พาไปรู้จัก ผลไม้ช่วยลดความอ้วน ยอดนิยม มีอะไรบ้างที่คนลดน้ำหนักมักใช้เป็นตัวช่วย

การรักษาสุขภาพและการรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญมากๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลไม้มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดน้ำหนักอย่างมาก ไม่เพียงแต่ครบวงจรทางโภชนาการ แต่ยังมีประโยชน์มากมายอื่นๆ ที่ช่วยให้เราได้รับสุขภาพที่ดีอย่างแท้จริง

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปพบกับผลไม้ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในการลดน้ำหนัก โดยเน้นไปที่สารอาหารที่ช่วยในกระบวนการการเผาผลาญพลังงานของร่างกายและทำให้เรารู้สึกอิ่มและมีพลังงานที่เพียงพอในชีวิตประจำวัน

แอปเปิ้ล

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่น่าสนใจไม่เพียงเพราะรสชาติที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักอย่างมีคุณค่า โดยแอปเปิ้ลมีปริมาณแคลอรีต่ำเพียง 52 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก นอกจากแคลอรี่ต่ำแล้ว ยังมีใยอาหารสูง โดยแอปเปิ้ล 1 ลูก มีแคลอรี่เพียง 95 แคลอรี แต่มีใยอาหารสูงถึง 4.4 กรัม

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล

  1. แอปเปิลมีใยอาหารที่สูง ซึ่งมีลักษณะที่ช่วยเพิ่มความอิ่ม ลดความหิว และช่วยในกระบวนการขับถ่ายอย่างปกติ ทำให้เกิดการลดน้ำหนักอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใยอาหารในแอปเปิ้ลจะแบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
    • ใยอาหารละลายน้ำ (Soluble Fiber)
      • เปคติน (Pectin) คือ ใยอาหารละลายน้ำที่พบมากในผลไม้ มีคุณสมบัติที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
      • กัวร์กัม (Guar Gum) นอกจากการช่วยในการลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
    • ใยอาหารไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber)
      • เซลลูโลส (Cellulose): ใยที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการขับถ่ายและลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร
      • ฮีมีเซลลูโลส (Hemicellulose): ช่วยในกระบวนการเพิ่มปริมาณของการขับถ่าย และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นท้องผูก
  2. แอปเปิลมีปริมาณวิตามินหลากหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย
    • วิตามิน C สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
    • วิตามิน A ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
    • วิตามิน K ช่วยในกระบวนการแข่งตัวของเลือดและป้องกันการเกิดภาวะเลือดออกง่าย
    • วิตามิน B-complex ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
  3. แอปเปิลมีแร่ธาตุหลายชนิดที่สำคัญต่อสุขภาพ
    • แคลเซียม (Calcium) ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดในระดับที่เหมาะสม
    • โพแทสเซียม (Potassium) ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
    • แม็กนีเซียม (Magnesium) ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
    • เหล็ก (Iron) ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและป้องกันโรคเลือดเสื่อม
  4. แอปเปิลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลายชนิด
  5. กรดไฮโดรซีติกที่มีอยู่ในแอปเปิลมีความสามารถในการลดความอยากอาหารและส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน
  6. สารฟลาโวนอยด์ สารอาหารที่มีประสิทธิภาพในการลดความอ้วน ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมัน

ลำไย

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

ลำไย (Litchi chinensis) เป็นผลไม้ต้นเตี้ยที่มีกลิ่นหอมหวานและรสชาติหวานเปรี้ยวอันนุ่มนวล ที่เรียกว่า “ผลไม้ที่มีรสหวานที่ดีที่สุด” ลำไยไม่เพียงแต่อร่อยและฉ่ำ แต่ยังเป็นตัวแทนของผลไม้ไทยที่มีสารอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากลำไยมีปริมาณแคลอรี่ที่น้อยมาก ประมาณ 66 แคลอรีต่อ 100 กรัมของผลสด

ประโยชน์ของลำไย

  1. น้ำในลำไย มีคุณสมบัติทางเคมีที่ทำให้มีลักษณะเป็นน้ำตาลน้อยหรือน้ำตาลอัลดิโตสน้อย ช่วยเพิ่มความอิ่ม ลดความหิว และช่วยให้รู้สึกอิ่มชิดลง นอกจากนี้ ยังช่วยลดการบริโภคอาหารอื่นๆ ในมื้อหลังนั้น
  2. แคลเซียม (Calcium) ช่วยในกระบวนการแข็งกระดูกและฟัน ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงในขณะที่มีการลดน้ำหนัก
  3. แม็กนีเซียม (Magnesium) ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายมีการควบคุมน้ำหนักได้ดี.
  4. โพแทสเซียม (Potassium) ช่วยลดการสะสมของน้ำในร่างกายและลดความบวม
  5. วิตามิน C (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและส่งผลต่อการลดน้ำหนัก
  6. ไฟเบอร์ (Fiber) ช่วยให้รู้สึกอิ่มมากขึ้น ลดความหิวและช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร
  7. นีเอซี (Niacin) ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและช่วยในกระบวนการลดน้ำหนัก
  8. วิตามินบี6 (Vitamin B6) มีบทบาทในกระบวนการสร้างพลังงานและควบคุมการเผาผลาญไขมัน
  9. วิตามินพี (Bioflavonoids) เป็นสารที่ช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักและมีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ฝรั่ง

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่น่าสนใจที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังมีน้อยแคลอรีทำให้เป็นอาหารที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังรักษาน้ำหนักหรือต้องการควบคุมปริมาณแคลอรีที่บริโภค ฝรั่งขนาดเล็กประมาณ 100 กรัม มีปริมาณแคลอรีประมาณ 52 แคลอรี และยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตประมาณ 14 กรัมต่อ 100 กรัม

ประโยชน์ของฝรั่ง

  1. ใยอาหารสูง ฝรั่งมีปริมาณใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มความอิ่ม ลดความหิว และช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร
  2. น้ำตาลธรรมชาติ มีน้ำตาลธรรมชาติที่ไม่เสี่ยงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง โดยน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในฝรั่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่มีรสหวานและความหอมหวานธรรมชาติ น้ำตาลนี้เกิดจากกระบวนการทางชีวภาพที่เกิดขึ้นในผลไม้เมื่อสุกแก่ และมีความแตกต่างกันไปตามพันธุกรรมของพืชและสภาพแวดล้อม บางสายพันธุ์ของฝรั่งอาจจะมีรสหวานที่หลายโปรไฮดร็อกซี (Prohydroxydecenoic acid) ซึ่งมีผลให้มีรสหวานที่เด่นชัดขึ้น
  3. วิตามิน C มีปริมาณวิตามิน C ที่สูง ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและส่งผลต่อการลดน้ำหนัก
  4. วิตามิน A และ วิตามิน K ทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานได้ดี.
  5. แคลเซียม ช่วยในกระบวนการต่อต้านการขาดแคลเซียมและมีส่วนในการควบคุมน้ำหนัก
  6. แม็กนีเซียม ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  7. ไฟเบอร์ ช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
  8. โฟเลตต์ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนัก
  9. เพลทิน ช่วยลดความอยากอาหาร

กีวี่

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่น่าสนใจที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังมีน้อยแคลอรีทำให้เป็นอาหารที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังรักษาน้ำหนักหรือต้องการควบคุมปริมาณแคลอรีที่บริโภค ฝรั่งขนาดเล็กประมาณ 100 กรัม มีปริมาณแคลอรีประมาณ 52 แคลอรี และยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตประมาณ 14 กรัมต่อ 100 กรัม

ประโยชน์ของฝรั่ง

  1. ใยอาหารสูง ฝรั่งมีปริมาณใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มความอิ่ม ลดความหิว และช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร
  2. น้ำตาลธรรมชาติ มีน้ำตาลธรรมชาติที่ไม่เสี่ยงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง โดยน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในฝรั่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่มีรสหวานและความหอมหวานธรรมชาติ น้ำตาลนี้เกิดจากกระบวนการทางชีวภาพที่เกิดขึ้นในผลไม้เมื่อสุกแก่ และมีความแตกต่างกันไปตามพันธุกรรมของพืชและสภาพแวดล้อม บางสายพันธุ์ของฝรั่งอาจจะมีรสหวานที่หลายโปรไฮดร็อกซี (Prohydroxydecenoic acid) ซึ่งมีผลให้มีรสหวานที่เด่นชัดขึ้น
  3. วิตามิน C มีปริมาณวิตามิน C ที่สูง ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและส่งผลต่อการลดน้ำหนัก
  4. วิตามิน A และ วิตามิน K ทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานได้ดี.
  5. แคลเซียม ช่วยในกระบวนการต่อต้านการขาดแคลเซียมและมีส่วนในการควบคุมน้ำหนัก
  6. แม็กนีเซียม ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  7. ไฟเบอร์ ช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
  8. โฟเลตต์ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนัก
  9. เพลทิน ช่วยลดความอยากอาหาร

อะโวคาโด

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีกำเนิดที่ภูมิภาคเขตแคริบเบียนใต้ของเม็กซิโก นั่นคือ ภูมิภาคที่ประกอบด้วยรัฐเบรากรุซ และกัวนาฮัวโต เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 พุ่มอะโวคาโดถูกนำมาปลูกในชลบุรีโดยมิชอบสถานที่ที่มีพื้นที่ร่มเงาและอากาศเย็น เช่น ในพื้นที่ของตำบลบ่อปลาทอง และตำบลนาจอมเทียน จังหวัดชลบุรี

และที่สำคัญภายนอกของอะโวคาโดที่เป็นสีเขียว หลายคนอาจจะคิดว่าจัดอยู่ในหมวดหมู่ของผัก แต่จริงๆ แล้วถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของผลไม้ แต่อะโวคาโดมีเมล็ดอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในผลไม้ อะโวคาโดจัดอยู่ในวงศ์ Lauraceae ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับอบเชยและกระวานซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมในการบริโภคในประเทศไทยอย่างแพร่หลาย โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยดังนี้

  1. กระแสสุขภาพ ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้การรับประทานผลไม้และผักเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีสูง ช่วยลดคอเลสเตอรอล และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ
  2. ความนิยมในสื่อโซเชียล อะโวคาโดมักถูกนำเสนอในสื่อโซเชียล เช่น อินสตาแกรม ยูทูป ในฐานะของอาหารเพื่อสุขภาพ ส่งผลให้ผู้คนเริ่มรู้จักอะโวคาโดมากขึ้น และหันมารับประทานกันมากขึ้น
  3. ความสะดวกในการหาซื้อ ปัจจุบันอะโวคาโดหาซื้อได้ง่ายขึ้นตามห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทำให้มีผู้คนหันมารับประทานกันมากขึ้น

