จบปัญหาร่องแก้มลึก ให้ดูเด็ก อ่อนกว่าวัย

“ร่องแก้มลึก” ที่มาพร้อมกับริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นต่างๆบนใบหน้าในช่วงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงกระชากความอ่อนเยาว์แห่งวัยออกไป แต่ยังทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจได้อีกด้วย โดยเฉพาะคุณสาวๆทั้งหลาย ที่มักประสบพบเจอกับปัญหานี้ในวัย 30 ปีขึ้นไป ซึ่งในทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีด้านความงามที่ก้าวไกล ได้มีการคิดค้นสารพัดวิธีมากมายเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึกโดยเฉพาะ มีวิธีไหนที่จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ร่องลึกดูตื้นขึ้นได้บ้าง เพื่อแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ จะมีวิธีป้องกันแก้มให้ดูยกกระชับได้อย่างไร พร้อมเผยเทคนิคที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและร่องลึกใหม่ๆ ให้หน้าดูเด็กและอ่อนกว่าวัยขึ้นได้ บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจนานาประการนี้ด้วยกัน

ร่องแก้มคืออะไร

ร่องแก้ม (Cheek Groove) คือเนื้อเยื่อด้านบนที่หย่อนลงมากองเหนือร่องแก้ม โดยมีลักษณะเป็นเส้นเฉียงบริเวณข้างแก้มเหนือปากยาวลงมาจนถึงบริเวณมุมปาก เมื่อมีการแสดงสีหน้า ทำให้กล้ามเนื้อหลายมัดบริเวณกลางใบหน้าหดเกร็ง ยกมุมปากและแก้มของเราให้นูนขึ้น  “ร่องแก้ม” เป็นโครงสร้างทางธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ เนื่องจากใต้ผิวหนังในบริเวณนี้จะมีพังผืดยึดผิวติดไว้กับกระดูก(Buccal-maxxillary Ligament) ทำหน้าที่เป็นเหมือนลวดขึงยึดล็อคกับใบหน้าเอาไว้ ระหว่างส่วนที่เป็นแก้มและส่วนที่อยู่เหนือริมฝีปาก แต่จะมองเห็นได้ชัดหรือไม่ชัดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นในแต่ละคน  และส่วนที่ทำให้หลายคนสับสนคือร่องแก้ม(Cheek Groove) กับร่องน้ำหมาก (smile lines) ทั้งสองส่วนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน เนื่องจากร่องน้ำหมากคือรอยที่อยู่ข้างปากเรื่อยลงมายังบริเวณมุมปาก แต่ทั้งร่องแก้มลึกและร่องน้ำหมากก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยในขณะที่อายุเพิ่มมากขึ้นและเกิดความหย่อนคล้อยของสภาพผิว

สาเหตุของปัญหาร่องแก้มลึก

ปัญหาร่องแก้มลึกหรือรอยย่นที่แก้ม สามารถเกิดขึ้นได้ โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆดังต่อไปนี้

  • เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวลดและเสื่อมสภาพลง จากที่ผิวเคยเต่งตึง ยืดหยุ่น ทำให้เกิดเป็นริ้วรอย ร่องลึกได้ง่ายมากขึ้น
  • การสูญเสียปริมาตรบนใบหน้า (Facial Volume Loss) หมายถึงการที่กระดูก กล้ามเนื้อและไขมันยุบตัวลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เช่นการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา ส่งผลให้เนื้อของแก้มด้านบนหย่อนลงมากองเหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูลึก พบมากในคนที่มีอายุ30 ปีขึ้นไป หรือเกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง มักพบในคนที่มีอายุ 20-30 ปี
  • เป็นมาตั้งแต่กำเนิด
    เนื่องจากโครงสร้างใบหน้าของบางคนมีเอ็นยึดหน้า(Facial Ligament) ตรงบริเวณร่องแก้มที่มีความแข็งแรงมาตั้งแต่เกิด (Bucco Maxillary Ligament) โดยเป็นการยึดกระดูกกับเนื้อเยื่อชั้นผิว ทำให้เกิดการดึงผิวในบริเวณนั้นๆให้เป็นร่องลึกลงไป ทำให้เกิดร่องแก้มใกล้ปีกจมูกที่ค่อนข้างลึกและชัด
  • พฤติกรรมส่วนตัวที่ทำบ่อยๆจนทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มลึก เช่น การยิ้ม ,หัวเราะหรือการแสดงอารมณ์ทางใบหน้าบ่อยๆ ส่งผลให้มีการดึงกล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มมากจนเกินไป จนเห็นเป็นริ้วรอยข้างแก้มและที่มุมปาก
  • ความเครียด การพักผ่อนน้อย การสูบบุหรี่ สามารถทำลายได้ถึงระดับโครงสร้างของผิว ทำให้เกิดร่องแก้มลึกได้เช่นกัน
  • การหย่อนคล้อยของผิว เป็นลักษณะอาการที่แก้มหย่อนคล้อยลงมา จนทำให้เกิดการสูญเสียสมดุลใต้ผิว โดยเฉพาะความหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อบริเวณแก้มและใต้ตา (Midface Aging) ทำให้เอ็นยึดใบหน้าหย่อนยานทั้งปริมาณและคุณภาพ (Facial Ligament Laxity) ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณแก้มเกิดการเคลื่อนตัวมาที่จุดพังผืด(Ligament)ของร่องแก้ม ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและร่องแก้มลึกตามมา
  • เนื้อเยื่อไขมันสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง(Subcutaneous Fat / Superficial Fat) ทำให้เกิดชั้นไขมันที่มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น จากภาวะความอ้วน (Obesity)  ทำให้เนื้อบริเวณนั้นนูนขึ้นมา จึงทำให้แก้มเยอะและหย่อน ตกลงมาทับร่องแก้ม เห็นรอยต่อที่ชัดมากขึ้น
  • ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด รังสี UV มลพิษ มลภาวะ ฝุ่น ควัน ล้วนทำให้ชั้นผิวบางลง เกิดรอยพับของผิว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยร่องแก้มและความเหี่ยวย่นของผิวตามมา
  • การขาดสารอาหารประเภทโปรตีน ทำให้เนื้อเยื่อคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นเอ็นลดน้อยลง
  • โครงกระดูกบริเวณแก้มผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดการทรุดตัวจากการผ่าตัด/อุบัติเหตุ หรือการหมุนของกระดูกใบหน้าตามอายุของคนเรา(Counter Clockwise Rotation / Facial Bone) ก็เป็นได้

แก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก

ร่องแก้มลึกและริ้วรอยร่องแก้ม มีสารพัดวิธีในการแก้ปัญหาเพื่อให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ดังต่อไปนี้

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยร่องแก้มลึก
    ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยร่องแก้มลึก ไม่ว่าจะแบบครีมหรือเซรั่ม เหมาะสำหรับริ้วรอยและร่องตื้นๆ ซึ่งให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทAnti-Aging ที่สามารถช่วยลดทั้งริ้วรอย เร่งการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว พร้อมทั้งช่วยซ่อมแซมผิวให้เก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ได้

ข้อดี : การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้นด้วย ทั้งยังช่วยชะลอการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เป็นอย่างดี

ข้อจำกัด : เห็นผลช้า ไม่ทันใจ และต้องอาศัยความมีวินัยในการทาครีมอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญครีมดีๆมักมีราคาที่ค่อนข้างแพง

mesoestetic ขอแนะนำ energy c complex ซึ่งเป็นทรีทเม้นท์ฟื้นบำรุงผิวอย่างเร่งด่วนด้วยวิตามินซีเข้มข้น เหมาะกับผิวที่มีริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงปัญหาผิวหมองคล้ำ ซึ่งมีที่มาจากแสงยูวีที่มากับแสงแดด และโดนควันบุหรี่เป็นประจำ รวมถึงผิวที่มีสภาวะความเครียดด้วย ด้วยส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้น 10 % ที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปรับสภาพผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสารสกัดจากข้าวโอ๊ต (Osilifit) ที่ช่วยทำให้ผิวดูกระชับและลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง วิตามินอี ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย เพราะปราศจากสารอันตรายที่ทำร้ายผิว ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ ซิลิโคนและพาราเบน
energy c professional เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทเซรั่มทรีทเม้นท์ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย fine line ให้แลดูจางลง ให้ผิวดูเรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ โดยมีส่วนประกอบของอนุพันธ์วิตามินซี(10% ascorbyl glucoside) ที่มีความเสถียร ช่วยในการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยและช่วยปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง สารสกัดจากดอกคาเลนดูลา (Calendula officinalis Flower Extract) ช่วยในการปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคืองของผิว
ไฮไลท์ในการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่มีริ้วรอยจาก mesoestetic ที่ขาดไม่ได้คือ ha densimatrix  เป็นเซรั่มฟื้นบำรุงที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก ประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิกเข้มข้นที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่หลากหลาย เพื่อการบำรุงและปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง ด้วยสารสกัดจากรากต้นมาร์ชแมลโลว์(Mashmallow root extract) ที่ช่วยทำให้การคงอยู่ของกรดไฮยาลูโรนิกยาวนานขึ้น  สารสกัดจากหินมาลาไคต์(Malachite extract) ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยปกป้องการคงอยู่ของคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติในร่างกาย ทำให้ริ้วรอยจางลงและผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย

  • ใช้สมุนไพรลดร่องแก้ม
    สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยใช้สมุนไพรจากธรรมชาติที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวแลดูกระชับมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ขมิ้น มะเขือเทศ แต่งกวา มะขาม ว่านหางจระเข้ หรือน้ำผึ้ง เป็นต้น

ข้อดี : หาง่ายและง่ายต่อการใช้งาน ราคาไม่แพง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ๆได้

ข้อจำกัด : เห็นผลช้า และถ้าทำไม่ถูกวิธีหรือทำบ่อยจนเกินไปอาจทำร้ายผิวได้

  • การนวดลดร่องแก้ม
    การลดร่องแก้มลึกด้วยการนวด เป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาและยกกระชับ วิธีการคือใช้มือนวดคลึงบนใบหน้าเบาๆตามแนวกล้ามเนื้อมัดเล็กบนใบหน้า ทำเป็นประจำ ประมาณวันละ 10-15 นาที

ข้อดี : การนวดทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณใบหน้าได้ดี ทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง และยกกระชับ
ข้อจำกัด : ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุดนัก และต้องมีวิธีการนวดที่เฉพาะเจาะจง

  • ใช้สารเติมเต็มร่องริ้วรอย (ฟิลเลอร์ – Filler)
    สารเติมเต็มหรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของฟิลเลอร์(Filler) หรือไฮยาลูโรนิค แอซิด(Hyaluronic acid)  ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมร่องลึกได้ค่อนข้างดี โดยจะเข้าไปทำงานในบริเวณชั้นใต้ผิวเพื่อช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น เหมาะกับคนที่มีร่องแก้มลึกหรือรอยลึกบริเวณหน้าผาก ทั้งยังช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อดี : เห็นผลทันทีหลังทำ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อจำกัด : ควรเลือกฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อผิวอย่างมากมาย นอกจากนั้นผลจากการฉีดจะไม่คงอยู่ตลอดไป ต้องมีการเติมอยู่บ่อยๆ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และอาจเสี่ยงต่อการไหล ผิดรูปหากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ

  • ใช้โบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin)
    โบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่รู้จักกันในชื่อของโบท็อกซ์(Botox) ที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยยกกระชับแก้มและลดเลือนริ้วรอย รอยย่นต่างๆที่เกิดจากการแสดงสีหน้าทางอารมณ์ให้จางลงได้ใน 3-7 วัน ทั้งยังช่วยยกกรอบหน้าขึ้น เมื่อกรอบหน้ายก ร่องแก้มก็จะถูกยกตามไปด้วย ในบางกรณีนิยมใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าของแต่ละคน เพื่อเลือกใช้โบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ฉีดมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เวลาพูดคุย ยิ้ม หรือหัวเราะหน้าจะดูแข็งมากเกินไป

ข้อดี : เห็นผลเร็ว ราคาถูกเมื่อเทียบกับหัตถการทางการแพทย์อื่นๆ ไม่ต้องพักฟื้น  ทั้งยังสามารถป้องกันการก่อตัวของริ้วรอยใหม่ได้ด้วย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะฤทธิ์ของโบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวเพราะการขยับกล้ามเนื้อได้น้อยลง จึงทำให้ลดโอกาสในการเกิดริ้วรอยที่จะตามมาได้
ข้อจำกัด :
อาจจะมีการฟกช้ำจากการใช้เข็มฉีด เมื่อยหน้า หน้าแข็งดูไม่เป็นธรรมชาติ ออกฤทธิ์ได้ในระยะสั้นเพียง 4-6 เดือนเท่านั้น

  • ร้อยไหม
    การร้อยไหมยกกระชับหน้า เหมาะกับคนที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย และเมื่อแก้มถูกยกขึ้น ร่องแก้มก็จะถูกยกขึ้น โดยไหมที่ใช้จะเป็นไหมละลาย ที่ไม่มีสารตกค้างในร่างกายและผิวหน้า การร้อยไหมสามารถช่วยเสริมการฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นตื้น แต่แพทย์ไม่แนะนำให้ใช้ไหมเงี่ยงก้างปลาร้อยที่บริเวณร่องแก้มโดยตรง เพราะจะทำให้เนื้อขึ้นไปกองกันที่โหนกแก้ม ทำให้แก้มดูบวม หรือถ้าหากใช้ไหมเรียบเติมร่องแก้มให้เต็ม ก็จะต้องร้อยทับซ้อนกัน จะทำให้อีลาสตินทับกับพังผืดจนแข็งและทำให้ร่องแก้มไม่ได้รับการเติมเต็ม
  • การทำ Hifu ยกกระชับร่องแก้ม
    Hifu เหมาะกับคนที่มีร่องแก้มไม่ลึกมาก เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เพราะใช้คลื่นเสียงที่พัฒนามาจากอัลตร้าซาวด์ที่มีความปลอดภัยสูงยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อย เพิ่มความกระชับให้ผิวหน้า

