เคล็ดลับกำจัด “สิวหัวดำ” คืนความเนียนใสให้กับผิวอีกครั้ง

“สิวหัวดำ” (Blackheads) อีกหนึ่งปัญหาผิวหน้าที่ไม่เพียงทำให้หน้าไม่เรียบเนียน แต่จุดดำๆที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวยังทำให้เกิดความรำคาญใจ จนทำให้หลายคนอดใจไม่ได้ คอยแคะ แกะ เกา พยายามที่จะนำหัวสิวออกมาจนลุกลามนำไปสู่การติดเชื้อ กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด สิวหัวดำคืออะไร?อะไรคือสาเหตุและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิด? สิวหัวดำมักเกิดบริเวณไหน? ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง? และถ้าไม่อยากเป็นสิวหัวดำจะมีวิธีป้องกันหรือข้อควรระวังอย่างไร? วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อไขความกระจ่างทุกเรื่องเกี่ยวกับสิวหัวดำมาฝากกัน

สิวหัวดำคืออะไร

“สิวหัวดำ” (Blackheads) เป็นสิวประเภทหนึ่งของสิวอุดตันแบบหัวเปิด  ซึ่งถ้ามองลึกลงไปภายในรูขุมขนจะประกอบได้ด้วยเส้นขนและต่อมไขมันที่จะทำหน้าที่ในการผลิตซีบัม (Sebum) หรือน้ำมันออกมาเพื่อรักษาผิวให้นุ่มชุ่มชื้น พร้อมทั้งสร้างเกราะป้องกันผิวให้มีความแข็งแรง เมื่อเซลล์ผิวหนังชั้นนอกรวมกับซีบัมหรือไขมัน และสิ่งสกปรกต่างๆรวมตัวกันไปสะสมอยู่ในรูขุมขนก็จะทำให้เกิดการอุดตัน ในระยะแรกหัวสิวของสิวอุดตันหัวดำจะมีลักษณะสีขาวเหลือง และจะเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากการสัมผัสกับอากาศภายนอก เราเรียกกระบวนการนี้ว่า ออกซิเดชั่น (oxidation) จึงเกิดเป็นสิวหัวดำ ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆแข็ง นูน สีดำขึ้นบริเวณใบหน้าและผิวหนังส่วนต่างๆของร่างกาย เป็นสิวประเภทที่ไม่มีการอักเสบ ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส แต่เนื่องจากสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจึงทำให้ผู้ที่เป็นสิวประเภทนี้เกิดความวิตกกังวลและรำคาญใจเนื่องจากสีที่มองเห็นได้ชัดและกำจัดได้ยาก

บริเวณที่มักเกิดสิวหัวดำ

บริเวณที่เกิดสิวหัวดำ มักเป็นบริเวณที่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งสิวหัวดำเม็ดใหญ่และสิวอุดตันประเภทอื่นๆตามมาได้ด้วย โดยบริเวณที่พบสิวหัวดำได้บ่อย มีดังต่อไปนี้

  • บริเวณหน้าผาก สิวหัวดำมักเป็นปัญหาในผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม ซึ่งบริเวณผิวทีโซน(T-Zone) ในส่วนของหน้าผากจะมีความมันมากกว่าผิวบริเวณอื่น เพราะมีต่อมไขมันอยู่มาก และเมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว เหงื่อก็จะถูกระบายออกผ่านรุมขน มีแนวโน้มที่ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกที่มากับเหงื่อ และเมื่อเข้าไปอุดตันในรูขุมขน จึงเกิดเป็นสิวหัวดำ นอกจากนั้นยังพบสิวหัวดำบริเวณหน้าผากค่อนข้างมากในผู้ที่ไว้ผมม้าอีกด้วย
  • บริเวณจมูก เป็นอีกหนึ่งจุดที่มองเห็นสิวหัวดำได้ชัดเจนที่สุด เนื่องจากจมูกเป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า และในบริเวณนี้ยังมีต่อมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก และยิ่งไปกว่านั้นรูขุมขนที่จมูกก็กว้างกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า และถ้าหากรูขุมขนเกิดการอุดตันขึ้นมาก็สามารถทำให้เกิดสิวหัวดำเม็ดใหญ่กว่าบริเวณอื่นได้ นอกจากนั้นอาจมีสิวเสี้ยนแทรกอยู่ในรูขุมขนเดียวกับสิวหัวดำด้วย โดยเฉพาะในบริเวณปลายจมูก มักจะมีจุดสีดำเล็กๆ ซึ่งเป็นบริเวณที่นิยมใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนดำทำความสะอาดรูขุมขนในส่วนนั้น
  • บริเวณแก้ม บริเวณแก้มมักเป็นจุดที่อาจสัมผัสกับสิ่งของบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดหน้า ที่นอน โทรศัพท์มือถือ หรือหน้ากากอนามัยที่ต้องใส่ตลอดทั้งวัน ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ โดยเฉพาะในช่วงเนินแก้มซึ่งเป็นจุดที่ผิวค่อนข้างมีความมันเป็นพิเศษและมีโอกาสที่จะสัมผัสกับฝุ่นและแสงแดดค่อนข้างมาก ทำให้เกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวหัวดำขึ้น
  • บริเวณแผ่นหลัง เนื่องจากแผ่นหลังเป็นบริเวณที่มีเหงื่อและต่อมไขมัน รูขุมขนกว้างและอับ เนื่องจากอยู่ใต้ร่มผ้า เป็นจุดที่ยากต่อการทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง  ซึ่งโดยปกติแล้ว เซลล์ผิวหนังมักถูกผลัดออกและมีเซลล์ผิวใหม่เข้ามาแทนที่ แต่การทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง อาจทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไม่หลุดออกมาและไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน เกิดเป็นสิวหัวดำในที่สุด นอกจากนั้นสิวหัวดำที่เกิดบริเวณหลังก็สามารถพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้ เพราะมีการเสียดสีกับเสื้อผ้าอยู่ตลอดเวลา
  • บริเวณหน้าอก ที่บริเวณหน้าอก เป็นจุดหนึ่งที่มีความอับชื้น จึงสามารถทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและกลายเป็นสิวหัวดำได้ในที่สุด

