กำจัดเซลลูไลท์ สลายผิวเปลือกส้มอย่างไรให้ได้ผล

“เซลลูไลท์” หรือ “ผิวเปลือกส้ม” อีกหนึ่งปัญหาความงามเกี่ยวกับความสวยงามของเรือนร่างที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ เพราะสามารถทำให้มองเห็นไขมันสะสม ผิวไม่เรียบเนียน ดูขรุขระอยู่ตามแขน ตามขาได้อย่างชัดเจน เนื่องจากความหนาแน่นของเซลล์ไขมันผิดรูป เราจะมาทำความรู้จักกับเซลล์ไลท์กันให้มากขึ้น ถึงสาเหตุหรือที่มา รวมถึงแนวทางในการกำจัด รักษาและการป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรง

เซลลูไลท์คืออะไร

เซลลูไลท์ (Cellulite) คือเซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวมาสะสมรวมกันอัดแน่นอยู่อย่างหนาแน่นใต้ชั้นผิวหนังที่มากกว่าปกติ ทำให้ผนังชั้นที่หุ้มเซลล์ผิวเกิดคลื่น บิดเบี้ยว ขรุขระ แลดูตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับผิวเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด ในบางรายมีลักษณะเป็นลอนๆ เนื่องจากมีไขมันสะสมเป็นก้อนผสมรวมกับของเสียและน้ำ ซึ่งในแต่ละก้อนไขมันจะมีเยื่อเหนียวๆหุ้มอยู่ เมื่อมองจากภายนอกทำให้เห็นลอนของไขมันได้อย่างชัดเจน มักพบบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน ก้นและหน้าท้อง พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย สามารถพบได้ทั้งในคนอ้วนและคนผอม

พัฒนาการ 4 ระยะของเซลลูไลท์

เซลลูไลท์มีพัฒนาการในระยะต่างๆตั้งแต่ระดับไม่มากจนถึงระดับที่รักษาได้ยาก ดังต่อไปนี้

  • ระยะศูนย์ – เป็นระยะที่เริ่มมีพังผืดเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่มากนัก ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า
  • ระยะที่ 1 – มองไม่เห็นรอยชัดเจน แต่เมื่อหยิบผิวหนังขึ้นมาจะพบว่ามีรอยบุ๋มเกิดขึ้น
  • ระยะที่ 2 – เริ่มมองเห็นรอยของเซลลูไลท์ได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่ยืนปกติโดยไม่ต้องหยิบผิวหนังขึ้นมา
  • ระยะที่ 3 – สามารถมองเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดเจนที่สุดทั้งในเวลายืนหรือนอน ทั้งยังเป็นระยะที่รักษาได้ยากที่สุดอีกด้วย

กลไกการเกิดเซลลูไลท์

ในส่วนของกลไกการเกิดเซลลูไลท์นั้น เกิดจากการที่เซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ที่เรียกว่าSubcutaneous เกิดอาการบวม และมีพังผืดเข้ามาหุ้ม ทำให้เกิดการรวมตัวกันของเซลล์ไขมันเป็นกลุ่มเป็นก้อนขึ้น ทั้งยังสามารถมองเห็นได้จากภายนอกได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับกลไกการเกิดเซลลูไลท์ดังต่อไปนี้

  • เซลล์ของไขมันบวมขึ้น เพราะมีไขมันสะสมในปริมาณที่มาก
  • ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันเกิดการรั่ว ส่งผลให้น้ำซึมผ่านเข้าออกบริเวณเซลล์ไขมัน ทำให้เกิดการคั่งของน้ำ
  • ทำให้การระบายน้ำเหลืองไม่ดี
  • เซลล์ไขมันจะจับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน โดยมีคอลลาเจนล้อมรอบอยู่ ทำให้การไหลเวียนของเลือดมีปัญหา
  • ในส่วนของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะดึงรั้งผิวหนัง ทำให้มองเห็นเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน

สาหตุของการเกิดเซลลูไลท์

การเกิดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มนั้น มีที่มาจากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้

