วิตามินซี เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำ โดยที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับวิตามินชนิดนี้จากการรับประทาน โดยมากวิตามินซีจะอยู่ในกลุ่มของอาหารประเภทผักและผลไม้ชนิดต่างๆ พบมากในส้ม สับปะรด มะขาม สตอร์เบอร์รี่ ฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ แต่สำหรับคนที่ไม่นิยมการรับประทานผักและผลไม้ จึงอาจจะต้องทานวิตามินเสริม
ประโยชน์ของ วิตามินซี
ในด้านสุขภาพวิตามินซีมีประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เราไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่ายๆ เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ส่วนในด้านของความสวยความงามวิตามินซีก็มีประโยชน์ ช่วยให้สาวๆ สวย สดใสได้เช่นกัน โดยวิตามินซีจะเป็นตัวกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิวพรรณ เสริมสร้างคลอลาเจน และต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าวิตามินซีจะสามารถทำให้ผิวพรรณของเหล่าสาวๆ สวยขึ้น สุขภาพดีดูเรียบเนียน จุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด
วิตามินซี มีดีต่อผิวอย่างไร
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- เป็นตัวสร้างคอลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
- ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน
เราควรทาน วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกาย เสริมสร้างคอลลาเจนให้แข็งแรง และบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวสวย กระจ่างใส ซึ่งปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการนั้น แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเพศและอายุ USA Vitamin C recommendations ได้กำหนดปริมาณที่ควรได้รับ ดังนี้ ผู้ชาย ผู้ใหญ่ 90 มิลลิกรัมต่อวัน, ผู้หญิง ผู้ใหญ่ 75 มิลลิกรัมต่อวัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วไม่ควรทานเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะหากร่างกายได้รับในประมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปวดท้อง ท้องร่วง หรือท้องอืด
รูปแบบของวิตามินซี ที่ทุกท่านเลือกซื้อรับประทานได้
- วิตามินซีแบบอัดเม็ด
วิตามินซีแบบเม็ดจะมีขนาดตั้งแต่ 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ขนาดของวิตามินซีที่นิยมขายกันทั่วไป คือ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม และควรเลือกทานเป็นแบบ Buffered หรือ Sustained Release เพราะตัววิตามินซีจะค่อยๆละลายออกมาอย่างช้าๆ ทำให้สามารถดูดซึมได้นานขึ้น แบบนี้เม็ดยาจะมีขนาดใหญ่ ทำให้กลืนลำบาก
- วิตามินซีแบบเม็ดอม
ปกติจะมีขนาด 25 – 500 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่กลืนยาเม็ดใหญ่ลำบากไม่ชอบกลืนแบบเป็นเม็ด แต่เนื่องจากวิตามินซีเป็นกรด ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ถ้าหากเราอมบ่อยๆ อาจทำให้ฟันกร่อนหรือฟันผุได้
- วิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยว
จะมีขนาดประมาณ 30 มิลลิกรัม ส่วนมากจะทำมาให้เด็กทาน เพราะว่ามีรสหวานเด็กๆทานได้ง่าย แต่หากรับประทานในปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้ฟันผุได้ได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากวิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยวมักจะมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เพื่อให้มีรสหวาน
- วิตามินซีแบบเม็ดฟู่
วิตามินซีแบบเม็ดฟู้ในท้องตลาดจะมีขนาดประมาณ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม ก่อนรับประทานควรนำไปละลายในน้ำจนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดการแน่นท้องไม่สบายตัว แต่วิตามินแบบเม็ดฟู่ จะเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้หรือกลืนได้ลำบาก
- วิตามินซีแบบแคปซูล
มีขนาด 500 มิลลิกรัม จะมีขนาดที่เล็กกว่าวิตามินซีแบบอัดเม็ด และมีให้เลือกทานได้ทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม ซึ่งทั้งสองแบบจะมีขนาดเล็กกลืนง่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาการกลืน
- วิตามินซีรูปแบบสารละลายสำหรับฉีด
วิตามินซีแบบฉีด จะมีขนาด 500 มิลลิกรัม ปริมาตรประมาณ 2 มิลลิลิตร การจะใช้วิตามินซีแบบฉีดควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และควารได้รับการแนะนำจากแพทย์ก่อนว่าเราควรฉีดไหม วิตามินซีแบบฉีดจะออกฤทธิฺค่อนข้างเร็วและร่างกายสามารถนำวิตามินซีไปใช้ได้ทันที ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงในการป้องกันหวัด และช่วงบำรุงซ่อมแซมผิว โดยที่ไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทาน วิตามินซี
วิตามินซีมีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม การดูดซึมของวิตามินซีมีจุดอิ่มตัวและขึ้นอยู่กับปริมาณในการรับประทานเข้าไป หากทานเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมไปใช้เพิ่มได้ จึงควรทานวิตามินซีในปริมาณที่ต่ำกว่า 1 กรัม แต่ทานหลายครั้งจะดูดซึมได้ดีกว่าทานปริมาณมากในครั้งเดียว ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานวิตามินซีครั้งละ 1,000 – 1,500 มิลลิกรัม มีข้อมูลระบุว่า ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้เพียง 50% เป็นต้น
ทานวิตามินซีให้ได้คุณค่าสูงสุด
ทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
- บรรเทาหวัด ทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40
- ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด อีกทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
- เพิ่มประสิทธิภาพวิตามินซี ด้วยการทานร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์
- สัญญาณเมื่อได้รับวิตามินซีเกิน เช่น อาการท้องเสีย เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่ทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก ๆ เช่น 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเป็น เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว
ผลตามร่างกาย เมื่อท่านนั้นขาด วิตามินซี
- อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา อ่อนล้าเหมือนผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก หรือต้องออกแรงยกของหนักทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร
- เลือดออกตามไรฟัน เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการบำรุงผนังหลอดเลือดฝอยให้แข็งแรง การขาดวิตามินจึงทำให้หลอดเลือดเประบางและแตกง่าย จึงทำให้เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน เกิดการอักเสบตามร่องเหงือก จนทำให้เกิดปัญหาในช่องปากตามมา
- ไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขาดวิตามินซีจึงทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถเอาชนะเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่เข้ามาในร่างกายของเราได้ จึงทำให้ไม่สบายบ่อยนั่นเอง
- ผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ สาวๆคงไม่ถูกใจสิ่งนี้เป็นแน่ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินซีโดยเด็ดขาด เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ผิวพรรณดูสดใส เปร่งปลั่ง ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควรมาเยือน
สังเกต สัญญาณเตือน ร่างกายกำลังบอกว่าขาด วิตามินซี
- แผลหายช้า เมื่อเกิดบาดแผล ร่างกายจำเป็นต้องใช้คอลลาเจน และโปรตีนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย และวิตามินซีก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- มีเลือดออกผิดปกติ มีการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคเหงือกหลังจากรับประทานเกรปฟรูต ซึ่งมีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 33.3 มิลลิกรัมเป็นเวลา 2 อาทิตย์ เหงือกของพวกเขาสุขภาพดีขึ้นและมีเลือดออกลดลง อาจเนื่องมาจากวิตามินซีมีส่วนสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำให้เหงือกและฟันแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและทำให้เลือดแข็งตัวได้อีกด้วย
- น้ำหนักเกิน สำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในร่างกาย หรืออ้วนลงพุง การได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอ สามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันในร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น
- ผิวหนังแห้งและมีริ้วรอยเหี่ยวย่น เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ การรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอ จึงส่งผลให้ผิวหนังอ่อนนุ่มและเรียบเนียน
- เหนื่อยล้า มีการศึกษาขนาดเล็กพบว่า ผู้ชาย 6 ใน 7 คน มีอาการเหนื่อยล้า เมื่อระดับวิตามินซีในร่างกายต่ำ และยังมีอีกหนึ่งการศึกษาในพนักงานออฟฟิศจำนวน 141 คน หลังจากได้รับวิตามินซี พบว่า ลดความรู้สึกเหนื่อยล้าลงได้ ภายใน 2 ชั่วโมง
- ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีบางการศึกษารายงานว่าวิตามินซีสามารถป้องกันโรคบางชนิดได้ ยกตัวอย่างเช่น โรคปอดติดเชื้อ, โรคติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดได้ด้วย
- สูญเสียการมองเห็น หากมีอาการของโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม การขาดวิตามินซีอาจทำให้อาการยิ่งแย่ลงได้ เพราะวิตามินซีในอาหารสามารถช่วยป้องกันต้อกระจกได้ แต่อย่างไรก็ตามหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนเหตุผลดังกล่าวนั้นยังไม่เพียงพอ
- มีอาการของโรคลักปิดลักเปิด หากได้รับปริมาณวิตามินซีน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 มิลลิกรัม/วัน อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคลักปิดลักเปิด หรือมีอาการปวดข้อ, กระดูกเปราะบาง, เล็บแตก เป็นต้น แต่หากได้รับปริมาณวิตามินซีเพิ่มขึ้น อาการดังกล่าวจะค่อยๆหายไป ภายใน 3 เดือน
เติมน้ำให้ผิว ด้วย ผลิตภัณฑ์ aox ferulic ทำให้ผิวดูฉ่ำน้ำ เหมือนกินส้มทั้งสวน
สุขภาพและลักษณะที่ปรากฏของผิวของเราได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ และสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือการให้ความชุ่มชื้น การให้ความชุ่มชื้นที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพผิวและดูอ่อนเยาว์ เมื่อผิวของเราขาดความชุ่มชื้น ก็จะแห้ง ลอกเป็นขุย และเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเติมและรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ aox ferulic จาก mesoestetic ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการกำหนดสูตรด้วยส่วนผสมเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ประโยชน์มากมายสำหรับผิว
aox ferulic ตัวช่วยเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นที่ดีและส่งผลต่อสุขภาพผิว 10x
- น้ำมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกาย และผิวของเราก็ไม่มีข้อยกเว้น ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดและทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสิ่งภายนอก เมื่อผิวของเรามีความชุ่มชื้นเพียงพอ มันจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ผิวที่ชุ่มชื้นจะอวบอิ่มและอ่อนนุ่ม ช่วยลดเลือนเส้นริ้วและรอยเหี่ยวย่น ในทางกลับกัน ผิวที่ขาดน้ำสามารถนำไปสู่ความแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และผิวหมองคล้ำได้ นอกจากนี้ การขาดน้ำเป็นเวลานานสามารถเร่งกระบวนการชรา ทำให้ผิวสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น ดังนั้นการรักษาระดับความชุ่มชื้นที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวที่มีสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง
ผลิตภัณฑ์ aox ferulic ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ประกอบด้วยส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระและกรดเฟอรูลิก ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อให้ประโยชน์หลายประการแก่ผิว สารต้านอนุมูลอิสระปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระซึ่งเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่สามารถทำลายเซลล์และเร่งกระบวนการชราได้ กรดเฟอรูลิกซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยต่อต้านอนุมูลอิสหระและป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ aox ferulic มักจะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ เช่น กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งจะดึงดูดและรักษาความชุ่มชื้นในผิว ด้วยการรวมผลิตภัณฑ์ aox ferulic เข้ากับขั้นตอนการดูแลผิวของเรา เราสามารถเพิ่มความสามารถของผิวในการกักเก็บความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี