ฝ้าระบุชนิดไม่ได้คืออะไร รักษาผิวหน้าอย่างไรให้ใสไกลฝ้า

ฝ้าปัญหาผิวที่สร้างความกลัดกลุ้มใจให้ใครหลาย ๆ คน ทำให้ขาดความมั่นใจในการเผยผิวหน้า เนื่องจากผิวหน้าไม่เรียบเรียบสม่ำเสมอ อีกทั้งยังปัญหาฝ้าเป็นปัญหาผิวที่ค่อนข้างรักษายากต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร ยิ่งเป็นฝ้าสะสมที่ไม่สามารถระบุชนิดได้ด้วยแล้วอาจต้องใช้หลากหลายวิธีและระยะเวลาในการรักษามากกว่าปกติ ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า “ฝ้าระบุชนิดไม่ได้” คืออะไร รักษาให้หายได้อย่างไร และเราสามารถดูแลผิวหน้าให้ห่างใสไกลฝ้าได้อย่างไร ลองตามาหาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้

ฝ้าคืออะไร และมีกี่ชนิด

ฝ้า (Melasma) คือบริเวณที่ผิวหนังเกิดความผิดปกติจากการที่เซลล์ผิวหนังผลิตเม็ดสีผิวเมลานินมากขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ๆ มีลักษณะเป็นจุดปื้นสีนำตาลอ่อนไปถึงเข้ม บางรายอาจมีสีเทาหรือสีม่วงในบริเวณที่เกิดความผิวปกติ โดยทั่วไปการเกิดฝ้าสามารถเกิดในทั้งเพศชายและเพศหญิงโดยเฉพาะช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี อย่างไรก็ตามคนที่อายุน้อยกว่าช่วงวัยดังกล่าวก็สามารถเกิดฝ้าได้เช่นกัน ลักษณะการเกิดฝ้าหลัก ๆ มี 5 ชนิดแบ่งได้ ดังนี้

1. ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma) เกิดบริเวณชั้นหนังกำพร้า มีขอบเขตชัด สีเข้ม
2. ฝ้าลึก (Dermal Melasma) เกิดบริเวณชั้นหนังแท้ จะไม่มีขอบเขตชัดเท่าฝ้าตื้น
3. ฝ้าผสม (Mixed Melasma) เป็นฝ้าที่ผสมกันทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึกในบริเวณเดียวกัน
4. ฝ้าเลือด (Telangiectatic Melasma) เป็นฝ้าที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบริเวณใบหน้า จึงมีลักษณะเป็นปื้นแดง
5. ฝ้าระบุชนิดไม่ได้ (Indeterminate Melasma) ฝ้าที่ไม่สามารถระบุชนิดได้ เพราะเกิดฝ้าสะสมหลายชนิดรวมกัน

บริเวณการเกิดฝ้าที่พบบ่อย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าฝ้าเกิดจากความผิดปกติจากการสร้างและการทำงานของเม็ดสีเมลานินในชั้นเซลล์ผิวหนัง โดยปกติในชั้นผิวหนังของเราจะมีเซลล์เม็ดสีผิว (Melanocytes) ผลิตเม็ดสีเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ชั้นผิวหนังแต่เมื่อเกิดความผิดปกติจึงทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดฝ้าขึ้นซึ่งจะมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม และเกิดได้หลายลักษณะตามแต่ละชนิดและประเภทของฝ้า โดยทั่วไปบริเวณที่มักพบการเกิดฝ้าบ่อยจะอยู่บริเวณใบหน้า เช่น โหนกแก้ม แก้ม หน้าผาก คาง คิ้ว เป็นต้น

ฝ้าระบุชนิดไม่ได้คืออะไร

ฝ้าระบุชนิดไม่ได้ (Indeterminate Melasma) เป็นฝ้าที่มักเกิดขึ้นใช้กลุ่มที่มีลักษณะผิวสีเข้ม ผิวคล้ำ อาทิ กลุ่มคนผิวสีและชาวแอฟริกา ฝ้าระบุชนิดไม่ได้เป็นฝ้าที่ไม่สามารถบอกได้ว่าบุคคลนั้นเป็นฝ้าชนิดใดเนื่องด้วยสีผิวที่เข้มและลักษณะของฝ้าที่เกิดขึ้นโดดยทั่วไปมีลักษณะตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้มเช่นเดียวกันทำให้สีผิวและฝ้ามีความกลมกลืนกันจึงระบุชนิดของฝ้าที่เกิดขึ้นได้ยาก อาจเป็นฝ้าชนิดใดชนิดหนึ่งเช่น ฝ้าลึก ฝ้าตื้น ฝ้าเลือด หรือฝ้าผสม ดังนั้นฝ้าชนิดนี้จึงมักพบได้บ่อยในคนผิวสีและระบุชนิดของการเกิดฝ้าได้ยากจึงเรียกฝ้าชนิดนี้ว่าฝ้าระบุชนิดไม่ได้