  • ระบบฮอร์โมนในร่างกาย (Hormones)
    ฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นฮอร์โมนตัวสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย ทำให้เกิดเซลลูไลท์ขึ้นได้ง่ายๆ มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย คนที่รับประทานยาคุมกำเนิดและคนที่ตั้งครรภ์ รวมถึงในภาวะหลังคลอดบุตร ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่สามารถทำลายระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง ทำให้โครงสร้างผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย ผิวไม่เรียบเนียน
  • การรับประทานอาหาร
    การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน แป้ง น้ำตาล รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไป ทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานออกไปใช้ได้หมด ทำให้เกิดการสะสมของไขมันภายในเซลล์ผิวได้มากขึ้น และยังทำให้ชั้นไขมันหนาขึ้นได้อีกด้วย
  • กรรมพันธุ์ (Genetic factors)
  • ไม่ออกกำลังกาย
    รวมถึงคนที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย นั่งหรือยืนอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองขัดข้อง ส่งผลให้ระบบฮอร์โมนทำงานได้ไม่สมดุล จนทำให้ของเสียต่างๆที่สะสมในร่างกายรวมกับไขมันก่อตัวกันขึ้นกลายเป็นเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำน้อย
    การดื่มน้ำน้อยจนเกินไป ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ส่งผลให้เซลล์ภายในร่างกาย รวมถึงระบบการขับถ่ายของเสียทำงานไม่ปกติ ไม่เพียงทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทำให้ระบบการขับของเสียมีปัญหา เกิดเป็นเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น
  • ความเครียด (High stress)
    เมื่อมีความเครียดสะสมมากขึ้น จะทำให้กล้ามเนื้อมีอาการเกร็งตัว ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลิน จนทำให้เกิดการสะสมสารพิษและหลั่งสารที่เรียกว่าแคททีโคลามีน (catecholamines) ซึ่งนับเป็นกลุ่มฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์
  • การสูบบุหรี่ (Smoking)
    ในบุหรี่จะมีสารนิโคติน ที่สามารถทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบ เส้นเลือดฝอยหดตัว เลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่พอ เกิดเป็นพังผืดติดอยู่ตามเซลล์ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดภาวะเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสารก่อมะเร็งอื่นๆอีกมากมายในบุหรี่ ที่สามารถเข้าไปทำลายเซลล์ ทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย เกิดคลื่นเซลลูไลท์ที่บริเวณผิวหนัง นอกจากนั้นยังทำให้ปอดและไตทำงานผิดปกติ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบการขับถ่ายของเสียทำงานผิดปกติได้อีกด้วย
  • การลดน้ำหนักเร็วจนเกินไป
    การที่น้ำหนักลดลงเร็วจนเกินไป ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดสารอาหาร และมีการเก็บสะสมพลังงานและไขมันเอาไว้  เมื่อไขมันไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ทำให้กลายเป็นเซลลูไลท์ได้ในที่สุด
  • ระบบเผาผลาญมีปัญหา
    หลายท่านรับประทานอาหารน้อย แต่อ้วน เกิดจากการที่ระบบการเผาผลาญของร่างกายมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเซลลูไลท์ตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ในระยะยาว

ประเภทของเซลลูไลท์

เซลล์ลูไลท์ที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายมีอยู่หลายประเภท ดังต่อไปนี้

  • Soft Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็ก เป็นลูกคลื่นแบบนิ่ม ส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 20-30 ปี พบได้มากในบริเวณบั้นท้าย หน้าท้อง สะโพกและต้นแขน
  • Hard Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆและแข็ง รวมกันหลายก้อน พบมากบริเวณบั้นท้ายและสะโพกในผู้หญิงวัย 20-40 ปี
  • Flaccid Cellulite มีลักษณะเป็นก้อนไขมันนุ่ม เนื่องจากมีการหย่อนคล้อยของผิวหนังและกล้ามเนื้อเหลว ในบริเวณคาง ท้องแขน และหน้าท้อง ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย
  • Edmatous Cellulite จะคล้ายลักษณะของการบวมน้ำ เมื่อกดลงไปจะมีรอยบุ๋ม เนื่องจากระบบไหลเวียนของเลือดมีปัญหา ทำให้เกิดการคั่งของน้ำเหลืองที่บริเวณสะโพกและต้นขา พบได้ในผู้หญิงที่มีอายุ 20-30 ปี
  • Mixed Cellulite เป็นการรวมเอาเซลลูไลท์ทุกประเภทไว้ด้วยกัน พบมากในผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทไขมัน น้ำตาลและแป้งมากเกินพอดี ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

