Health
เคลียร์ทุกข้อสงสัย รูขุมขนกว้าง สาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีทำให้รูขุมขนเล็กลง
ต.ค.
อีกหนึ่งปัญหาหนักอกหนักใจของคนส่วนใหญ่ก็คือ ปัญหารูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน ที่นอกจากจะต้องเผชิญปัญหารูขุมขนแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบตามมาด้วย
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงอาการที่ปรากฏบนผิวหนัง ไม่ได้ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่ก็อาจสร้างความวิตกกังวลและส่งผลถึงความมั่นใจแก่ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหานี้ได้ หลายคนจึงได้พยายามหาวิธีรักษาและจัดการกับรูขุมขนกว้าง
หน้าที่ของรูขุมขน
ถึงแม้ว่าจะทำให้บางคนเกิดปัญหา แต่เจ้ารูขุมขนก็มีข้อดีเหมือนกันนะ
- รูขุมขนมีหน้าที่ระบายความร้อนของร่างกาย การดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือทำงานกลางแจ้ง เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็จะระบายความร้อนออกมาทางเหงื่อ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลง
- รูขุมขนช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น โดยการผลิตน้ำมันที่มีหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหนัง แต่หากผลิตมากเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างตามมา
- รูขุมขนแสดงความรู้สึกต่างๆ เช่น ความกลัว ตกใจ หนาว จะทำให้กลัามเนื้อเล็กๆบริเวณรูขุมขนทำงาน จนเกิดอาการขนลุก
รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร
การติดเชื้อและการอุดตันของรูขุมขน จะกระตุ้นทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง เพราะมีกระบวนการอักเสบของเนื้อเยื่อที่คล้ายกับการเกิดสิว ทำให้เกิดร่องรอยแผลเป็นบริเวณผิวหนัง หรืออาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เชื้อชาติ เพราะมีการวิจัยพบว่า หญิงชาวบราซิลจะมีลักษณะรูขุมขนที่กว้างกว่าผู้หญิงชาวจีน
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาผิวต่างๆก็จะตามมา รวมถึงปัญหาเรื่องรูขุมขนด้วย ความชราของผิวจะเพิ่มขึ้นตามอายุ จากรูขุมขนที่เคยกระชับก็จะขยายใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา
- ฮอร์โมน ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลกันโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น รูขุมขนจึงทำงานหนักเพื่อที่จะต้องระบายน้ำมันส่วนเกินออกไป ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่า แอนโดรเจน จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน แต่ฮอร์โมนตัวนี้ก็พบได้ในผู้หญิงเช่นกัน เพียงแต่ผู้ชายจะมีมากกว่า
- สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่สกปรกก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างได้ โดยสิ่งสกปรกจะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น หรือหากอยู่ในที่ที่มีแสงแดด ผิวที่สัมผัสกับแสงแดดมากเกินไปจนทำให้ผิวแห้งเสีย เป็นเหตุให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้ สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิต เช่น ความเครียดสะสม การพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหานี้ได้
- พันธุกรรม เป็นการส่งต่อพันธุกรรมของสภาพผิว เมื่อคนในครอบครัวมีสภาพผิวรูขุมขนที่กว้าง ก็มีโอกาสที่ผิวหน้าของเราจะเป็นแบบนี้ได้
- ปัญหาสิว สิวถือว่าเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เกิดรูขุมขนกว้างเลยก็ว่าได้ ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตันที่เกิดจากสภาพผิวมัน จะมีรูขุมขนที่กว้างกว่าปกติ เมื่อสิวขึ้นแล้วเราบีบสิวก็จะทำให้เกิดรอยแผล และปัญหารูขุมขนตามมา ถึงแม้ว่าสิวจะหายเองตามธรรมชาติก็จะต้องทิ้งร่องรอยที่ทำให้รูขุมขนบนใบหน้ากว้างขึ้นได้
- การสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ เพราะคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของผิวเลยก็ว่าได้ หากสูญเสียคอลลาเจนไปผิวก็จะหย่อนคล้อย ไม่กระชับ จนทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น
บริเวณที่มักจะพบรูขุมขนกว้าง
บริเวณที่มักจะพบปัญหารูขุมขนกว้างก็คือบริเวณแก้ม จมูก บางคนเกิดที่บริเวณหน้าผาก เหนือปากและตามลำตัวด้วย ปัญหานี้สามารถแก้ได้หลายวิธี ทั้งจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการใช้ตัวช่วยอย่างครีมบำรุงหรือปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ปัญหารูขุมขนกว้างรักษาอย่างไรได้บ้าง
บางคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้กันเท่าไหร่ โดยเฉพาะหนุ่มๆ แต่สำหรับสาวๆถือเป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะจะทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวอุดตัน การที่มีรูขุมขนที่กว้างจะทำให้ผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมากจนหน้าเยิ้ม แต่งหน้าไม่สวย สาวๆอาจจะต้องใช้รองพื้นหนาๆเพื่อปกปิดรูขุมขนให้เรียบเนียน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากทำบ่อยๆก็จะเกิดปัญหาสิวอุดตันนั่นเอง จนดูเหมือนเป็นปัญหาที่แก้ไม่จบสิ้น เพราะฉะนั้นเรามาแก้ที่ต้นเหตุกันดีกว่าค่ะ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- การทำความสะอาดผิวหน้า