ทั้งนี้ก็เป็นเพราะในการวินิจฉัยฝ้านั้นจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษของแพทย์ที่มีชื่อว่า Wood’s lamp ส่องตรวจแยกประเภทของฝ้า โดยดูจากรอยโรคบนชั้นผิวถ้าเกิดที่ชั้นนอกหรือหนังกำพร้าจะเป็นฝ้าตื้น ถ้าเกิดลึกในชั้นหนังแท้จะเป็นฝ้าลึก ถ้าพบทั้งสองบริเวณจะวินิจฉัยว่าเป็นฝ้าผสม และหากพบความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยร่วมด้วยจะกลายเป็นฝ้าเลือด แต่ถ้าฝ้าทับทมกันประกอบกับสีผิวเข้มแสงจะไม่สามารถส่องจำแนกแยกแยะประเภทของฝ้าออกมาได้ จึงจัดว่าฝ้ากลุ่มนี้เป็นฝ้าที่ระบุชนิดไม่ได้

สาเหตุการเกิดฝ้าระบุชนิดไม่ได้

ฝ้าระบุชนิดไม่ได้เป็นฝ้าที่ไม่สามารถยืนยันลักษณะได้ว่าเป็นฝ้าชนิดใดเพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ามักเกิดในประชากรที่มีผิวเข้ม การเกิดฝ้าชิดนี้จึงมีความกลมกลืนไปกับสีผิว อย่างไรก็ตามการเกิดฝ้าระบุชนิดไม่ได้มีสาเหตุการเกิดเช่นเดียวกับฝ้าชนิดอื่น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าได้แก่

  • แสงแดด เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญทำลายชั้นเซลล์ผิวทั้ง UVA UVB ที่อยู่ในแสงแดดนอกจากทำลายผิวหนังลึกจนถึงชั้นผิวหนังแท้แล้ว แสงแดดยังกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังทำงานผิดปกติจนก่อให้เกิดฝ้าได้
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอันตราย เช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควินโนน ปรอท ฯลฯ สารเหล่านี้เมื่อใช้เป็นเวลานานมักมีการสะสมในชั้นผิวหนังและก่อให้เกิดรอยฝ้าขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มักมีสารเหล่าเจือปนได้แก่ผลิตภัณฑ์เร่งผิวขาวต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด
  • ความไม่สมดุลองฮอร์โมน มักเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยเช่นในภาวะตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน การใช้ยาบางชนิด รวมถึงโรคบางอย่างเช่นโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ มักทำให้การรักษาสมดุลออร์โมนในร่างกายเกิดความผิดปกติ
  • พันธุกรรม มีรายงานการศึกษาพบว่า 50% ของครอบครัวที่มีการเกิดฝ้ามักส่งต่อทางพันธุกรรมได้
  • อายุ ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นความเสี่ยงที่จะเกิดฝ้าก็มากขึ้นตาม โดยมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 30-40 ปี และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเพศหญิงและชาย

วิธีรักษาฝ้าระบุชนิดไม่ได้

การรักษาฝ้าระบุชนิดอาจมีความยากและซับซ้อนมากกว่าฝ้าชนิดอื่นเนื่องจากลักษณะเบื้อง้นองการเกิดฝ้าระบุชนิดไม่ได้ค่อนข้างยืนยันได้ยากว่าเป็นฝ้าชนิดใด การรักษาอาจต้องเข้ารับคำปรึกษาของแพทย์ผิวหนังโดยตรงเพื่อวินิจว่าเป็นฝ้าชนิดใด เพื่อหาวิธีในการรักษาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย อย่างไรก็ตามการรักษาฝ้าทั่วไปสามารถรักษาตามแนวทางต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นในการรักษาปัญหาฝ้าคือการใช้เลเซอร์รักษาอย่างตรงจุด เช่น Q-Switched Lase, Picosecond Laser เป็นต้น
  • การใช้ยาทาในการรักษา การใช้ยารักษาฝ้าเพื่อความปลอดภัยอาจต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการใช้ โดยทั่วไปการใช้ยาทาในการรักษาไม่สามารถทำให้ฝ้าหายได้ 100% แต่อาจช่วยลดเลือนให้จางลงได้ประมาณ 70%
  • การลอกฝ้าด้วยสารเคมี เป็นวิธีเสริมในการรักษาโดยการใช้สารเคมีความเข้มข้นต่ำบางชนิดเช่น alpha hydroxyl acids (AHA) หรือ trichloracetic acid 30-50% เพื่อทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดเกิดการหลุดลอกและทำให้บริเวณที่เกิดฝ้าหลุดลอกออกไป อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูและจากแพทย์และควรทำต่อเนื่อง

ดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ใสไกลฝ้า

การดูแลป้องกันผิหน้าจากปัญหาฝ้าอาจต้องแก้ไขที่สาเหตุที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดฝ่า เพราะการเกิดฝ้าสามารถเกิดได้หลายปัจจัยทั้งปัจจัยภายอกและภายใน แต่เราสามารถป้องกันหรือลดอัตราการเกิดฝ้าได้โดย

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด เมื่อต้องออกแดดเป็นเวลานานควรมีอุปกรณ์ในการป้องกันแสงแดดเช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แว่นกันแดด หมวก รวมถึงครีมกันแดด เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่สารอันตราย เช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควินโนน สารปรอท ตะกั่ว เป็นต้น เนื่องจากสารเหล่านี้จะสะสมและกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
  • เลี่ยงการใช้ยาหรือฮอร์โมนโดยไม่จำเป็น เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน เป็นฮอร์ที่ในเพศหญิงและเพศชายและยังพบว่าฮอร์โมนชนิดนี้สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ด้วย ดังนั้นหากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมนชิดนี้ ซึ่งอาจอยู่ในยาคุมกำเนิด
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวควรคำนึงถึงความปลอดภัย ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบได้ ปราศจากสารอันตราย เราสามรถป้องกันการเกิดฝ้าได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังอาทิครีมกันแดด

ทริคในการเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้า

นอกจากประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาการเกิดฝ้าแล้ว ทริคในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัย เพราะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เร่งผิวขาวจำนวนมากวางขายแม้ช่วงแรกจะสามารถทำให้ผิวขาวได้จริงแต่หากใช้เป็นวลานานหรือหยุดใช้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหน้ามากกว่าเดิม ดังนั้นการเลือกผลิภัณฑ์ป้องกันฝ้าอาจพิจารณาเบื้องต้นได้ดังนี้

  • เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง เนื่องจากค่า SPF เป็นค่าที่บ่งอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดด ยิ่งค่า SPF มากแสดงว่าประสิทธิภาพในการปกป้องมากขึ้น
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสาระสำคัญในการลดเลือนฝ้า จุดด่างดำ การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาฝ้าควรดูว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีส่วนประกอบที่สามารถลดการเกิดฝ้าได้หรือไม่เช่น กรดโคจิก (Kojic Acid) กรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Retinoic Acid) กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) เป็นต้น
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารอันตราย สารบางชนิดในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักมีสารอันตรายที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งหนึ่งในวิธีการรักษาฝ้าคือการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้หลุด กระตุ้นให้ฝ้าค่อย ๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

บอกลาฝ้าด้วยนวัตกรรมจาก Mesoestetic

นวัตกรรมสกินแคร์รักษาฝ้าฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง กู้หน้าโทรม ๆ ที่มีฝ้าหนาสะสมระบุชนิดไม่ได้ให้ค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้น ผลิตภัณฑ์ตัวแรกก็คือ Cosmelan 2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันและรักษาฝ้าเนื่องจาก มีส่วนผสมของ Kojic Acid ที่ส่วนช่วยลดเลือนฝ้า จุดด่างดำ รอยดำต่าง ๆ และปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส นอกจากนั้นยังมี Titanium Dioxide ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Ascorbic Acid และ Phytic Acid ซึ่งเป็นสารสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำให้ดูจางลง

นอกจากนั้นแล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันฝ้าที่มาในเซ็ตเดียวกันอย่าง Mesoprotech melan 130 pigment control ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยค่า SPF 50 อีกทั้งยังมี mesoprotech complex ที่ส่วนช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระในรังสีอินฟราเรดและแสงสีฟ้าที่มากระทบผิว

ฝ้าระบุชนิดไม่ได้เป็นฝ้าที่เรียกได้ว่ามีความซับซ้อนการรักษาเนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝ้าชนิดใดบ้าง ฝ้าชนิดนี้มักพบได้ในคนทั่วไปที่มีสีผิวเข้ม และแม้มีวิธีการรักษาที่ตรงจุดแต่ก็อาจใช้ระยะเวลาในการรักษา ดังนั้นการรักษาฝ้าที่ดีที่สุดคือการป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุแห่งปัจจัยใดที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า เริ่มจากการบำรุงผิวให้แข็งแรงด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพอย่างนวัตกรรมจาก Mesoestetic ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดที่มีคุณภาพ และงดจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน เท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรงห่างไกลจากปัญหาฝ้าได้แล้ว

ใส่ความเห็น