วิธีการกำจัดเซลลูไลท์

ปัจจุบันได้มีวิธีการมากมาย ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการกำจัดผิวเปลือกส้มหรือเซลลูไลท์ออกไป เพื่อผิวที่เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยสามารถแบ่งออกเป็นวิธีแบบธรรมชาติบำบัดและวิธีที่ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การกำจัดเซลลูไลท์โดยวิธีธรรมชาติ

ในการกำจัดเซลลูไลท์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ โดยมีขั้นตอนและวิธีการดังต่อไปนี้

  • การออกกำลังกาย
    เน้นการสร้างกล้ามเนื้อและช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อทำเป็นประจำและสม่ำเสมอจะช่วยให้เซลลูไลท์หายไปได้และทำให้ผิวกระชับมากขึ้นด้วย
  • ขัดผิวด้วยกากกาแฟ
    กากกาแฟสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกมาได้ เนื่องจากคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟมีสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถขจัดสารพิษให้กับผิวหนังชั้นนอก พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นใน ทำให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่งสุขภาพดี นอกจากนั้นสารดังกล่าวยังช่วยกระตุ้นไขมันใต้ชั้นผิวให้เกิดการแตกตัว และมีการจัดเก็บไขมันใต้ชั้นผิวหนังให้มีความเป็นระเบียบ ลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเกิดเซลลูไลท์ขึ้นได้
  • นวดน้ำมัน
    การนำน้ำมันมาใช้นวดผิว นอกจากช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวแล้ว ยังทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นกระบวนการกำจัดของเสียในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย ไม่เพียงเท่านั้น การนวดด้วยน้ำมันยังช่วยกระตุ้นระบบต่อมน้ำเหลืองที่ช่วยย่อยไขมันให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดยให้ใช้อุ้งมือนวดเป็นวงกลม ใช้สันมือโอบรอบบริเวณที่มีเซลลูไลท์ และบีบในจุดที่น้ำเหลืองไหลเวียนไม่ดี เช่น หัวเข่าด้านใน และต้นขา เป็นการช่วยละลายไขมัน เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของโลหิตและกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยกำจัดสารพิษที่ค้างอยู่ใต้ผิวหนังได้ด้วย
  • สครับผิวขณะอาบน้ำทุกวัน
    ในช่วงขณะอาบน้ำ ควรขัดผิวเบาๆด้วยฟองน้ำหรือใยบวบ และสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวร่วมด้วยได้ และหลังจากการอาบน้ำให้ใช้ครีมหรือโลชั่นนวดสลายไขมันมานวดวนในบริเวณที่มีเซลลูไลท์ อย่างBodyshock celluxpert by mesoestetic ซึ่งเป็นเจลครีมนวดขจัดเซลลูไลท์ เพื่อช่วยป้องกันและลดเลือนผิวเปลือกส้ม โดยมีคุณสมบัติเพื่อช่วยกระตุ้นการกำจัดของเสีย สลายไขมัน และช่วยทำให้ผิวมีความกระชับมากขึ้น โดยช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต แถมยังมีกลิ่นหอมสดชื่น พิเศษคือมีหัวสำหรับนวด(headpiece) ซึ่งประกอบด้วยลูกกลิ้งขนาดเล็ก ซึ่งทำจากแก้ว สามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านของสารออกฤทธิ์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียอดเยี่ยมสูงสุด ใช้นวดในบริเวณที่มีเซลลูไลท์ อย่างเช่น ต้นขา สะโพก ก้น มีส่วนประกอบสำคัญดังต่อไปนี้
  • L-Carnitine ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน ช่วยสลายและลดการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย ลดการเกิดเซลลูไลท์
  • Caffeine ช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
  • Arnica extract สารสกัดจากดอกอาร์นิก้า พืชสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด ป้องกันอาการบวม และการอักเสบของผิว
  • สารสกัด brassica alba สารสกัดจากดอกบราซิกาที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย
  • Capsaicin แคปไซซินเป็นสารสกัดที่ได้จากพริกแดง ช่วยเพิ่มอุณภูมิในร่างกาย เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Organic silicon ช่วยสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ผิวเรียบเนียน ป้องกันการเกิดเซลลูไลท์

การกำจัดเซลลูไลท์โดยเทคโนโลยีทางการแพทย์

ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในการสลายเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มมากมายหลายวิธี ดังต่อไปนี้