สำหรับการล้างหน้าที่เหมาะสมนั้นควรล้างแค่วันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าหลังจากตื่นนอน เพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนทาครีมบำรุง และตอนกลางคืนช่วงที่กลับมาจากทำงาน ปาร์ตี้ หรือกิจกรรมที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าจะต้องล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอนทุกครั้ง
วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆที่จะช่วยล้างคราบสกปรกต่างๆที่อุดตันรูขุมขนออกไป โดยน้ำที่ใช้แนะนำให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้อง หรือค่อนไปทางน้ำเย็น เพื่อเป็นการกระชับรูขุมขนให้เล็กลง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ถนอมผิว และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งเสียได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยมีอากาศร้อนค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าแสงแดดจะมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์วิตามินดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การที่สัมผัสแสงแดดมากเกินไปก็จะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง จนกลายเป็นผิวแห้งเสีย แสงแดดมีรังสี UVA ที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้ หากเราสูญเสียคอลลาเจนเป็นจำนวนมากผิวจะหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หน้าไม่เรียบเนียน
การหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด หรือสวมหมวกปีกกว้างช่วยอีกแรงหนึ่ง และหลีกเลี่ยงการตากแดดในช่วงเวลาที่แดดจ้า 11 โมงเช้าเป็นต้นไปจนถึง 4 โมงเย็น
- กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดไขมันสะสมจนผิวอุดตันหรืออักเสบ งดอาหารที่มีไขมันสูง ขนมขบเคี้ยว อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือของทอดต่างๆ ควรกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ผัก ผลไม้ อาหารที่มีไขมันต่ำ เนื้อปลา ขนมที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งสิ่งเจือปน การกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง มะละกอ ส้ม ก็จะช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้างได้อีกด้วย
- หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางประเภท BB รองพื้น
สาวๆคงหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าไม่ได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งกิจวัตรประจำวันของเราเลย ซึ่งบางครั้งเครื่องสำอางพวกนี้ก็เข้าไปอุดตันรูขุมขนของเราได้เหมือนกัน เครื่องสำอางบางประเภทโดยเฉพาะรองพื้นหรือ BB cream อาจเป็นต้นเหตุทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น หากสาวๆอยากฟื้นฟูรูขุมขน ให้หันมาใช้แป้งที่ผสมรองพื้นแทน หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม และเครื่องสำอางประเภทออยล์เบส เพราะนอกจากจะทำให้รูขุมขนดูกว้างแล้ว ยังทำให้หน้ามัน เสี่ยงต่อการเกิดสิวได้อีกด้วย
การใช้ตัวช่วยรักษารูขุมขนกว้าง
- การบำรุงผิวและการแต่งหน้า
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เพื่อป้องกันปัญหาผิวแห้ง โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม moisturizer แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน เพราะจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไขมันจะได้ไม่อุดตันรูขุมขนเพิ่ม
สำหรับการแต่งหน้า บางคนเมื่อมีปัญหารูขุมขนกว้าง ก็จะใช้เครื่องสำอางปกปิดรูขุมขนและร่องรอยต่างๆบนใบหน้า ซึ่งการเลือกใช้เครื่องสำอางก็มีผลต่อผิวหน้าเช่นกัน ควรเลือกใช้ครีมบำรุง รองพื้นและเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ในฉลากควรระบุว่า non-comedogenic ซึ่งหมายถึงจะไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันนั่นเอง
– ตัวอย่างการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoids) เป็นสารอนุพันธ์ของวิตามินเอ มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนเล็กลง และยังช่วยรักษาสิวด้วย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่รังสีและแมกนีเซียม ช่วยรักษาสมดุลและความมันของผิว ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น อโรเวล่า โรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ ช่วยลดการระคายเคืองของผิว ป้องกันไม่ให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น
- ปกป้องผิวและรักษาสิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมัน และกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
- การรักษาเฉพาะจุด
คนที่มีผิวมันจะมีแนวโน้มที่รูขุมขนจะกว้างกว่า และสังเกตได้ชัดเจนกว่า ซึ่งผิวหน้าในแต่ละจุดของเราจะมีความมันไม่เท่ากัน บางคนผิวมันเฉพาะบริเวณจมูก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเห็นชัดกว่าจุดอื่นๆ อาจใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมมาร์คหน้าเฉพาะจุด เมื่อคืนความเรียบเนียนให้กับผิวหน้า
- การกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์
โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้ โดยหลังจากล้างหน้าให้ใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อลดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างจนทำให้รูขุมขนอุดตันและขยายตัวกว้างขึ้น
โดยหลังจากล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าแล้ว ให้ใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดก่อนที่จะบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป โดยวิธีการเช็คก็จะต้องเช็คอย่างเบามือ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้ คนที่เป็นสิวก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังว่าควรใช้โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยกระชับรูขุมขนโดยไม่ไปรบกวนกับสิวอุดตันบนใบหน้า
- ใช้ครีมจากกรดผลไม้อ่อนๆ
หากอยากกระชับรูขุมขนให้ลองใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ PHA เป็นประจำ เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้รูขุมขนอุดตันน้อยลง ความมันบนใบหน้าลดลง และยังช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วย
- สครับผิวหน้า
การผลัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าอักเสบได้ ควรทำแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่สำหรับคนที่มีสิวอักเสบอยู่ก็ไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะเป็นการไปรบกวนผิว
วิธีสครับผิวหน้าง่ายๆโดยนำเกลือทะเลมาผสมกับโยเกิร์ต จะต้องใช้เกลือที่มีขนาดเล็กมากๆ เพราะจะได้ไม่บาดผิว จากนั้นนำมาทาให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ปลายนิ้วนวดเป็นวงกลมเบาๆประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้จะช่วยกระชับรูขุมขนได้เร็วขึ้น และขจัดสิ่งสกปรกออกไปจากบนใบหน้า
- พอกหน้าด้วยมะนาวและดินสอพอง
วิธีบำรุงผิวจากธรรมชาติ โดยการนำมะนาวและดินสอพองอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำผึ้งให้พอมีความข้นขึ้นเล็กน้อย นำส่วนผสมที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น สามารถทำหลังจากสครับหน้าได้เลย จะเห็นว่ารูขุมขนที่เคยกว้างก็จะค่อยๆเล็กลง
- ใช้ยาจากแพทย์ผิวหนัง
ยาทาผิวหน้าในกลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการทำงานของต่อมไขมัน จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยต่างๆจางลง และช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอในการรักษา
ยาในกลุ่มวิตามินเออาจจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ซึ่งอาจเกิดปัญหาฝ้า กระ ตามมาได้ จึงต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ผิวหนัง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- เลเซอร์กระชับรูขุมขน
การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน พลังของเลเซอร์จะสามารถช่วยกระตุ้นผิวให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวดูกระชับขึ้น แถมยังช่วยลดจุดด่างดำ เม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ผิวเนียนละเอียด ขาวใสขึ้นด้วย
– เลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาปัญหารูขุมขนกว้างแบ่งเป็น 2 ประเภท
- Non-Ablative Laser เป็นเลเซอร์ชนิดที่ไม่ทำให้ผิวชั้นบนเกิดความเสียหาย โดยจะกำหนดเป้าหมายเนื้อเยื่อชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการสร้างตัวของคอลลาเจน เพื่อให้รูขุมขนกระชับขึ้น และยังช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้หน้าดูขาวใส ผิวเนียนละเอียดขึ้น
- Ablative Laser เลเซอร์พลังงานความร้อน จะทำหน้าที่ซ่อมแซมผิวหนังจุดเล็กๆ ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ไปจนถึงหนังแท้ หลังจากทำเลเซอร์ประมาณ 3-4 วัน จะเกิดการสร้างตัวของคอลลาเจน ทำให้ลดปัญหารูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง
- ทรีทเม้นท์กระชับรูขุมขน
การทำทรีทเม้นท์เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน กำจัดสิ่งสกปรก กระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เผยผิวให้ดูสุขภาพดี สดใส และดูกระจ่างใสขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้างได้อีกด้วย หลังจากทำทรีทเม้นท์แล้วจะรู้สึกสบายและสดชื่น เหมือนเป็นการปลอบประโลมผิวหน้า
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีไหนที่ใช้รักษารูขุมขนกว้าง เพราะไม่สามารถกำจัดให้หายขาดได้ แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือการทำให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลง เพราะรูขุมขนก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา การดูแลตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็มีส่วนช่วยให้ผิวหน้าของเราดูดีขึ้นได้ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการอุดตันบนใบหน้า อันก่อให้เกิดสิวอักเสบ แผลติดเชื้อ เพื่อไม่ให้เป็นการไปรบกวนรูขุมขนนั่นเอง หากใครที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนที่จะเลือกทำการรักษา เพราะหากรักษาผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้