สิวหัวดำเกิดจากอะไร

การอุดตันในรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวหัวดำ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

  • การผลัดเซลล์ผิว
    โดยปกติร่างกายของคนเราจะมีวงจรการผลัดเซลล์ผิวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในบางครั้งเซลล์ผิวชั้นนอกอาจเกิดการผลัดเซลล์และหลุดลอกไปติดอยู่บนผิวและเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน รวมกับน้ำมันส่วนเกิน และเส้นขนเล็กๆบนผิวจนทำให้เกิดสิวหัวดำ
  • ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่คงที่
    ระบบฮอร์โมนในร่างกายสามารถส่งผลต่อน้ำมันที่เคลือบผิวเอาไว้ สังเกตง่ายๆในช่วงที่เป็นประจำเดือนผิวหน้าอาจแห้งหรือผิวมันมากกว่าปกติตามสภาพผิวของแต่ละคน รูขุมขนกว้างขึ้น สามารถทำให้เกิดการอุดตันของผิวได้โดยง่าย
  • การล้างหน้าไม่สะอาด
    ความมันที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ไม่สามารถชำระออกได้หมดด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงเท่านั้น และอาจจะทำให้สิ่งสกปรก ทั้งจากมลภาวะ ฝุ่น ครีมกันแดด เครื่องสำอางไปรวมตัวกับน้ำมันที่ยังค้างอยู่บนผิว ทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวหัวดำได้
  • ความเครียด
    ความเครียดเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน สร้างผลกระทบต่อสภาพผิวโดยตรง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง
  • การโกนขนบนใบหน้า
    การใช้มีดโกนเพื่อโกนขนเส้นเล็กๆบนใบหน้า ที่ไม่ใช่หนวดหรือเครา อาจทำให้ขนเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในรูขุมขน จนกลายเป็นสิวหัวดำได้

วิธีการรักษาสิวหัวดำ

เนื่องจากสิวหัวดำไม่ได้มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้ร่างกายไม่เกิดปฏิกิริยาตอบสนองเพื่อนำเชื้อโรคออกจากร่างกาย เพราะฉะนั้นการรักษาสิวหัวดำควรจัดการที่ต้นเหตุและสิวอุดตันก็จะช่วยให้สามารถรักษาสิวหัวดำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป มีวิธีการรักษาหลายวิธี ดังต่อไปนี้

