่าแสงสีฟ้าที่มีโทษมีหลักการทำงานอยู่ในช่วงคลื่นที่ 415 ถึงช่วงความถี่ที่ 455 nm ซึ่งความถี่นี้จะเป็นคลื่นความถี่ที่สามารถทำงานทะลุผ่านดวงตาได้ตั้งแต่ระดับกระจกตา เลนส์ตา รวมจนไปถึงจอประสาทตา และเมื่อการทำงานจองคลื่นนี้ก็จะส่งผลให้เป็นอันตรายกับดวงตาโดยจะส่งผลสัญญาณเตือนให้คุณทราบนั่นก็คือทำให้ปวดตา ตาล้า ตาแห้ง ตาพร่า แสบตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล เกิดความผิดปกติของค่าสายตา และนอกจากนั้นยังรวมไปถึงจอประสาทตาเสื่อมลงได้ในอนาคตอีกด้วย
วิธีรับมือกับแสงสีฟ้า เมื่อท่านต้องทำงาน หรือว่าเล่นมือถือ เป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีแสงจ้ามากๆ หรือว่าท่านนั้นหากเลี่ยงไม่ได้ควรหาอุปกรณ์ป้องกัน อย่างเช่น กางร่มในที่แจ้งแดดจ้า สวมแว่นกันแดด ใส่หมวก เป็นต้น
- สวมแว่นตาที่เป็นเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้า ขณะอยู่หน้าจออุปกรณ์ IT
- ติดฟิล์มกรองแสงบนอุปกรณ์ IT ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ มือถือ
- ควรพักสายตาเป็นระยะ โดยใช้สูตรคือทุก ๆ 20 นาที ให้หยุดพักสายตา 20 วินาที โดยให้คุณนั้นได้มองออกไปข้างนอกมองไกลไป 20 ฟุต เพื่อเป็นการผ่อนคลายสายตา
- เมื่อต้องใช้คอมหรือว่ามือถือควรที่จะปรับความสว่างหน้าจอให้ไม่สว่างหรือว่ามืดจนเกินไป
- ไม่ใช้อุปกรณ์ IT ในที่มืด โดยเปิดเพียงแค่ มือถือ หรือว่าคอมพิวเตอร์อย่า
- เดียว เพราะว่านั้นทำให้แสงสีฟ้าคอมดวงตาคุณเต็มๆ และจะส่งให้คุณนั้นนอนหลับยากอีกด้วย
- ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา ป้องกันตาแห้ง
- ต้องเข้าทำการตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดสายตาและ หากพบความผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษา
- ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา อาทิเช่น กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ข้าวโพด เป็นต้น
ภัยจากแสงสีฟ้าก่อให้เกิดภาวะทางสายตา
สำหรับภายนอกจากแสงสีฟ้าที่จะนำพาความเดือดร้อนสู่ดวงตาทั้งสองข้างของท่าน ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลัก จากรายงานทางการแพทย์ นั่นก็คือ
- โรคจอประสาทตาเสื่อม
- อาการตาล้า ตาแห้ง
- ผลกระทบต่อการนอนหลับ
โรคจอประสาทตาเสื่อม ที่มาจาก แสงสีฟ้าจากหน้าจอ สำหรับโรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ Macular Degenerationเกิดขึ้นจากภาวะจอตาบวมและจุดภาพชัด ที่ท่านนั้นได้รับคลื่นพลังงานแสงสีฟ้าจากหน้าจอโดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์อย่างแว่นกรองแสงสีฟ้าถนอมดวงตาไว้ และนั้นจึงทำให้เกิดการเสื่อมสภาพการส่งสัญญาณการมองเห็นไปยังส่วนเส้นประสาทตา เกิดอาการตามัว การมองเห็นเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นท่านจะเริ่มเห็นภาพสีเพี้ยนมองไม่ชัด และตาของท่านเริ่มที่ไม่สู้แสง และท่านจะเริ่มเห็นจุดดำตรงกลางภาพ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด ถือว่าเป็นเคสรุนแรงมาก
อาการตาล้า ตาแห้ง ที่มาจาก แสงสีฟ้าจากคอม สำหรับอาการตาล้า หรือ Asthenopia และตาแห้ง (Dry Eyes) รออาการนี้ได้เกิดขึ้นจากการจดจ้องคอมพิวเตอร์ที่มีรังสี UV คลื่นแสงสีฟ้าที่มีความเข้มข้นสูง สร้างผลข้างเคียงให้เกิดการคันตาและตาแดงร่วมด้วย และหากปล่อยทิ้งอาการดังกล่าวก็อาจจะนำไปสู่ภาวะผิวกระจกตาอักเสบพร้อมกับรอยแผลบนกระจกตาได้เหมือนพัน และอีกทั้งพื้นผิวกระจกตามีความขรุขระส่งผลให้เกิดความระคายเคืองแก่ดวงตา พร้อมสร้างความรำคาญแก่ผู้ป่วยในขณะใช้สายตาในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ผลกระทบต่อการนอนหลับ ที่มาจาก แสงสีฟ้า จากโทรศัพท์ สำหรับอาการนี้ก็ได้รับผลกระทบต่อการนอนหลับ Insomniaการได้รับคลื่นพลังงานแสงสีฟ้ามากเกินไป มีผลต่อ นาฬิกาชีวิตของระบบทำงานภายในร่างกายแต่ละบุคคลเปลี่ยนไป แสงสีฟ้าจากหน้าจอทำให้ต่อมไพเนียลที่จะคอยสร้างฮอรโมนเมลาโทนินจากสมองน้อยลง ซึ่งก็ได้สร้างผลกระทบให้ผู้ป่วยนอนไม่หลับและหลับไม่สนิท ทำให้นอนไม่เต็มอิ่ม เริ่มที่จะเฉี่อยชาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
แสงสีฟ้า แท้จริงแล้วมาจากไหน
สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแสงสีฟ้า แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดจากอะไร และใครเป็นคนสร้างขึ้น เราจะมาไขความสงสัย และถ้าหากว่าแสงสีฟ้าเป็นแสงที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ทำไมถึงเป็นผลเสียต่อสายตาคนเรา
