“ฝ้า” ปัญหาโลกแตกของสาว ๆ จำนวนมาก ยิ่งใครอายุมากขึ้นก็มักมีปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ นำมาซึ่งผลเสียต่อผิวหน้าทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องของปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ยาก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุแท้จริงเหล่านี้ย่อมช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไปจนถึงค้นหาแนวทางอันเหมาะสมเพื่อบรรเทาอาการ หรือหยุดไม่ให้เกิดความอันตรายชนิดลุกลามไปมากกว่าเดิม พร้อมทั้งยังขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่มีส่วนช่วยลดปัญหาฝ้าที่เกิดขึ้นให้จางลงด้วย
เช็กลิสต์ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า
คำว่า “ปัจจัยภายใน” หมายถึง ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากด้านในของร่างกายอันมีสาเหตุมาจากหลายสิ่ง ไม่สามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามทุกคนมีสิทธิ์ลดความเสี่ยงจากสาเหตุเหล่านี้ให้น้อยลงได้ ซึ่งปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า ประกอบด้วย
- พันธุกรรมของร่างกาย
หากอธิบายแบบเข้าใจง่ายคือ บ้านไหนที่มีคนเป็นฝ้าแบบไม่มีสาเหตุอยู่ก่อนแล้ว ลูกหลานก็มีสิทธิ์เกิดฝ้าได้เช่นกัน ซึ่งจากการศึกษาในหลายงานวิจัยก็พบผลลัพธ์ไปในทิศทางใกล้เคียงกันนั่นคือ ฝ้ามีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมจริง และเอื้อให้เด็กที่เกิดใหม่มีโอกาสเป็นได้ไม่แพ้รุ่นพ่อแม่ เฉลี่ยแล้วราว 30-50% เลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นคู่ฝาแฝดโอกาสจะมากกว่าเด็กที่เกิดคนเดียว ปัจจุบันยังไม่สามารถค้นหายีนที่จะช่วยควบคุมในเรื่องนี้ได้
- ฮอร์โมนในร่างกาย
ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้าลำดับต่อมาเป็นเรื่องของฮอร์โมนภายในร่างกาย ซึ่งจากงานวิจัยก็พบอีกเช่นกันว่าฝ้ามีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนไปในทิศทางเดียวกัน ถึงขนาด 90% ของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็นฝ้ามีสาเหตุจากฮอร์โมน โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ช่วงไตรมาส 2 – 3 โอกาสเกิดฝ้าเพราะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงมีความเป็นไปได้สูงมาก ยังไม่นับรวมกับผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ส่งผลให้ฝ้ามีระดับความเข้มข้นสูงขึ้นไปอีกและการรักษายากตามด้วยเช่นกัน
- ความเครียดสะสม
ความเครียดไม่เคยมีสิ่งดี ๆ เลย รวมถึงเรื่องของการเป็นสาเหตุทำให้เกิดฝ้าด้วย เนื่องจากเมื่อคนเราคิดมากจนกลายเป็นอารมณ์เครียด ร่างกายจะสร้างสารอนุมูลอิสระบนผิวหนังขึ้นมาจำนวนมาก บวกกับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ถูกหลั่งออกมาไปกระตุ้นเม็ดสีเมลานินใต้ชั้นผิวหนังให้ผลินออกมาเยอะกว่าปกติ จาก 2 ปัจจัยที่เกิดขึ้นนี้ใครรู้ว่าตนเองเครียดบ่อย เครียดติดต่อกันนาน ๆ จะสังเกตเห็นฝ้าได้ชัดเจนมาก บ้างก็เรียกผิวเครียดจนทำให้เกิดฝ้า
- ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด
การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงโอเมก้า 3 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย บอบบาง มีฝ้า กระ จุดด่างดำ ขึ้นกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกทานอาหารที่มีสารเหล่านี้อยู่ย่อมช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้ รวมถึงพฤติกรรมการทานอาหารรสหวานจัด เผ็ดจัด ก็ยังส่งผลเสียต่อผิวหนังโดยตรง
- นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
ใครเป็นสายนอนน้อยด้วยกิจกรรมแต่ละวันแสนหลากหลาย เช่น ปาร์ตี้กับเพื่อน ติดซีรี่ย์ เล่นเกม ทำงานหนัก ต้องเลี้ยงลูก ฯลฯ เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอย่อมนำมาซึ่งความผิดปกติหลายด้าน ฝ้าเองก็เป็นอีกผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ เพราะเมื่อร่างกายไม่ได้พักอย่างเต็มที่ก็มักสร้างสารอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินถูกผลิตเยอะกว่าปกติ นำมาซึ่งความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และฝ้าบนใบหน้านั่นเอง
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท
ยาบางประเภทเมื่อร่างกายได้รับเข้าไปแล้วก็อาจส่งผลข้างเคียงอันถือเป็นอีกปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า ซึ่งประเภทของยากลุ่มนี้ อาทิ ยากันชัก (Anticonvulsant) ยาแก้อักเสบชนิดไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Hypoglycaemics) ยารักษาอาการทางจิต (Antipsychotics) ยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ยาขับปัสสาวะ (Diuretics Drugs) ยาปฏิชีวนะบางประเภท เรตินอยด์ (Retinoid) เป็นต้น
- อายุ
เมื่อคนราเมีอายุมากขึ้น สภาวะต่าง ๆ ภายในร่างกายย่อมเสื่อมถอยลงตามกาลเวลา ซึ่งรวมถึงผิวพรรณด้วย มีงานวิจัยพบว่าเมื่ออายุมากกว่า 30 ปี โอกาสที่จะพบฝ้าขึ้นตามผิวหน้ามีมากขึ้น ใครที่อายุเกินกว่านี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากสังเกตพบฝ้าตามใบหน้าหรือผิวพรรณส่วนอื่น รวมถึงคนวัยทองนอกจากอารมณ์แปรปรวน ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเกิดฝ้าก็มักเห็นชัดมากทีเดียว
- เชื้อชาติ
ถือเป็นปัจจัยภายที่ไม่สามารถแก้ปัญหาหรือปรับเปลี่ยนใด ๆ ได้เลย ซึ่งจากการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่ผิวของคนเอเชียมักมีโอกาสเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ง่ายกว่ากลุ่มคนเชื้อชาติผิวขาว
รู้วิธีลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า
ทั้ง 8 ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้าถือเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้จริง ๆ อย่างไรก็ตามหากรู้วิธีลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น หรือเกิดน้อยสุดนั่นเท่ากับเป็นวิธีดูแลผิวหน้าที่ได้ผลลัพธ์ดี ช่วยเสริมความมั่นใจของทุกคนให้กลับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งวิธีพื้นฐานไม่ว่าใครก็ทำได้ ประกอบด้วย
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกลุ่มวิตามินจากผัก ผลไม้ ลดการทานเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ที่มีการฉีดสารเร่งโต เพราะโอกาสเกิดผลข้างเคียงทำให้มีฝ้าขึ้นตามใบหน้ามีสูงมาก
- พักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน นอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เพื่อให้เซลล์ภายในร่างกายได้ซ่อมแซมอย่างเต็มศักยภาพ ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ แถมยังตื่นเช้าด้วยความสดใสอีกด้วย
- เมื่อรู้สึกว่าตนเองเครียดเกินเหตุควรผ่อนคลายด้วยการหากิจกรรมที่ชอบทำ อาทิ ท่องเที่ยว ดูซีรี่ย์ นัดพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง เพื่อให้สมองผ่อนคลาย ไม่ต้องย้ำคิดแต่เรื่องเดิม ๆ แถมยังอาจได้ไอเดียใหม่สำหรับใช้แก้ปัญหาเพิ่มเติมอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกที่อาจก่อให้เกิดฝ้าบนใบหน้าได้ เช่น แสงแดด การทานยาเลื่อนประจำเดือน ทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ โดยเฉพาะสูตรที่มีความเข้มข้นในระดับเหมาะสม ทั้ง SPF และ PA ย้ำว่าควรทำทุกวันไม่ว่าจะออกกลางแจ้งหรือไม่ก็ตาม เพราะรังสียูวีไม่ได้มีแค่ในแสงแดดเท่านั้น แต่ยังสามารถพบเจอจากแสงสีฟ้าบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ หลอดไฟ รวมถึงบางวันอาจมีเหตุให้ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบเร่งด่วน การทาครีมกันแดดจนเป็นนิสัยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าได้ดีมาก
- หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานนอกจากการทาครีมกันแดดแล้ว ยังแนะนำให้สวมเสื้อผ้าหรือมีอุปกรณ์ป้องกันผิวแบบมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว หมวก ร่ม เสื้อคลุมพร้อมหมวก เป็นต้น
- หมั่นบำรุงผิวด้วยการใช้ครีม โลชั่น หรือเซรั่มต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวเกิดได้รับสารอาหารเพียงพอ ลดโอกาสเกิดฝ้าจากปัจจัยภายในได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน
แนะนำผลิตภัณฑ์ช่วยลดปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า
แม้ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้าจะเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การหาวิธีลดความเสี่ยงหรือลดโอกาสการเกิดน้อยที่สุดคือสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ การใช้งานผลิตภัณฑ์คุณภาพถือเป็นอีกคำตอบที่น่าสนใจมาก และใครที่ไม่อยากพบเจอกับฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือเริ่มสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบนผิว ลองมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ mesoestetic กันได้เลย