ข้อดี : ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อจำกัด : เห็นผลไม่ชัดเจนและไม่เร็วเท่ากับการทำฟิลเลอร์

  • การทำ Ulthera
    เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถแก้ปัญหาได้หลายด้าน ทั้งในการยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น ช่วยลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปรับรูปหน้า เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า ช่วยยกแนวคิ้ว ยกหางตา เป็นต้น
  • การทำ Thermage
    เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก แก้มย้อยเนื่องจากมีไขมันสะสมมาก ช่วยยกกระชับผิวได้ดี มีความปลอดภัย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ไม่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การฉีดไขมันลดร่องแก้มลึก (Fat injection)
    การฉีดไขมันเป็นการนำเอาไขมันส่วนเกิดที่อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่นหน้าท้อง ต้นขาออกมาปั่นเพื่อแยกเซลล์ แล้วนำเอาไขมันที่มีคุณภาพดีมาฉีดในจุดที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มที่ลึก หน้าผากที่มีริ้วรอย หน้าผากแบน แก้มตอบ หรือใต้ตาลึก เป็นต้น ช่วยแก้ปัญหาคนที่สูญเสียปริมาตรของใบหน้า หรือหน้าไม่สมดุล

ข้อดี : ไม่เสี่ยงต่อการแพ้เพราะเป็นไขมันที่มาจากร่างกายของเราเอง ไม่เพียงทำให้ริ้วรอยจางลงและใบหน้าอวบอิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวดูสดใส มีชีวิตชีวา และมีความชุ่มชื้นมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์

ข้อเสีย : มักมีอาการบวมและมีแผลเขียวช้ำจากบริเวณที่นำไขมันออกมา อยู่ได้ไม่นาน 3-6 เดือนเท่านั้นและอาจจะต้องกลับมาเติมใหม่ อาจจะไม่เห็นผลทันทีหลังทำ หลังฉีดอาจเกิดภาวะผิวไม่เรียบ เนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไป จะถูกร่างกายนำไปใช้นั่นเอง

  • เลเซอร์ร่องแก้ม
    เป็นการใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีคลื่นความถี่สูง(Ultrasound) ยิงลงไปตามบริเวณจุดต่างๆที่มีปัญหาผิว เช่นรอยร่องแก้มลึก เหนียง หรือบริเวณหางตา โดยเลเซอร์จะทำงานในระดับลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้น ริ้วรอยจึงตื้นขึ้นและทำให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้นด้วย เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

ข้อดี : สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ข้อจำกัด : ราคาค่อนข้างสูง มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น บวมแดง เสียวแปลบบริเวณที่ทำ อยู่ได้ประมาณ1-2 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

  • การเสริมร่องแก้ม
    วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาการทรุดของกระดูกหรือการสูญเสียปริมาตรของใบหน้า เป็นวิธีการผ่าตัดเล็ก โดยนำวัสดุที่เรียกว่า ไบโอโพลิเมอร์(Biopolymer) ไปวางเอาไว้ในบริเวณที่มีปัญหากระดูกยุบตัว เนื่องจากตัววัสดุดังกล่าวมีลักษณะใกล้เคียงกับกระดูกของคนเรา แพทย์จะยึด ไบโอโพลิเมอร์ (Biopolymer)นี้ติดกับกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงในการเคลื่อนตัว แก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ดี และผลลัพธ์คงอยู่ถาวร

ข้อดี : เป็นการผ่าตัดเร็ว วัสดุคงทน อยู่ได้นาน แก้ปัญหาได้ตรงจุด

ข้อจำกัด : ราคาค่อนข้างสูง และต้องทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญเท่านั้น

  • การผ่าตัดดึงหน้า
    เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จากนั้น จึงตัดไขมันส่วนเกินออกเพื่อให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งในกระบวนการการผ่าตัดดึงหน้านั้นจะมีการดึงและเย็บชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ภายในด้วย ดังนั้น จึงส่งผลให้ริ้วรอย ร่องแก้มลึก และความหย่อนคล้อยของผิวดูกระชับขึ้น
    ข้อดี : สามารถแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก และผิวที่มีความหย่อนคล้อยมากๆได้ผลดี ทำให้หน้าดูเด็กลง เพราะเป็นการขยับผิวให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมที่มีความเหมาะสม