ประโยชน์ของอะโวคาโด

  1. มีไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fats) อะโวคาโดมีไขมันโมโนไซแตร์และไขมันโปลีอินอลีน ซึ่งเป็นประเภทของไขมันที่ดีต่อร่างกาย มันช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล “คอเลสเตอรอลเลว” ในเลือด และส่งผลดีต่อหัวใจ
  2. ใยอาหาร (Dietary Fiber) อะโวคาโดมีใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร มันช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือด และเพิ่มความเต็มหนาและความอิ่ม.
    • วิตามินและแร่ธาตุในอะโวคาโด ที่มีส่วนช่วยในร่างกาย
      • วิตามินเอ (Vitamin A) สำหรับการรักษาสายตาและผิวพรรณที่สมบูรณ์.
      • วิตามินเค (Vitamin K) สำคัญสำหรับกระบวนการแข็งตัวของเลือด ช่วยให้เลือดไหลช้า
      • วิตามินเบี้ยน (Vitamin B) รวมถึง B5 (กรดพันโทเทนิก), B6 (ไพริโดกซีน), B9 (กรดโฟลิคแอซิด), และ Biotin ที่มีบทบาทในกระบวนการสร้างพลังงานและการสร้างเนื้อเยื่อ
      • วิตามินซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
      • วิตามินอี (Vitamin E) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อจากความเสียหาย
      • โพแทสเซียม (Potassium) ช่วยลดความดันโลหิตและควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
      • แมกนีเซียม (Magnesium) สำคัญสำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อ รวมถึงการเผาผลาญพลังงาน
      • เซเลเนียม (Selenium) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อจากความเสียหาย
      • เหล็ก (Iron) สำคัญสำหรับการสร้างเซลล์เลือดแดง
      • แคลเซียม (Calcium) สำคัญสำหรับการสร้างกระดูกและฟันแข็งแรง
    • สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
    • ไขมันที่ช่วยในการดูแลผิวพรรณ (Skin-Friendly Fats) ไขมันในอะโวคาโดช่วยให้ผิวมีความนุ่มนวลและชุ่มชื้น
    • ไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนัก (Weight-Loss Friendly Fiber) ใยอาหารช่วยเพิ่มความอิ่มและลดความหิว
    • สารช่วยขับถ่าย (Natural Laxative) ใยอาหารช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้

แก้วมังกร

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

แก้วมังกรเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์กระบองเพชร (Cactaceae) มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกและอเมริกากลาง มีลักษณะเป็นลูกกลมหรือรีบและมีเปลือกแข็งสีเขียวหรือแดง มีใบที่เป็นลายเส้นตามยาวและมีดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอม ลักษณะทั่วไปของแก้วมังกรจะมีดอกสีขาว แต่มีรูปแบบที่มีดอกสีแดงหรือสีชมพูบางประการ ลูกของแก้วมังกรมีเนื้อฉ่ำน้ำ และมีเมล็ดเล็กๆที่สามารถทานได้ บางสายพันธุ์ของแก้วมังกร จะมีสีเปลือกและเนื้อที่แตกต่างกันไป สีเปลือกที่พบบ่อยได้แก่ แดง ชมพู และเขียว นอกจากนี้ยังมีแก้วมังกรที่มีเปลือกสีขาว และเมล็ดสีดำ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษ

            แก้วมังกรมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้แก้วมังกรเป็นที่นิยมในการบริโภคสดหรือนำมาทำเป็นเบเกอรี น้ำผลไม้ เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก โดยแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ แก้วมังกร 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 66 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วยน้ำ 85.4 กรัม โปรตีน 1.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม และไขมัน 0 กรัม

วิธีการใช้แก้วมังกรในการลดน้ำหนัก

  1. บริโภคแก้วมังกรเป็นอาหารว่าง ทานแก้วมังกรเป็นอาหารว่างที่เป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งจะช่วยลดความหิวและบรรเทาความอิ่ม
  2. เพิ่มลงในเมนูอาหาร สามารถเพิ่มแก้วมังกรลงในเมนูอาหารหลายๆ ชนิด เช่น ผลไม้สด, น้ำผลไม้, ซุปผัก, หรือผัดผัก
  3. ทำเป็นสลัด ใส่แก้วมังกรลงในสลัดเพื่อเพิ่มรสชาติและความหนุ่มนวลในเมนู
  4. ทำเป็นน้ำผลไม้ ปั่นแก้วมังกรเป็นน้ำผลไม้เพื่อรับประทานในรูปแบบของเครื่องดื่ม
  5. ทำเป็นอาหารหวาน ใช้แก้วมังกรในการทำอาหารหวาน เช่น พุดดิ้ง, ไอศกรีม, หรือเค้ก
  6. ทานแก้วมังกรด้วยโปรตีน ควรรับประทานแก้วมังกรพร้อมกับโปรตีนเพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มมากขึ้น
  7. ไม่ใช้น้ำตาลเพิ่ม ควรลดการใส่น้ำตาลในอาหารที่ใส่แก้วมังกรเพื่อไม่ให้เพิ่มแคลอรี่