  • การใช้ยารักษาสิวหัวดำ เนื่องจากสิวหัวดำ เป็นสิวที่ไม่มีการอักเสบ ยาที่ใช้ในการรักษาโดยส่วนใหญ่ เป็นยากลุ่มที่ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออกอย่างอ่อนโยน เพื่อเร่งให้สิวหัวดำหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น โดยไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิว กระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นใหม่เกิดได้เร็วขึ้น ทั้งยังป้องกันและลดการอักเสบ รวมถึงการต้านเชื้อเพื่อไม่ให้สิวหัวดำพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้  กลุ่มยาที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่
  • กรดเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์(Benzoyl Peroxide) เป็นยาที่ช่วยในการลดอาการบวม บรรเทาตุ่มหนองของสิวอักเสบ พร้อมทั้งช่วยต้านการเกิดเชื้อแบคทีเรียในสิวได้ด้วย ซึ่งยาทาสิวส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของยาในกลุ่มนี้เป็นพื้นฐาน ที่ถึงแม้จะได้มีฤทธิ์ในการรักษาสิวหัวดำได้โดยตรง แต่ก็ช่วยไม่ให้สิวหัวดำกลายเป็นสิวอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อได้
  • กรดซาลิไซลิก (salicylic acid) ในกรณีที่ใช้ยาที่มีสารประกอบของกรดเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์(Benzoyl Peroxide) ไม่ได้ผล แพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ยาในกลุ่มกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) มีคุณสมบัติที่ช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรก รวมทั้งฝุ่นจากมลภาวะ เครื่องสำอางและครีมกันแดดที่มีแนวโน้มในการเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ทำให้เกิดเป็นสิวหัวดำ แต่อาจจะมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น เกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ และถ้าหากมีอาการดังกล่าวควรหยุดใช้ยาทันที
  • สารประกอบเรตินอยด์ (retinoids) สารประกอบเรตินอยด์ (retinoids) เป็นยากลุ่มอนุพันธุ์วิตามินเอ ที่ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดการคั่งค้างของน้ำมันในรูขุมขน ทำให้โอกาสเกิดสิวหัวดำลดลง ช่วยรักษาสิวที่ดื้อยาได้ โดยสามารถช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขน ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยเสริมให้ยารักษาสิวตัวอื่นๆสามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
  • กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) ออกฤทธิ์ช่วยลดการอุดตัน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ทั้งยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ใช้รักษาสิวอุดตันหัวดํา อีกทั้งยังช่วยลดรอยดำจากสิวได้ด้วย
  • การกดสิวหัวดำให้ออกมา การกดสิว เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้สิวหัวดำหลุดออกมาจากผิวหนังได้เร็วขึ้น เพราะหากสิวหัวดำไม่ยอมหลุดออกไปเองและอุดตันอยู่ในรูขุมขนเป็นเวลานาน อาจจะทำให้กลายเป็นหลุมสิวได้ในภายหลัง การกดสิวเหมาะกับสิวหัวดำแบบหัวเปิด เพราะจะช่วยทำให้สิวอุดตันหายไป สิวยุบลง ตัดต้นตอของปัญหาที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นสิวอักเสบ ซึ่งในการกดสิว ไม่แนะนำให้ทำเอง เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกิดการอักเสบและทิ้งรอยแผลเป็นหลังจากกดสิวได้ ควรทำกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้และประสบการณ์ด้านผิวหนัง เพื่อกำจัดสิวออกไปได้อย่างถูกวิธีเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาควบคู่กับการกดสิวเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาด้วย

เมื่อเป็นสิวหัวดำ เมื่อไรควรไปพบแพทย์ผิวหนัง

โดยปกติ ในการรักษาสิวหัวดำจะใช้เวลาในการรักษานานถึง 6-12 สัปดาห์ แต่ถ้าในกรณีที่มีสิวอุดตันเพิ่มมากขึ้น และสิวที่กำลังเป็นอยู่ก็ยังไม่หาย อาจจะต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อกดเอาสิวหัวดำออกมา ควบคู่กับการรักษาด้วยยาที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

การป้องกันสิวหัวดำ

ถึงแม้ว่าสิวหัวดำไม่ได้มีอันตรายที่ทำให้เกิดการระคายเคืองใดๆ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำหรือเกิดขึ้นใหม่ได้ และถ้าหากดูแลไม่ดีอาจจะทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาได้  ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาแต่ต้นเหตุ ควรกลับมาที่จุดเริ่มต้นในการดูแลรักษาผิวให้ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวหัวดำ และเพื่อป้องกันสิวหัวดำไม่ให้กลายเป็นสิวอักเสบในอนาคต ด้วยวิธีการต่างๆดังต่อไปนี้