ข้อจำกัด : ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน และต้องฟักฟื้น เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีค่าใช้จ่ายสูง และมีข้อจำกัดในเรื่องปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด นอกจากนั้นยังเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นและแผลแบบคีลอยด์ และต้องทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญด้วย

  • การรับประทานอาหารเสริม
    การรับประทานอาหารเสริม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักโภชนาการและแพทย์บางกลุ่มให้ความสนใจโดยเน้นที่การป้องกันและการรักษาด้วยสารอาหารที่ออกฤทธิ์เป็นยา เช่นสารอาหารประเภทต้านอนุมูลอิสระ(Oral antioxidant) , กรดไขมันจำเป็น(Essental fatty acids) , โปรตีนสกัดจากปลาทะเล (Marine Protein) และ อัลฟาฟ่า (Alfalfa) ซึ่งมีการศึกษาและมีผลงานวิจัยระบุว่าช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นและสามารถต่อต้านริ้วรอยทำให้ดูตื้นขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรมีการศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด รวมถึงปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เนื่องจากลักษณะปัญหาผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัย และให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอีกด้วย

ข้อดี : หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งแบบเม็ด หรือแบบชงดื่ม รับประทานง่าย

ข้อจำกัด : ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ มีโอกาสที่สารตกค้างในร่างกายค่อนข้างสูง

วิธีป้องกันร่องแก้มลึก

ก่อนที่ร่องแก้มลึกและริ้วรอยจะมาเยือน มีวิธีป้องกันที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอพร้อมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ดังต่อไปนี้

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
    เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวทำลายผิวชั้นดี นอกจากจะทำให้ผิวดำคล้ำไม่สม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตามมามากมายอีกด้วย ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องออกแดด ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่าการปกป้องสูงให้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ และให้ปกป้องผิวด้วยการสวมหมวก ร่ม หรือสวมเสื้อคลุมให้มิดชิด เป็นต้น
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารบางอย่างได้ลดน้อยลง ควรเน้นผักใบเขียวและผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงเกลือแร่ที่จะทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น สดใส และคงความชุ่มชื้นภายในผิวไว้ได้
  • ดื่มน้ำสะอาด
    ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้ได้วันละ 5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ และทำให้ผิวสดใส แข็งแรง
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
    การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เลือดสามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้เป็นอย่างดี ทำให้หน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ ห่างไกลริ้วรอย แถมยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
    การนอนหลับพักผ่อน เป็นช่วงเวลาที่ระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเซลล์ผิว ดังนั้น การอดนอนบ่อยๆไม่เพียงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายด้วย และเพื่อเป็นการป้องกันริ้วรอยที่จะตามมา ควรนอนในท่าหงาย ให้หลีกเลี่ยงท่านอนตะแคงหรือนอนหันข้างบ่อยๆ เพราะจะทำให้ใบหน้าถูกกดทับให้เกิดรอยย่นลึกได้
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันและลดเลือนริ้วรอย
    ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันริ้วรอยแห่งวัยและช่วยยกกระชับผิว โดยเฉพาะในวัยที่อายุมากขึ้น ผิวควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน หรือสารประกอบไฮยาลูรอน ที่ช่วยเก็บกักรักษาความชุ่มชื้นของผิว ทั้งยังเป็นการเติมเต็มร่องลึกของผิวที่ร่องแก้มหรือบริเวณที่เหี่ยวย่นได้อีกทางหนึ่งด้วย
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก
    พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆที่สามารถทำให้เกิดร่องแก้มลึกหรือริ้วรอยแห่งวัยได้แก่ การอยู่ในภาวะความเครียดบ่อยๆและนานๆ การล้างหรือถูหน้าแรงๆ การล้างหน้าหรือเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้าไม่หมด การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ลึกกว่าเดิม

แน่นอนว่าในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีมากมายที่ถูกผลิตและออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของผิวพรรณ รวมถึงร่องแก้มลึกและริ้วรอยบนใบหน้า แต่เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการรักษา เป็นสิ่งที่จะต้องทำควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่องและมีวินัยคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆให้สอดคล้องประสานกัน ก็จะช่วยเสริมให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้นได้ เพื่อสร้างความมั่นใจ และทำให้คุณสามารถยิ้มสวยๆได้โดยไม่ต้องลังเลใจหรือกลัวริ้วรอยจะตามมา

ใส่ความเห็น