กล้วย

ผลไม้ช่วยลดความอ้วน

ผลไม้คู่บ้านคู่เมืองไทยอย่างกล้วย ก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากมีลักษณะทางโภชนาการที่ช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักได้ ในประเทศไทยมีหลายชนิดของกล้วยที่นิยมรับประทาน โดยบางชนิดมักจะนิยมมากกว่าอีกบางชนิด โดยจำแนกได้ 7 ชนิดได้แก่

  1. กล้วยหอม (Cavendish) กล้วยหอมเป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อหอมนุ่ม รสหวาน และมีสีเหลืองสด
  2. กล้วยไข่ (Egg Banana) กล้วยไข่มีลักษณะทรงลูกไข่ มีเนื้อนุ่ม รสหวาน และมีเมล็ดขนาดเล็ก
  3. กล้วยน้ำว้า (Lady Finger) กล้วยน้ำว้ามีลักษณะทรงบุญทวี มีเนื้อนุ่ม รสหวาน และมีเมล็ดเล็ก
  4. กล้วยน้ำหว้า (Nam Wah) กล้วยน้ำหว้ามีลักษณะทรงลูกหว้า มีเนื้อนุ่ม รสหวาน และมีเมล็ดขนาดเล็ก
  5. กล้วยไทย (Thai Banana) กล้วยไทยมีลักษณะทรงและขนาดที่หลากหลาย มีรสหวานและเนื้อนุ่ม
  6. กล้วยหักเห (Pisang Awak) กล้วยหักเหมีลักษณะทรงและขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ มีรสหวานและเนื้อหนืบ
  7. กล้วยหินอ่อน (Rock Banana) กล้วยหินอ่อนมีลักษณะทรงโกน มีรสหวานและเนื้อหนืบ

ประโยชน์ของกล้วย

  • เป็นแหล่งพลังงานที่ดี กล้วยมีคาร์โบไฮเดรตสูง เป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารว่างหรือหลังออกกำลังกาย
  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด กล้วยมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจ กล้วยมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยป้องกันโรคท้องผูก กล้วยมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
  • ช่วยบำรุงสมอง กล้วยมีวิตามินบี 6 ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กล้วยมีวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

นอกจากนี้ กล้วยยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด เป็นต้น

บอกลาไขมันส่วนเกิน เผยผิวสวยเป๊ะด้วยด้วย Bodyshock celluxpert

Bodyshock celluxpert

เคยไหม? รู้สึกอึดอัดกับไขมันส่วนเกินบนร่างกาย อยากกำจัดให้หมดไป แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หรือเคยลองวิธีลดน้ำหนักมาหลายวิธีแล้ว แต่ไม่เห็นผล Bodyshock celluxpert เจลครีมนวดขจัดเซลลูไลท์ ป้องกันและลดเลือนผิวเสีย สลายไขมัน และยังช่วยให้ผิวกระชับ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

มีกลิ่นหอมสดชื่น (aroma) ขณะใช้มีหัวสำหรับนวด (headpiece) ประกอบด้วยลูกกลิ้งขนาดเล็กทำจากแก้ว ช่วยเพิ่มการซึมผ่านของสารออกฤทธิ์เพื่อผลลัพธ์สูงสุดใช้บริเวณที่มีเซลลูไลท์ เช่น ต้นขา สะโพก ก้น เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง สารสกัด brassica alba และ Capsaicin สารสกัดจากดอกบราซิกาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ และแคปไซซินสารสกัดที่ได้จากพริกแดงช่วยเพิ่มอุณภูมิในร่างกายเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน การศึกษาการใช้ brassica alba และ Capsaicin 2 % เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ช่วยลดเซลลูไลท์ ผิวดูเรียบขึ้น

การเลือกทานผลไม้ที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญของการลดน้ำหนักและรักษาสุขภาพที่ดี เนื่องจากมีประโยชน์ทั้งในด้านสารอาหารและการควบคุมน้ำหนัก แต่อย่างไรก็ตามควรระวังปริมาณและลักษณะของผลไม้ที่บริโภคเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก