โฟมล้างหน้า ไอเทมสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในการดูแลผิว

การล้างหน้าเป็นหนึ่งในขั้นตอนการดูแลผิวที่สำคัญ เพราะถือว่าเป็นการทำความสะอาดผิว ชำระล้างคราบเครื่องสำอางค์คราบความมันส่วนเกิน ฝุ่น และมลภาวะที่ต้องประสบระหว่างวัน เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดลดการอุดตันและการสะสมของแบคทีเรียที่อาจหมักหมมจนเกิดสิว อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ผิวก่อนที่จะรับการบำรุงด้วยสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ในขั้นถัดไป เพื่อให้สารบำรุงซึมลึกลงสู่ผิวได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจำเป็นจะต้องมีตัวช่วยเป็นผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้า ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์สภาพผิวของเราที่สุด วันนี้เราเลยมีสาระดี ๆ เกี่ยวกับโฟมล้างหน้าและการเลือกใช้โฟมล้างหน้ามาฝาก

ทำไม โฟมล้างหน้า ถึงจำเป็นกับผิว

จำเป็นแค่ไหนที่เราต้องใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดผิว แน่นอนว่าจำเป็นมาก เพราะในแต่ละวันผิวหน้าของเราต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรกและมลภาวะในอากาศมากมาย ไหนจะเป็นน้ำมันส่วนเกินที่ถูกผลิตมาระหว่างวัน รวมไปถึงคราบเครื่องสำอางเมคอัพต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นอนุภาคที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันจะตกค้างอยู่บนผิวและรูขุมขนของเรา การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าไม่สามารถสิ่งสกปรกตกค้างเหล่านี้ได้ แต่การใช้โฟมล้างหน้าจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างตามผิวและรูขุมขนให้สะอาดหมดจด ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดสดชื่นขึ้นโอกาสที่จะเกิดสิวและปัญหาผิวก็จะลดลงตาม

ประเภทของโฟมล้างหน้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไป

ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าจำหน่ายอยู่หลากหลายแบรนด์ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลัก ๆ เป็น 2 ประเภท คือ โฟมล้างหน้าแบบมีฟอง และโฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง

  • โฟมล้างหน้าแบบมีฟอง

โฟมล้างหน้าประเภทนี้เป็นประเภทที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เวลาใช้จะให้ฟองที่หนานุ่ม เพราะมีส่วนประกอบของสารในกลุ่ม SLS หรือ sodium lauryl sulfate ซึ่งมีประจุไฟฟ้าเป็นประจุลบ ผลข้างเคียงก็คือเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว ใช้แล้วอาจทำให้ผิวแห้งตึงและสูญเสียความชุ่มชื้น ไม่เพียงเท่านั้นประจุลบในโฟมล้างหน้าจะจับกับประจุบวกบนผิวหน้าของเราซึ่งนานวันเข้าก็จะตกค้างอยู่ตามรูขุมขนกลายเป็นสิวอุดตัน (Comedone) ขึ้นมาได้

  • โฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง

โฟมล้างหน้าประเภทนี้แตกต่างจากโฟมล้างหน้าแบบมีฟองตรงที่จะไม่มีประจุไฟฟ้า ทำให้มีค่า PH ใกล้เคียงกับผิวหน้าของเราที่สุด ข้อดีก็คือไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และยังชำระล้างออกได้ง่าย ไม่ทิ้งสารตกค้างจึงไม่อุดตันรูขุมขนไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันตามมา โฟมล้างหน้าประเภทนี้จึงอ่อนโยนเหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

ลักษณะและสูตรต่าง ๆ ของโฟมล้างหน้า

  • เนื้อครีม

โฟมล้างหน้าแบบเนื้อครีมเป็นแบบที่ได้เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ผลิตภัณฑ์หลาย ๆ แบรนด์ก็นิยมผลิตโฟมล้างหน้าแบบเนื้อครีมออกมาจำหน่าย ซึ่งลักษณะโฟมล้างหน้าแบบเนื้อครีมนี้จะนุ่มนวลใช้ได้กับทุกสภาพผิว บางแบรนด์อาจมีส่วนผสมของเม็ดบีสต์ที่ช่วยสครับผิวได้ไปในตัว

  • เนื้อเจล

โฟมล้างหน้าแบบเนื้อเจลจะมีความบางเบากว่าแบบเนื้อครีม จึงมีความอ่อนโยนกว่า มีส่วนผสมของสารเคมีน้อย ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ โฟมล้างหน้าแบบเนื้อเจลจึงเหมาะกับคนผิวมันรวมไปถึงคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย

  • เนื้อผง

โฟมล้างหน้าแบบผงมักจะพบในรูปแบบยาหรือเวชภัณฑ์ที่ได้จากแพทย์ผิวหนัง ใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนังโดยเฉพาะ เช่น สิว ฝ้า กรากเกลื้อน ฯลฯ อันเนื่องจากว่ายาหรือสารสกัดที่ใช้จะให้ประสิทธิภาพดีในรูปแบบผง เวลาใช้ทำความสะอาดผิวหน้าจะช่วยสครับผิวได้ไปในตัว

  • เนื้อบาล์ม

โฟมล้างหน้าแบบเนื้อบาล์มจะมีลักษณะคล้ายออยล์จะพบมาในกลุ่มแถบเมืองหนาว จุดเด่นก็คือช่วยกักเก็บและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการแห้งแตกของผิว จึงไม่ค่อยเห็นโฟมล้างหน้าแบบนี้ในแทบเมืองร้อนอย่างเมืองไทย เพราะหากใช้แล้วจะยิ่งเพิ่มความมันและอุดตันรูขุมขนเพิ่มขึ้น

การเลือก โฟมล้างหน้า ให้ตอบโจทย์สภาพผิว

การเลือกโฟมล้างหน้าให้ใช้แล้วเห็นผลดีควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรามากที่สุด เพราะสภาพผิวหน้าแต่ละประเภทจำเป็นต้องได้รับการดูแลและทำความสะอาดแตกต่างกันตามสภาพผิวนั้น

  • ผิวธรรมดา

ผิวธรรมดาเป็นผิวที่ได้เปรียบกว่าผิวประเภทอื่น เพราะเป็นผิวที่มีปัญหาน้อยที่สุดจึงเหมาะกับผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าได้ทุกประเภท แต่ก็ควรจะเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ใช้แล้วช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นไม่ทำให้ผิวแห้งตึง

  • ผิวมัน

คนผิวมันควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันทำให้หน้ามันขึ้นไปอีก ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน พร้อมทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก ก็จะช่วยลดความมันและการอุดตันรูขุมขนลง

  • ผิวแห้ง

คนที่ผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของน้ำมันธรรมชาติ น้ำผึ้ง รวมไปถึงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะจะช่วยกักเก็บและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยลดความแห้งกร้านให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ควรหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้อย่าง AHA และ BHA เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้านมากกว่าเดิม

  • ผิวผสม

คนผิวผสมจะมีสภาพผิวทั้งแห้งและมันผสมกัน โดยบริเวณที่มันจะเป็นบริเวณที่เรียกว่า T-zone คือบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสมดุลผิว ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่ช่วยทั้งขจัดความมันส่วนเกินและช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นในคราวเดียวกัน และเวลาทำความสะอาดควรเน้นบริเวณ T-zone เป็นพิเศษเพื่อลดการอุดตันของคราบไขมันตามรูขุมขน

  • ผิวบอบบาง

คนผิวบอบบางเป็นผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่ายดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ควรเป็นโฟมแบบไม่มีฟองและมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองผิวอย่างว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ และควรหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม กรดผลไม้ รวมไปถึงโฟมที่มีส่วนผสมของเม็ดบีสต์สครับเพราะอาจทำร้ายผิวให้ระคายเคืองได้

แนวทางการเลือกซื้อ โฟมล้างหน้า

แน่นอนว่าในท้องตลาดมีโฟมล้างหน้าหลากหลายแบบหลากหลายแบรนด์ ทำเอาบางทีก็สับสนได้ว่าเราจะเลือกใช้โฟมล้างหน้าแบบไหนให้ปลอดภัยใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งเราก็มีหลักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้ามาฝาก 3 แนวทาง คือ

1. เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว

อย่างที่กล่าวไปว่าสภาพผิวแต่ละประเภทก็มีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกัน เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพของผิวเรา เช่น ผิวแห้งที่ผิวขาดน้ำมันก็ควรใช้โฟมล้างหน้าที่ส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติและมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ขณะเดียวกันคนผิวมันก็ไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพราะจะยิ่งทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้นไปอีก

2. เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ตรงกับปัญหาผิว

นอกจากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวแล้วเรายังต้องเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ตรงกับปัญหาผิวหน้าของเราด้วย หากเรามีปัญหาผิวหมองคล้ำก็ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งหรือมีส่วนผสมของสครับหรือกรดผลไม้หรือกรดซาลิไซลิก เพราะจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้น เช่นเดียวกันคนที่มีปัญหาสิว ริ้วรอย กระ และอื่น ๆ ก็ควรจะเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ช่วยดูลรักษาปัญหาผิวหน้านั้น ๆ

3. หลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งตึง

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าโฟมล้างหน้าที่ใช้แล้วหน้าเกิดเสียงเอี๊ยดตอนถูกนั่นคือหน้าสะอาด แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะนั่นคือสัญญาณของการขาดความชุ่มชื้น เราควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังใช้ และควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีpH หรือค่าความเป็นกรด-ด่างเหมาะกับสภาพผิวของเราเพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง ที่สำคัญเลยความหลีกเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองผิวอย่าง สีสังเคราะห์ แอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน

วิธีใช้โฟมล้างหน้าอย่างถูกต้อง

1. ล้างทำความสะอาดมือให้สะอาด

2. หากแต่งหน้าควรเช็ดด้วยคลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางค์ก่อน

3. เปิดรูขุมขนก่อนล้างหน้าด้วยการล้างน้ำอุ่น หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วมาประคบวางบนผิวหน้า 2-3 นาที

4. บีบโฟมล้างหน้ามาถูวนบนฝ่ามือเพื่อลดแรงเสียดสีระหว่างใบหน้าและฝ่ามือ ทำให้ไม่เกิดริ้วรอย

5. ล้างและนวดหน้าตามแนวขน โดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนางทั้งสองข้างลูบไล้อย่างอ่อนโยน เริ่มจากกลางหน้าผากออกไปขมับทั้งสองข้าง แล้วมาที่บริเวณหัวตา จมูก เหนือริมฝีปากและคาง จากนั้นทำความสะอาดโหนกแก้มและหน้าแก้ม

6. ปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็น หลังจากล้างทำความสะอาดหน้าจดหมดจดแล้วให้ใช้น้ำเย็นล้างโฟมล้างหน้าออกอย่างเบามือ

7. ซับหน้าให้สะอาดควรใช้กระดาษหรือสำลีเช็ดหน้าค่อย ๆ ซับ ถ้าจะใช้ผ้าขนหนูแนะนำให้เปลี่ยนผ้าขนหนูทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย

ตอบโจทย์ทุกสภาพผิวด้วยผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าจาก Mesoestetic

ผลิตภัณฑ์จาก Mesoestetic เป็นเวชสำอางแบรนด์ระดับโลก ผ่านมาตรฐานการผลิตที่ทันสมัยและผ่านการรับรองคุณภาพ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารสกัดที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างตรงประสิทธิภาพ โดยผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าของ Mesoestetic มี 3 ตัวด้วยกัน

1. hydracream fusion

ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าแบบเนื้อครีมสูตรที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ช่วยทำความสะอาดผิวได้สะอาดล้ำลึกถึงระดับรูขุมขน ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวใช้แล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึง นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ post biotic ที่ได้จากกระบวนการหมัก Lactobacillus ช่วยปรับสมดุลค่า PH ให้กับผิว ลดการระคายเคืองผิว และยังมี Squalane น้ำมันสกัดจากธรรมชาติช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ที่สำคัญยังมีเทคโนโลยี Anti-pollution ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะในอากาศได้อีกด้วย

2. Brightening foam

brightening foam

ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าสูตรเพื่อมผิวกระจ่างใส ช่วยลดเลือนกระ ฝ้า จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เนื้อสัมผัสเป็นครีมเจลที่จะค่อย ๆ แตกตัวเป็นฟองนุ่ม ซอกซอนทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก สูตรนี้เหมาะกับผิวธรรมดาและผิวผสม มีส่วนผสมของ Glycolic Acid และ Lactic acid ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพรวมไปถึงสิ่งอุดตันตามรูขุมขนให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและแข็งแรงกว่าเดิม นอกจากนั้นยังมี postbiotic ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงลดการอักเสบระคายเคืองผิว

3. purifying mousse

purifying-mousse

ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าเนื้อมูสบางเบาสูตรอ่อนโยนเหมาะกับผิวมันและเป็นสิวง่าย ช่วยขจัดและควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันรูขุมขน นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี BIO-BALANCING ACTION ช่วยปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงลดการอักเสบระคายเคือง ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Chlorhexidine ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิว และยังมี Salicylic acid และ Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและลดการอุดตันรูขุมขน

อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเห็นความสำคัญของการล้างหน้าและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าอย่างถูกวิธีกันบ้างแล้ว ดังนั้นเราควรใส่ใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่มีคุณภาพและตอบโจทย์กับปัญหาละสภาพผิวของเราเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งานเท่านี้เราก็จะมีผิวหน้าสะอาดใสและสุขภาพดีขึ้นแล้ว