แน่นอนว่าปัจจุบันไทยเรานั้นมีมลภาวะทางอากาศที่เริ่มแย่ขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมืองกรุง ที่ต้องบอกเลยว่าเมื่อเรานั้นต้องเดินทางออกจากบ้านในแต่ละครั้ง เราก็ต้องไปต่อสู้กับมลภาวะทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 หรือว่าจะเป็นในเรื่องของมลพิษ พร้อมทั้งยังมีในเรื่องของควันต่างๆ ที่เกิดจากรถยนต์ต่างๆ และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวของเราต้องสัมผัส และนอกจากมลภาวะเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องของแสงแดดที่ร้อนจัด ที่ปริมาณความร้อนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ผิวของเรานั้นได้รับผลกระทบเข้าเต็มๆ ไม่ว่าจะผิวที่ใบหน้า หรือว่าผิวตามร่างกาย และวันนี้เราจะมาทำการแก้ไขและหาแนวทางการดูแลตัวเองพร้อมสร้างเกราะป้องกันจาก ผิวคลํ้าเสียจากรังสี UV แก้ปัญหาอย่างไร มาดูกัน
ทำไม UV ถึงทำร้ายผิว?
ก่อนที่เราจะไปทำการแก้ไขและสร้างแนวทางการป้องกันผิวจากรังสี UV ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจเรื่องของ UV ให้ดีเสียก่อน ว่าแท้จริงแล้ว รังสี UV คืออะไร และมันทำงานอย่างไร และทำไมมันถึงได้ส่งผลเสียต่อผิวหนังของเรา สำหรับรังสี UV หรือ Ultraviolet แท้จริงแล้วนั้นเป็นรังสีที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ ไม่ใช่ความร้อนหรือแสงแดด ต่อให้ไม่เห็นแสงแดด เราก็อาจโดน UV ทำร้ายได้ แถมยังก่อปัญหาผิวหน้าผู้ชายหลายอย่าง ทั้งสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ สาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย และยังทำให้ผิวของเราแสบไหม้ นำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย รังสี UV แบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ คือ UVA UVB และ UVC แต่ที่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศลงมาได้มีแค่ UVA และ UVB เท่านั้น ถึงอย่างไรรังสีพวกนี้ก็ไม่ส่งผลต่อร่างกายของของเราอย่างแน่นอน
การทำงานของ รังสี UVA มีความรุนแรงเท่ากันเท่ากันตลอดทั้งวันไม่มีช่วงเวลาไหน ที่ทำร้ายผิวเป็นพิเศษ และระดับการทำร้ายผิวก็เข้าไปทำร้านผิวลึกถึงผิวชั้นหนังแท้ จึงส่งผลเสียในระยะยาวเมื่อเรานั้นได้สัมผัสกับ UVA มากๆ เป็นเวลานานจึงทำให้เกิดเกิดริ้วรอยก่อนวัย และรังสี UVA นั้นมีการทำงานที่ทะลุผ่านชั้นเมฆ และกระจกหรือแม้แต่เสื้อผ้าได้ก็สามารถที่จะผ่านเข้ามาได้
การทำงานของ UVB ที่ส่งผลต่อผิวมนุษย์ สำหรับการทำงานจองรังสี UVB มีความรุนแรงแตกต่างกันโดยความอันตรายก็ขึ้นอยู่กับในแต่ละช่วงเวลา หลักการทำงานของ UVB จะทำร้ายเข้าไปลึกแค่ผิวชั้นนอก และทำให้ผิวเรานั้นรู้สึกได้ว่าผิวไหม้แดด ซึ่งการที่เป็นแบบนี้โดน UVB ทำลายก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังซึ่งอันตรายมาก และรังสี UVB โดยส่วนใหญ่ถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศมาอีกทีหนึ่ง และช่วงเวลาที่เลวร้ายที่เกิดการทำร้ายผิวของเรามากที่สุดสำหรับรังสี UVB นั่นก็คือช่วงเวลา ประมาณ 10.00-16.00 น. และเมื่อท่านออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งก็มีความเสี่ยง และเมื่อท่านนั้นได้อยู่ในพื้นที่สูง รังสี UV ก็ยิ่งรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ขึ้นดอย กิจกรรมเหล่านี้ต้องพึ่งตัวช่วยในการดูแลผิวของเราให้ดีๆ สำหรับวันนี้ท่านอาจจะมองว่าไม่เป็นไร แต่อนาคต ท่านอาจจะผลเสียตามมาที่หลังก็ได้
ภัยร้ายที่มาจากแสงแดด อาจนำพาไปสู่โรค
หากว่าทำตัวเคยชินกับแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแต่ไม่มีการป้องกันอะไร ท่านอาจจะต้องโรคร้ายที่มีโอกาสรักษาไม่หายได้ และจะดีกว่าไหมหากว่าเรานั้นหันกลับมาดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ท่านนั้นยังมีเวลา แล้วโรคร้ายที่จะตามมา หากว่าท่านั้นไม่ดูและป้องกันตั้งแต่ตอนนี้ มีมันมีโรคอะไรบ้าง มีดังนี้