  • ล้างหน้าให้สะอาด การล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง เป็นขั้นตอนแรกของการป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวดำ เพราะในแต่ละวัน ใบหน้าของเราต้องเผชิญทั้งฝุ่นควัน เครื่องสำอาง ครีมบำรุง ครีมกันแดด ที่อาจตกค้างเข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าให้สะอาด ก่อนล้างทำความสะอาด ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อล้างความมันส่วนเกินรวมถึงสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวหน้าออก ที่มีความอ่อนโยน ปราศจากสารต่างๆที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคือง จะช่วยลดโอกาสในการเกิดการอุดตันของสิวหัวดำหรือสิวประเภทอื่นๆได้ ส่วนในขั้นตอนการล้างหน้า ให้ล้างหน้า 2 รอบ โดยรอบแรกอาจจะล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดปกติ จากนั้นรอบที่ 2 ให้ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกอีกครั้ง จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้แปรงขัดหน้าที่มีขนอ่อนนุ่ม ขัดเบาๆ ช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน แต่ควรใช้เพียงสัปดาห์และครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองจากการขัดหน้ามากจนเกินไป
  • ไม่บีบสิว การบีบแกะ แคะ เกา เป็นการรบกวนรูขุมขนและผิวหน้า และที่สำคัญอาจจะทำเกิดสิวมากกว่าเดิม เพราะที่มือของเราเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิวหัวดำให้กลายเป็นสิวอักเสบและเป็นรอยแผลเป็นตามมาได้ รวมถึงการสครับผิวอย่างรุนแรง เพราะนั่นอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองและรอยแดง และถ้าหากจำเป็นต้องกดสิวที่อุดตันออกมา ให้เลือกกดกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน สกินแคร์ที่ใช้ควรได้คุณภาพและมาตรฐาน มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่อุดตันรูขุมขน และไม่หลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง รวมถึงผลิตภัณฑ์บางอย่างที่อ้างว่ามีส่วนประกอบของแอลกอฮอลล์ เมนทอล และยูคาลิปตัสที่สามารถรักษาสิวหัวดำได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว ส่วนผสมที่รุนแรงเหล่านี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันภายในผิวได้ง่ายกว่าเดิม
  • การผลัดเซลล์ผิว การผลัดเซลล์ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติอย่าง AHA ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดไกลโคลิก และ BHA เช่นกรดซาลิไซลิก สามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป ทำให้หน้าเนียนใสมากขึ้น และยังทำให้รูขุมขนเล็กลงได้อีกด้วย
  • การมาส์กหน้า การมาส์กหน้าด้วยโคลนหรือถ่านสำหรับมาส์กหน้าโดยเฉพาะ จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีขึ้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกำจัดน้ำมันที่อุดตันอยู่ภายใต้รูขุมขนได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดการเกิดสิวหัวดำได้
  • การอบไอน้ำผิวหน้า การอบไอน้ำ เป็นการช่วยเปิดรูขุมขนและช่วยทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในรูขุมขนค่อยๆหลุดออกมา ทำให้ผิวหน้าสะอาดมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน หลายคนเข้าใจว่าการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนจะช่วยกำจัดสิวหัวดำหรือช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ แต่ช่วยแค่ในระดับผิวชั้นบนเท่านั้น และอาจส่งผลให้ผิวในบริเวณนั้นแห้งและเกิดการะคายเคืองได้ เพราะต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมและเกิดการอุดตันของสิวหัวดำมากขึ้นด้วย

acnelan นวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์ในการป้องกันสิวอุดตัน

ภายใต้นวัตกรรม m.acne complex ที่ถูกพัฒนาโดย mesoestetic® ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ acnelan ที่ทำหน้าที่ต่อต้านสาเหตุทั้งหมดที่ก่อให้เกิดสิวทุกรูปแบบ โดยช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่จุดแรกเริ่มของการเกิดสิว คือในส่วนที่ควบคุมการผลิตน้ำมัน  ลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นที่มาของสิวหัวดำและสิวประเภทอื่นๆ ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหลังการเกิดสิว ทั้งรอยแดง รอยดำให้จงลงได้ไวอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ทุกตัวมีส่วนผสมของสารสกัดเข้มข้นที่เอื้อประโยชน์ต่อการยับยั้งเชื้อสิว โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว โดยช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดไขมัน สิ่งสกปรกที่อุดตันและตกค้างอยู่ตามรูขุมขน ที่เป็นที่มาของสิวหัวดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

“สิวหัวดำ” ภัยเงียบใต้ผิว ที่อาจจะไม่ได้เป็นสิวประเภทที่ร้ายแรง แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะกลายร่างเป็นสิวอักเสบลุกลามขึ้นมาได้ การพบแพทย์ผิวหนังยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ในกรณีที่ผิวหนังมีความมันที่มากกว่าปกติหรือมีปัญหาสิวประเภทอื่นๆร่วมด้วย เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยสภาพของผิวและให้คำแนะนำในการรักษาต่อไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเป็นสิวหัวดำ จะต้องได้รับการรักษาให้ถูกวิธีและเหมาะสม พร้อมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ที่จะช่วยรักษา ฟื้นฟู บำรุงได้อย่างตรงจุด

ใส่ความเห็น