  • Meso Melt Fat 
    เป็นการส่งผ่านตัวยาเข้าไปในชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน เพื่อช่วยในการย่อยสลายไขมันส่วนเกินรวมถึงเซลลูไลท์ที่สะสมอยู่ในชั้นไขมัน โดยเข้าไปกระตุ้นให้ไขมันแตกตัว ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบการทำงานของต่อมน้ำเหลือง เพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายสามารถเผาผลาญและขับไขมันส่วนเกินออกมาได้อย่างง่ายดายผ่านการขับถ่ายของร่างกายตามธรรมชาติ ทั้งยังช่วยยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย ทั้งที่คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก พุง หน้าท้อง และไขมันที่น่อง
  • Ultrafirm3deep
    เป็นการใช้คลื่น Rediofrequency ที่สามารถปล่อยพลังงานได้ถึง 3 ระดับความลึกลงสู่ชั้นผิวหนังพร้อมๆกัน ช่วยแก้ปัญหาการสะสมของไขมันในส่วนต่างๆของร่างกาย ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยลดความเหี่ยวย่น ทำให้ผิวกระชับขึ้นได้ สามารถใช้ได้ทั้งต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
  • INDIBA
    เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเซลลูไลท์ ลดกระชับสัดส่วนอย่างได้ผล ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีของคลื่นความถี่วิทยุผ่านเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีอุณภูมิในบริเวณนั้นๆสูงขึ้น 3-5 องศาโดยประมาณ ช่วยในการเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวเรียบเนียนกระชับขึ้นได้
  • VelaShape
    เป็นการใช้ความร้อนจากแสงอินฟราเรด Infrared (IR) ร่วมกับการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio frequency) และระบบสุญญากาศ (Vacuum) เพื่อช่วยในการกำจัดเซลลูไลท์ตามส่วนต่างๆของร่างกายโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เข็ม
  • Accent Ultra
    เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยทำให้ไขมันแตกตัว และถูกกำจัดออกโดยวิธีการทางธรรมชาติ เพื่อลดเซลลูไลท์ ยกกระชับผิวให้เต่งตึงและเรียบเนียนมากขึ้น
  • Liposuction และ Laser-Assisted Liposuction 
    การดูดไขมัน(Liposuction) โดยปกติมักได้ผลดีในการลดสัดส่วนและการลดไขมันเฉพาะจุด แต่ได้ผลไม่มากนักในการแก้ปัญหาผิวที่มีเซลลูไลท์ ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนามาใช้แสงเลเซอร์ คลื่นความถี่วิทยุและคลื่นอัลตร้าซาวด์ในการลดไขมันและลดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดี เห็นผลเร็วและใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
  • Thermage (เทอร์มาจ)
    เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการยกกระชับผิว โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency: RF) ปล่อยลงไปสู่ชั้นผิวหนังลึกลงไปถึงชั้นไขมัน โดยพลังงานจาก RF จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เพื่อสลายไขมันสะสม พร้อมทั้งสลายพังผืดที่ยึดเกาะชั้นไขมันที่ทำให้เกิดรอยบุ๋ม  ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวตึงกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • วิธีสุญญากาศ
    เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเซลลูไลท์ที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 ด้วยเทคนิคพิเศษในการดูดผิวหนัง เพื่อให้บริเวณดังกล่าวนั้นเกิดภาวะสุญญากาศและกระตุ้นให้มีการขับของเสียออกมา
  • คาร์บ็อกซี่เธอราปี
    เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปที่ใต้ผิวหนัง เพื่อใช้ในการกำจัดเซลล์ไขมันที่ทำให้เกิดผิวเปลือกส้ม

การป้องกันการเกิดเซลลูไลท์

เพื่อเป็นการป้องกันและลดโอกาสในการเกิดเซลลูไลท์สะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย มีหลักการหรือวิธีการต่างๆมากมายที่เกี่ยวข้องกับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ดังต่อไปนี้

  • การควบคุมอาหารและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารเป็นเหมือนคีย์หลักที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกายจนทำให้เกิดเซลลูไลท์ โดยควรลดการรับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน น้ำตาล ลดอาหารที่มีรสเค็มจัด หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง ไส้กรอก แฮม เบคอน จั้งค์ฟู้ด เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเรามีการสะสมของไขมันมากขึ้น แต่ให้เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ กากใยสูงและมีไขมันต่ำ ในส่วนของสารอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ให้เลือกรับประทานในส่วนที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา อกไก่ เน้นการรับประทานแบบต้มหรือนึ่งแทนการทอด เพิ่มปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะในผักผลไม้มีวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้ขับพิษออกมาได้ดี ช่วยให้เซลล์ต่างๆภายในร่างกายสามารถทำงานได้ดีมากขึ้น แต่ควรเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัด รวมถึงลดปริมาณของอาหารที่มีโซเดียมเพื่อหลีกเลี่ยงการกักเก็บของเหลวในร่างกาย แต่อย่างไรก็ดี นักธรรมชาติบำบัดเชื่อว่า การรับประทานผักและผลไม้สด สามารถช่วยลดเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้นได้ ทั้งยังช่วยป้องกันเซลลูไลท์ที่จะเกิดใหม่ได้ถึง 75% เลยทีเดียว

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
    น้ำสะอาด นอกจากจะช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติแล้ว ยังสามารถช่วยขับสารพิษที่ติดอยู่ในเนื้อเยื่อในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน ทั้งยังสามารถขจัดเซลลูไลท์ออกไปจากร่างกายได้ด้วย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ให้ได้ 8-10 แก้วสำหรับผู้หญิง และ 10-12 แก้วสำหรับผู้ชาย และควรลดหรือเลิกดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดการสูบบุหรี่ร่วม เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ทำให้เกิดสารพิษที่ทำให้ร่างกายขับออกมาได้ยากมากขึ้น
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    ประโยชน์ของการออกกำลังกาย ไม่เพียงทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้สมดุลมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย และควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์และ 3 ครั้ง วันละ 1-2 ชั่วโมงขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็ว การว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือกหรือเต้นแอโรบิก ส่วนท่านไหนที่ทำงานอยู่กับที่ หรืออยู่ท่าหนึ่งท่าใดมากจนเกินไป ควรหาเวลาขยับหรือเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟท์ การลุกขึ้นเดินเพื่อกระตุ้นการขจัดของเสียระหว่างวัน เป็นต้น
  • ไม่นั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานๆ
    การนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานๆ ทำให้ไขมันไปรวมตัวกันในบริเวณที่เนื้อกดทับกันอยู่ ทั้งยังทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายไม่สะดวก ส่งผลให้ขาบวม ขาใหญ่ได้
  • สวมเสื้อผ้าหลวมๆ
    ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูปมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้เกิดเซลลูไลท์ขึ้นได้
  • สครับและบำรุงผิว
    การขัดหรือสครับผิวเป็นประจำ ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มได้ โดยใช้ความร้อนเข้ามาช่วย มีวิธีการคือให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วใช้ขัดผิวเบาๆ หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวร่วมด้วยก็ได้ ให้ทำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นให้ทาครีมบำรุงผิวหรือครีมที่ช่วยในการนวดเซลลูไลท์ ก็จะช่วยทำให้เซลลูไลท์ลดลง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายความเครียด
    โดยการหากิจกรรมที่สร้างสรรค์ งานอดิเรกที่ท่านสนใจทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การปลูกต้นไม้ การเลี้ยงสัตว์ หรือการเดินทางออกไปท่องเที่ยว เป็นต้น

การมีรูปร่างที่ดี สมส่วน ปราศจากไขมัน เชื่อว่าเป็นสุดยอดความปรารถนาของใครหลายคน โดยเฉพาะสาวๆ แต่เนื่องด้วยภาวะเร่งรีบในแต่ละวัน ทำให้รูปแบบหรือลักษณะการรับประทานอาหารเปลี่ยนไป  รวมถึงการออกกำลังกายน้อยลง ผลที่ตามมาไม่เพียงปัญหาด้านความสวยงามอย่าง“เซลลูไลท์” หรือ “ผิวเปลือกส้ม”เท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสที่ทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้อีกด้วย และถึงแม้ว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ๆที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวมากขึ้น แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะยาว ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น หันมาขยับร่างกายให้บ่อยขึ้น และรักษาสมดุลทางอารมณ์ร่วมด้วย ก็จะช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีและสุขภาพดีๆไปพร้อมๆกัน