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ความจริงแล้วนั้นแสงสีฟ้ามีอยู่ทุกที่ ซึ่งเจ้าแสงสีฟ้านั้นได้มีต้นกำเนิดมาจากแสงแดดและเมื่อเรานั้นได้อยู่กลางแจ้งในช่วงกลางวันเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ได้รับแสงมากที่สุด แต่ยังมีแหล่งกำเนิดแสงสีฟ้าในร่มที่มนุษย์สร้างขึ้นมากมาย รวมถึงหลอดฟลูออเรสเซนต์ และไฟ LED และโทรทัศน์จอแบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าจอแสดงผลของคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กอิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ดิจิทัลอื่น ๆ จะปล่อยแสงสีฟ้าจำนวนมาก ปริมาณแสง HEV ที่อุปกรณ์เหล่านี้ปล่อยออกมาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของแสงที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมา แต่ระยะเวลาที่ผู้คนใช้อุปกรณ์เหล่านี้และความใกล้ชิดของหน้าจอเหล่านี้กับใบหน้าของผู้ใช้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพตาและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ จำนวนมากที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวที่เป็นไปได้ของแสงสีฟ้าที่มีต่อสุขภาพดวงตา ฉะนั้นแล้วต่อให้ท่านอยู่บ้าน หรือว่าออกไปสู่ที่แจ้งก็ควรพกแว่นกันแดดติดตัวออกไปด้วย อย่างน้อยๆ ตัวช่วยเหล่านี้ก็จะทำให้ท่านถนอมสายตาได้ในระดับหนึ่ง
หากว่าเรานั้นได้รับแสงสีฟ้าอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม
ความจริงที่ว่าแสงสีฟ้าซึ่งที่ส่องตรงเข้าไปในจอตาทำให้เยื่อบุด้านในของด้านหลังของดวงตา และต้องบอกเลยว่า เยื่อบุด้านในของด้านหลังของดวงตาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าการที่ดวงตาได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไปก็สามารถทำลายเซลล์ที่ไวต่อแสงในจอตาได้ สิ่งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกับจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
เกิดอาการหน้าเหนื่อยล้าจากการจ้องคอม ผิวโทรมกู้ด้วย aox ferulic
หากว่าคุณนั้นกำลังเผชิญอยู่กับสภาพผิวที่โทรม และเหนื่อยล้าจากการนั่งจ้องหน้าคอมนาน ๆ WFH เป็นเหตุให้นอนดึกร่างกายได้พักผ่อนน้อย ผิวหน้าเริ่มมีสิว และริ้วรอย หากท่านกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ในการดูและฟื้นฟูผิว ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก aox ferulic เซรั่มสูตรเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นบํารุงผิวสําหรับผู้ที่มีปัญหารอยฝ้า กระ จุดด่างดํา หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอที่มีสาเหตุจากแสงแดด และแสงสีฟ้าจากหน้าจอและมลภาวะจากภายนอกที่ทำลายผิว สำหรับผลิตภัณฑ์ aox ferulic อย่าง melan tran3x concentrate เป็นเซรั่มที่จะเข้ามาช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส รอยฝ้า กระจุดด่างดําต่าง ๆ แลดูจางลงอย่างได้ผลผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับการรองจาก
องค์กรอาหารและยา รับรองคุณภาพและสารสกัดที่เป็นส่วนผสมว่าสามารถใช้งานได้และไม่มีต้องห้ามในผลิตภัณฑ์ melan tran3x concentrate โดยส่วนผสมหลักของเซรั่มก็จะประกอบไปด้วย
- Tranexamic acid: ช่วยลบเลือนรอยฝ้า กระ จุดด่างดําและช่วยปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใส
- Enzymacid Complex: กลุ่มสารผลัดเซลล์ ช่วยส่งเสริมการทํางานร่วมกันในการผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ เพื่อ เผยผิวใหม่ ช่วยให้ผิว แลดูกระจ่างใส สีผิวแลดูสม่ำเสมอ
- Tyr Control Complex: ช่วยลบเลือนรอยฝ้า กระ จุดด่างดํา และช่วยป้องกันการเกิดซํ้าของปัญหาดังกล่าว
- Niacinamide: วิตามินบี3 ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส ลบเลือน รอยฝ้า กระ จุดด่างดําต่าง ๆ บนผิวหน้า ให้แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
และเมื่อทุกท่านได้รู้พิษสง ภัยร้ายของการใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือการใช้มือถือที่เราไม่อาจเลี่ยงได้ฉะนั้นการที่เราจะหาวิธีป้องกันสุขภาพของดวงตาของเราให้มีอายุยืนนาน ไม่เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร การที่เราจะตัดแว่นกรองแสงสีฟ้าสำหรับไว้ใช้งานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์และระหว่างเล่นมือถือ อย่างน้อยๆ เราก็ได้ดูแลสายตาของเราให้ได้อยู่กับเราไปนานๆ โดยที่เรานั้นไม่ต้องตกอยู่ในความกังวลว่าสายของเรานั้นจะเสียงต่อภาวะตาบอดหรือไม่