“เซรั่มไฮยา” ตอบโจทย์ในการดูแลผิวอย่างล้ำลึก เพื่อผิวดูอ่อนกว่าวัย ชุ่มชื่น อิ่มฟู และสุขภาพดี โดยเฉพาะในยุคที่สภาพแวดล้อมและความเครียดมีผลกระทบต่อผิวของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ และริ้วรอยก่อนวัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเซรั่มไฮยาได้รับการยอมรับว่าเป็น “ตัวเติมน้ำให้ผิว” ที่ทรงประสิทธิภาพ เราจะไปทำความรู้จักกับเซรั่มนี้กันให้มากขึ้น พร้อมเคล็ดลับการเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เซรั่มไฮยา คืออะไร? มีประโยชน์ในการดูแลผิวอย่างไร?
เซรั่มไฮยา หรือชื่อเต็มคือ เซรั่มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid Serum) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีคุณสมบัติพิเศษในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวมันเอง เซรั่มชนิดนี้ จึงได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม เพราะสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก
ประโยชน์ของเซรั่มไฮยามีอยู่ด้วยกันหลายประการดังต่อไปนี้
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันที
ไฮยาลูโรนิค แอซิดทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กดูดน้ำ ช่วยดึงความชุ่มชื้นจากชั้นผิวและสภาพแวดล้อมเข้าสู่ผิว ปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดี - ช่วยลดเลือนริ้วรอย
ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยดึงดูดและรักษาความชุ่มชื้นของกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี และเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ริ้วรอยตื้น ๆ จะลดเลือนลง ผิวดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น - ปรับสมดุลผิว
เซรั่มไฮยาสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม โดยช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวมัน และเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวแห้ง - ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
การเติมความชุ่มชื้นที่ล้ำลึกให้แก่ผิว จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว ลดโอกาสการระคายเคือง และปัญหาผิวแห้งเสียได้ - ช่วยให้ผิวกระชับ อิ่มฟูและอ่อนกว่าวัย
เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีหน้าที่รักษาความยืดหยุ่น และความกระชับของผิว การใช้เซรั่มไฮยาเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และลดการหย่อนคล้อยของผิวลงอย่างได้ผล - ช่วยลดการระคายเคืองของผิว
พร้อมช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ลดรอยแดง การอักเสบ ทำให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย - ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสกินแคร์อื่น ๆ
การใช้เซรั่มไฮยาก่อนผลิตภัณฑ์บำรุงตัวอื่น ช่วยให้สารบำรุงในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
เซรั่มไฮยา เหมาะกับสภาพผิวแบบใดบ้าง?
เซรั่มไฮยา ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักผิว เพราะนอกจากคุณสมบัติในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สดใส เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ยังมีความอ่อนโยนและใช้ได้กับทุกสภาพผิว
- ผิวแห้งหรือขาดน้ำ
เซรั่มไฮยา ช่วยเติมน้ำให้ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ผิวแห้งกลับมาดูอิ่มฟูและเนียนนุ่ม ลดอาการลอกหรือแห้งแตก ช่วยให้ผิวดูสดใส สุขภาพดี - ผิวมัน
เซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิค แอซิด จะช่วยเติมน้ำให้ผิวอย่างสมดุล โดยไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน นอกจากนั้น ยังช่วยลดการผลิตซีบัมมากเกินไป ที่ทำให้เกิดผิวมัน และนำไปสู่การเกิดสิวได้ - ผิวผสม
เป็นผิวที่แห้งบางจุด แต่มันบางส่วน เซรั่มไฮยาสามารถเติมความชุ่มชื้นเฉพาะจุดได้ ช่วยให้ผิวดูสมดุลทั้งใบหน้า ไม่แห้งลอกหรือมันเยิ้ม - ผิวบอบบางแพ้ง่าย
ไฮยาลูโรนิค แอซิดในเซรั่มไฮยา มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง พร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง - ผิวที่เริ่มมีริ้วรอย ขาดความยืดหยุ่น
เซรั่มไฮยาช่วยเติมเต็มผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยตื้น ให้ดูตึงกระชับขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์ อิ่มฟู และสุขภาพดี
ก่อนใช้เซรั่มไฮยา ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?
การเลือกใช้เซรั่มไฮยาที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐาน จะทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีข้อควรพิจารณา ดังต่อไปนี้
- ความเข้มข้นของกรดไฮยาลูรอนิก
ไม่ได้หมายความว่า เซรั่มไฮยา ที่มีระดับความเข้มข้นของกรดไฮยาลูรอนิกมาก จะทำให้ผิวดีขึ้นกว่าปกติ แต่ควรมีปริมาณความเข้มข้นในระดับที่เหมาะสม ซึ่งความเข้มข้นของกรดไฮยาลูรอนิก ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำจะอยู่ที่ 0.1% – 2% นอกจากนั้น น้ำหนักโมเลกุลของกรดไฮยาลูรอนิกที่ต่างกัน อาจส่งผลต่อผิวต่างกันได้ - ส่วนผสมอื่นๆที่รวมอยู่ในเซรั่ม
เซรั่มไฮยาบางยี่ห้อ อาจมีส่วนผสมของสารอื่น ๆ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน เปปไทด์ หรือสารสกัดจากสมุนไพร เพื่อช่วยเสริมการทำงานของกรดไฮยาลูโรนิก ในการดูแลและแก้ปัญหาผิวตามต้องการ - สูตรของผลิตภัณฑ์
เซรั่มไฮยาที่ดี ควรมีเนื้อบางเบา ที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบหนักหรือเหนียวเหนอะหนะ ให้หลีกเลี่ยงเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารที่อาจเป็นอันตราย เช่น ซัลเฟต พาราเบน หรือน้ำหอมสังเคราะห์ โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย - ราคา
ควรพิจารณาราคาที่สมเหตุสมผล โดยดูจากความเข้มข้น คุณภาพ และปริมาณของผลิตภัณฑ์ร่วมด้วย
ใช้เซรั่มไฮยาอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสูงสุด
เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ควรมีการใช้เซรั่มไฮยาอย่างถูกวิธี ตามลำดับขั้นตอนของการบำรุงผิว ดังนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่เหมาะสมกับสภาพผิว มีคุณสมบัติสามารถล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างได้อย่างหมดจด จากนั้นซับหน้าให้แห้ง เป็นขั้นตอนการเตรียมผิวหน้า เพื่อรับการบำรุงในลำดับต่อไป
- ใช้โทนเนอร์ ช่วยปรับค่า pH ซึ่งเป็นค่าความสมดุลของผิว เสริมให้ผิวหน้าแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- จากนั้นให้หยดเซรั่มไฮยา ลงบนปลายนิ้วหรือฝ่ามือ ใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ให้เซรั่มค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ผิว โดยเริ่มต้นจากกึ่งกลางใบหน้า และนวดวนออกไปด้านนอก เน้นเป็นพิเศษตรงบริเวณที่แห้งกร้าน หรือเป็นริ้วรอยลึก จากนั้น รอสักครู่ให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิว
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ตาม เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- หากใช้เซรั่มไฮยาในเวลากลางวัน ให้ทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเป็นการปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดด ที่อาจทำร้ายผิว
เซรั่มไฮยามีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงมีข้อควรระวังในการใช้เซรั่ม ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิค แอซิด ดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบอาการแพ้ โดยให้ทาเซรั่มไฮยาในปริมาณเล็กน้อยที่ปลายแขนด้านในหรือหลังใบหู แล้วรอ 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจดูว่า มีอาการไม่พึงประสงค์หรือไม่ หากมีอาการแดง คัน หรือระคายเคือง ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์
- สำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย แนะนำให้เลือกเซรั่มไฮยาสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้
- กรณีที่ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันปฎิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นตามมา
- ควรใช้เซรั่มไฮยาร่วมกับครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เพียงพอ ในการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย
เติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกกับเซรั่มไฮยา ha densimatrix ผิวฉ่ำน้ำ อิ่มฟู เต่งตึง สุขภาพดี
ha densimatrix โดย mesoestetic ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิกเข้มข้น ที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่หลากหลาย ผสาน 4 พลังของชนิดเซรั่ม ไม่ว่าจะเป็น Cross linked HA ที่ให้ความชุ่มชื้นทันทีและยาวนาน , mean molecular weight ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นระดับลึก , high molecular weight ช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น และ low molecular weight ช่วยเสริมสร้าง hyaluronic ตามธรรมชาติของผิวส่วนลึกได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี Anti-hyaluronidase complex ที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ hyaluronidase ที่ไปทำลายโมเลกุลของ hyaluronic acid ในผิว โดยมีปัจจัยจากภายนอกและภายใน เป็นตัวกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์
นอกจากนั้น ha densimatrix ยังประกอบไปด้วย Mashmallow root extract (สารสกัดจากต้นมาร์ชแมลโลว์) ที่ช่วยให้กรดไฮยาลูรอนิก คงอยู่ได้นานมากขึ้น รวมถึง Malachite extract สารสกัดจากหินมาลาไคต์ เป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ ที่ช่วยให้คอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ คงอยู่ได้นานขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว กระชับเต่งตึง ดูมีสุขภาพดีมากกว่าที่เคย
เซรั่มไฮยาเป็นไอเท็มสำคัญที่ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นการเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย หรือช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู และอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำ และฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก การเลือกใช้เซรั่มไฮยาคุณภาพดีและใช้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาสดใส เปล่งปลั่ง และสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
Q : ควรใช้เซรั่มไฮยาตอนไหน ?
A : ควรใช้เซรั่มชนิดนี้หลังล้างหน้าและก่อนทาครีมบำรุงตัวอื่น โดยใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Q : เซรั่มไฮยา ช่วยให้ผิวมันดูสมดุลได้อย่างไร ?
A : เซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิค แอซิด ช่วยเติมน้ำให้กับผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวดูสมดุลขึ้น
Q : ใช้เซรั่มไฮยาแล้ว ต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มไหม ?
A : ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามหลัง เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผิวและเสริมประสิทธิภาพของตัวเซรั่ม
Q : เซรั่มไฮยา มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
A : โดยทั่วไปเซรั่มไฮยาไม่มีผลข้างเคียง หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะกับสภาพผิว แต่ถ้ารู้สึกระคายเคือง ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์
Q : ต้องใช้เซรั่มไฮยานานแค่ไหน ถึงจะเห็นผล ?
A : ปกติจะเริ่มเห็นผลในเรื่องความชุ่มชื้นและผิวดูอิ่มฟูภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ระยะยาว เช่น การลดเลือนริ้วรอย อาจใช้เวลา 4-8 สัปดาห์