- Degreasing solution
ผลิตภัณฑ์กำจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งสกปรกตกค้างให้ต้องกังวลใจ ผิวสามารถดูดซึมสารอาหารที่ช่วยบำรุงจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากล้างหน้าสะอาด ทำการซับให้แห้ง หยดผลิตภัณฑ์ลงบนสำลีหรือผ้ากอซเช็ดทำความสะอาดจนทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบดวงตา เท่านี้ก็เรียบร้อย
- Cosmelan 1 mask
มาสก์สูตรพิเศษที่จัดเต็มส่วนประกอบสำคัญเอาไว้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Azelaic Acid, Kojic Acid, Phytic Acid, Ascorbic Acid, Arbutin, Retinyl Palmitate Salicylic Acid, Aloe barbadensis Leaf Juice และ B3 ใช้นิ้วมือสะอาดหรือไม้พายตักครีมมาสก์แล้วทาให้ทั่วใบหน้า (ใช้หมดกระปุก) ทิ้งไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง เซลล์ผิวเก่าถูกผลัดออกไป สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ลดเลือนฝ่า กระ จุดด่างดำ ได้ชัดเจนมาก
- Cosmelan 2
หลังจากใช้งาน Cosmelan 1 mask มาสก์หน้า ให้รออีก 2 วัน จากนั้นทาผลิตภัณฑ์ Cosmelan 2 ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญหลากชนิด (แบบเดียวกับ Cosmelan 1 mask) ต่อเนื่องบนใบหน้า ยกเว้นรอบดอวงตา จะช่วยลดปัญหาการเกิดฝ้าซ้ำ และยังบำรุงผิวแบบระยะยาวอีกด้วย
- Melan recovery
บาล์มบำรุงผิวชนิดเข้มข้น เสริมเกราะป้องกันพร้อมฟื้นคืนความแข็งแรงให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ช่วยลดสารอนุมูลอิสระ อัดแน่นด้วยส่วนประกอบสำคัญจากธรรมชาติหลากชนิด เช่น สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง สควาเลน สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ วิตามินบี 3 โอเมก้า 6 และพรีไบโอติก ใช้งานต่อเนื่องร่วมกับ Cosmelan 2 ลดความระคายเคือง การอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นของผิว
- mesoprotech melan 130 pigment control
อีกผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้งานประจำและขาดไม่ได้เด็ดขาดสำหรับการป้องกันปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า เป็นครีมกันแดด SPF 50+ ปกป้องรังสี UVA และ UVB บอกลาความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ เนื้อสีเบจแลดูธรรมชาติ ไม่หลอกตา เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่ายมาก พร้อมรักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่ภายในใต้ชั้นผิว
ทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกเรียกว่า “cosmelan pack” ช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกก็ตาม คำแนะนำเพิ่มเติมคือควรใช้งานต่อเนื่องตามขั้นตอนที่กำหนดไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพื่อผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ ทั้งนี้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีมากขึ้นเมื่อใช้ได้ประมาณ 1 เดือน
แต่สำหรับใครที่ลองใช้ตามคำแนะนำตลอด 6 เดือนแล้ว ผลลัพธ์ยังไม่เป็นตามที่คาดหวัง อย่าพึ่งท้อใจ ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ใช้ชุด cosmelan pack ต่อเนื่องเฉลี่ยให้ทาประมาณ 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ ร่วมกับสินค้ากลุ่มอื่นที่ทางแบรนด์วางขายเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหรือตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เน้นทาตอนกลางคืน
- หากปัญหาฝ้าหมดไปเรียบร้อยแต่ยังเหลือจุดด่างดำแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Ultimate W+ หรือจะเลือกเป็นกลุ่ม melan tran 3x ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
- หากมีปัญหาฝ้าขั้นหนัก ต้องการใช้ cosmelan 2 ต่อเนื่อง เน้นทาเฉพาะช่วงกลางคืนสามารถทำได้ แต่อย่างน้อยหากเคยใช้ไปก่อนหน้านี้ควรพักผิวสัก 1 เดือน เพื่อให้เกิดการเตรียมสภาพอย่างเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า หรือภายนอกใด ๆ ก็ตาม การดูแลตนเองเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด หากคุณใส่ใจกับสุขภาพ ผิวพรรณ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเพิ่มผลกระทบระยะยาวของการเกิดฝ้า ไปจนถึงการบำรุงผิวพรรณด้วยการใช้ครีมกันแดด ครีมบำรุงต่าง ๆ ต่อให้เป็นกรรมพันธุ์ เชื้อชาติ ก็มีโอกาสรักษาพร้อมเผยผลลัพธ์น่าพอใจไม่ยากเลย