- โรคมะเร็งผิวหนัง อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า รังสี UV จะเข้าทำลาย DNA ของเราจนทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ เพราะในแสงแดดจะมีสารกระตุ้นมะเร็งอยู่แล้วและเมื่อเรานั้นใช้ชีวิตในแต่ละวัน และสำหรับใครที่ต้องออกไปทำงานกลางแจ้ง และแดดจ้าอยู่ตลอดเวลาก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ ฉะนั้นหากว่าท่านรู้ว่าต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานควรหาวิธีป้องกันตัวเองจากแสงแดดพวกนั้น ด้วยการทาครีมกันแดด
- โรคฝ้า สำหรับโรคนี้หญิงสาวๆ หลายคนไม่พึงประสงค์ที่จะเป็น เพราะว่าโรคฝ้านั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ เพราะว่าหากว่าได้เป็นแล้วก็มีโอกาสที่จะกลับบมาเป็นได้อีก และนอกจากนั้นโรคฝ้ายังเป็นโรคต้องใช้เวลาในการรักษา และนอกจากนั้นโคฝ้าก็มีหลากหลายปัจจัยในการเป็นโรคนี้ เพราะว่าไม่ได้มีเพียงแค่แสงแดดเพียงย่างเดียวที่ทำให้เกิดเป็นฝ้าแต่สำหรับฝ้าที่เกิดจากจะขึ้นเป็น ผื่นสีน้ำตาลที่ใบหน้าโดยเฉพาะที่บริเวณแก้ม จมูก หน้าผาก คาง บริเวณที่ถูกแสงแดด โดยช่วงอายุวัยของคนที่เป็นโรคนี้มักจะพบในผู้หญิงวัย 30-40 ปี ฉะนั้นเราควรที่จะมีผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวให้ห่างไกลฝ้า
- โรคต้อเนื้อ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินโรคนี้มาก่อน แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริงแล้วแสงแดดนั้นมีพลังทำลายผิวของเราได้หลากหลายวิธีและทำให้เรานั้นเป็นโรคร้ายได้หลากหลายโรค และหนึ่งในนั้นก็คือรึต้อเนื้อ ที่เกิดจากการที่เรานั้นได้สัมผัสรังสี UV จากดวงอาทิตย์กับเยื่อบุตามากเกินไปจนกลายเป็นเนื้อรูปสามเหลี่ยมสีแดงยื่นเข้าไปในตาดำ จนเยื่อบุตาเสื่อมลงในที่สุด ซึ่งโรคนี้ก็มีแนวทางทางการรักษาจากแพทย์แบบใกล้ชิด
- โรคลมแดด เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินโรคนี้มาพอสมควร โรคลมแดด เป็นอาการของคนที่เกิดภาวะร้อนจัดจนทำให้ร่างกายทำงานไม่ทันเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป และขับเอาความร้อนออกจากร่างกายไม่ทัน จนมีอาการหน้ามืด ตาลาย เป็นลม และบางรายอาจจะถึงขั้นรุนแรงจนเกิดอาการช็อกและสำหรับบางรายก็จะส่งผลต่อชีวิตได้เหมือนกัน
ผลิตภัณฑ์ตัวช่วย ปกป้องผิวจากแสงแดด
จากที่เราได้รู้แล้วว่าผลเสียที่จะก่อให้เกิดอันตรายจากรังสี UV มีอะไรบ้าง และจะมีผลิตภัณฑ์ประเภทไหนที่ได้มีการผลิตพัฒนาออกมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการป้องกันรังสีพวกนี้ ทำให้ผิวของเราห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ สำหรับในยุคปัจจุบันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าทางแบร์นต่างๆ ก็ได้ออกมาผลิตสินค้าที่เป็นตัวช่วยในการปกป้องผิวหลากหลายสูตร และมีหลากหลายค่า SPF ในการป้องกัน แล้วสารที่ได้ถูกนำมาผสมในผลิตภัณฑ์การป้องกันทำหน้าที่อย่างไร และมีสารตัวไหนบ้าง และสารเหล่านั้นจะส่งผลอะไรกับผิวเราไหม เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมากขึ้นเรื่องๆ ทางการแพทย์ก็พัฒนาเช่นกัน และก็ได้มีการวิจัยเรื่องของสารตัวช่วยการปกป้องผิวจกแสงแดด ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะมีผลิตภัณฑ์รูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันไปโดยทั่วไปแล้วก็จะมีหลักการทำงานของผลิตภัณฑ์กันแดดอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
- แบบสะท้อนรังสี หรือที่เรียกว่า โลชั่นกันแดดแบบกายภาพ Physical สำหรับผลิตภัณฑ์นี้จะมาในลักษณะของครีมที่มีสารกันแดดที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสียูวีอยู่ อย่าง ZnO และ TiO2 ซึ่งแบบกายภาพนี้จะมีกลไกการทำงานคือ และเมื่อนั้นได้นำไปทางไปเคลือบที่ผิวหนังเมื่อเรานั้นต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดหรือต้องเจอกับรังสียูวี สารกันแดดจะทำหน้าที่คล้ายโล่ป้องกันรังสีเข้าสู่ผิวโดยตรง และนอกจากนั้นสารตัวนี้จะทำให้รังสีสะท้อนออกไปจากผิวทันที จึงทำให้ผิวไม่โดนทำร้ายจากรังสียูวีในแสงแดด
- แบบช่วยดูดซับรังสี หรือที่เรียกว่า โลชั่นกันแดดแบบเคมิคอล Chemicals สำหรับรูปแบบของครีมนี้จะมีคุณสมบัติดูดซับรังสีผสมอยู่ เช่น Mexoryl, OMC, Avobenzone ซึ่งเจ้าพวกนี้ก็จะมีกลไกการทำงานคือ เมื่อผิวหนังของเรานั้นต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดหรือต้องเจอกับรังสียูวี สารกันแดดจะทำหน้าที่ดูดซับรังสียูวีเข้ามาในตัวสารกันแดดที่เคลือบอยู่บนผิวหนัง จากนั้นสารกันแดดจะเปลี่ยนรังสียูวีให้กลายเป็นความร้อน แล้วจึงจะสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ ทำให้ผิวหนังของเราเมื่อทาครีมกันแดดชนิดนี้จะไม่ได้รับรังสียูวี
- แบบผสม แบบสุดท้ายหรือที่เรียกกันว่า โลชั่นกันแดดแบบไฮบริด Hybrid โดยตัวครีมนี้จะมีคุณสมบัติทั้งดูดซับและสะท้อนรังสียูวีอยู่ในเนื้อครีม Tinosorb M ที่มีกลไกในการทำงานคือ เมื่อผิวหนังของเราได้ออกไปเผชิญกับแสงแดด สารกันแดดประเภทนี้จะทำหน้าที่ทั้งดูดซับและสะท้อนรังสียูวี ทำให้ผิวไม่โดนทำร้ายจากรังสียูวีในแสงแดด
ตัวช่วยปกป้องผิว เมื่อต้องเผชิญกับแสงแดด ลด กระ ฝ้า จุดด่างดำ
ผลิตภัณฑ์ตัวช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอย ลดฝ้า กระ ต้นเหตุที่มาจากแสงแดด แสงยูวีต่างๆ aox ferulic เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษา สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมปรับให้สีผิวสม่ำเสมอ และนอกจากนั้นก็ยังมีผลิตภัณฑ์ปกปิ้งผิวจากแสงแดดที่มีค่า SPF สูงอยู่ที่ 50+ และยังมีรูปแบบการป้องกันผิวจากแสงสามรูปแบบการทำงานด้วยกัน ทุกท่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการได้เลย และที่เหนือไปกว่านั้น ในเรื่องของเซรั่ม ที่ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษาผิวหน้าโดยเฉพาะ melan tran3x concentrate เซรั่มสูตรเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นบํารุงผิวสําหรับผู้ที่มีปัญหารอยฝ้า กระ จุดด่างดํา หรือสีผิวไม่สมํ่าเสมอที่มีสาเหตุจากแสงแดด และสภาพแวดล้อมจากภายนอก ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส รอยฝ้า กระ จุดด่างดําต่างๆ แลดูจางลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้
และนอกจากจะมีเซรั่มแล้วนั้นทาง aox ferulic ก็ยังมีในส่วนของ melan tran3x gel cream เจลครีมช่วยลบเลือนรอยฝ้า กระ และจุดด่างดํา ให้แลดูจางลง ช่วยปรับสภาพผิวที่หมองคลํ้า ให้แลดูกระจ่างใสขึ้น และสามารถช่วยป้องกันการเกิดซํ้าของปัญหาดังกล่าวและผิวหมองคลํ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนประกอบสำคัญของตัวนี้ก็จะเป็น Tranexamic Acid ที่จะทำหน้าที่ช่วยลดเลือนรอยฝ้า กระ จุดด่างดําและช่วยปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใสขึ้น และSalicylic acid และ Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกเพื่อเผยผิวใหม่ ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส และปรับสีผิวให้แลดูสมํ่าเสมอมากขึ้น Tyr Control Complex เป็นสารที่ช่วยในเรื่องการลบเลือนรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้อย่างต่อเนื่องผิจะแข็งแรงขึ้น และลดโอกาสของการเกิดฝ้าได้เป็นอย่างดี และนอกจากนั้นก็ยังมีสาร Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ที่จะมาทำหน้าช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสลดลอยดำต่างๆบนใบหน้าบนผิวหน้า ให้ดูจางลงกว่าปกติ