รอยดำรอยคล้ำใต้ตาที่ทำเอาหลาย ๆ คนหมดความมั่นใจเพราะว่าดูโทรมคล้ายกับตาแพนด้า เป็ยต้องหาคอนซีลเลอร์มากลบสร้างความมั่นใจกันให้วุ่น ยิ่งถ้าใครมีริ้วรอยร่องลึกเพิ่มมาด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งแก้ไขยากมากที่จะให้กลับมาเนียนใสได้ดังเดิม วันนี้เราลองมาทำความรู้จักลงลึกรายละเอียดเกี่ยวกับความหมองคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตากันให้มากขึ้นดีกว่าว่ามีสาเหตุเกิดมาจากอะไร แล้วมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง จะได้เป็นแนวทางในการดูแลผิวบริเวณดวงตาให้เนียนใส อ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติ
กลไกการเกิดรอยคล้ำใต้ตา
รอยคล้ำใต้ตา (dark circles) หรือภาวะ periorbital hyperpigmentation เป็นความผิดปกติของผิวหนังบริเวณรอบดวงตาที่จะมีสีคล้ำขึ้นกว่าปกติ สามารถเกิดไดด้ทั้งบริเวณเปลือกตาและใต้ตา หรือจะเกิดเฉพาะบริเวณใต้ตาเท่านั้นก็ได้ ซึ่งมักจะเกิดร่วมกับปัญหาถุงใต้ตา
กลไกของการเกิดรอยดำรอยคล้ำรอบดวงตาเกิดจากเส้นเลือดฝอยในชั้นผิวหนังแท้ขาดความยืดหยุ่นจนเกิดรอยรั่วทำให้เม็ดเลือดแดงซึมออกมา ทีนี้เมื่อเม็ดเลือดแดงหลุดออกจากหลอดเลือดก็จะแตกตัวเพราะความดันออสโมซิสที่เปลี่ยนแปลงไป ฮีโมโกลบินภายในเม็ดเลือดแดงก็จะถูกปล่อยออกมาด้วย ซึ่งเจ้าฮีโมโกลบินนั้นจะสลายตัวไปเป็นรงควัตถุสีเข้ม หรือบิลิเวอร์ดิน (biliverdin) แล้วไปสะสมอยู่ตามชั้นผิวเกิดเป็นรอยดำรอยคล้ำ ไม่เพียงเท่านั้นพาสม่าที่ซึมออกมาพร้อมกับเม็ดเลือดแดงก็จะเข้าสู่เนื้อเยื่อของผิวหนังทำให้เกิดการบวมน้ำจนเกิดเป็นถุงใต้ตาตามมา อย่างไรก็ตามบิลิเวอร์ดินนั้นสามารถถูกกำจัดได้ด้วยเอนไซม์ UGT ที่หลังออกมาจากเซลล์ผิว ถ้าเอนไซม์ UGT ทำงานเต็มประสิทธิภาพก็จะทำให้รอยดำใต้ตาเกิดได้น้อยลง
นอกจากนั้นแล้วรอยดำรอยคล้ำใต้ตายังเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ และปัจจัยภายนอกที่มากกระตุ้นการทำงานของเมลานิน เช่น แสงแดด รังสียูวี อนุมูลอิสระ เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นโรคบางชนิดก็ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา เช่น โรคภูมิแพ้ ภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปรอยคล้ำใต้ตานั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งความผิดปกติจากหลอดเลือด การทำงานผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่น ๆ ซึ่งในคน ๆ หนึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียวหรือจะเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุรวมกันก็ได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตา
- อายุ
สาเหตุหนึ่งของการเกิดรอยคล้ำใต้ตา เพราะเซลล์ผิวของเราจะเสื่อมลงไปตามวัยที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวลดน้อยลง เซลล์ผิวเก่าเสื่อมสภาพเร็วและผลัดตัวช้าลง อีกทั้งไขมันที่อยู่บริเวณผิวหนังใต้ดวงตาฝ่อตัว ทำให้มองเห็นเส้นเลือดและกล้ามเนื้อชัดขึ้น ทำให้ร่องตาลึกและเป็นรอยคล้ำขึ้นมาได้
- แสงแดด
เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่อ่อนโยนทำให้ถูกละเลยการทาครีมกันแดด เพราะกลัวว่าจะแพ้ระคายเคืองผิว ซึ่งสิ่งนี้เองกลายมาเป็นต้นเหตุของการเกิดรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินจนทำให้เกิดความหมองคล้ำขึ้นมาได้
- โรคบางชนิด
โรคบางชนิดอาจจะทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ โดยที่พบได้บ่อยก็คือโรคภูมิแพ้ อาการใต้ตาคล้ำถือเป็นหนึ่งในอาการแสดงของภูมิแพ้ที่มักจะมาพร้อมกับตาแห้ง ระคายเคืองในดวงตา ยิ่งเราเอามือไปขยี้ตาด้วยแล้วก็จะยิ่งกระตุ้นเม็ดสีผิวมากขึ้นทำให้ต้ตาคล้ำมาขึ้นด้วย
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายเหนื่อยล้าสะสม นอนน้อย นอนไม่พอ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารอยคล้ำใต้ตา เพราะจะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ตาขาดความยืดหยุ่นจนเกิดรอยรั่วทำให้เม็ดเลือดแดงซึมออกมาสะสมอยู่ตามชั้นผิวเกิดเป็นรอยดำรอยคล้ำ
- กรรมพันธุ์
หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาอาจมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมภายในยีนส์จากรุ่นสู่รุ่นได้ ใครที่มีบุคคลในครอบครัวงมีใต้ตาคล้ำก็อาจจะมีสีผิวใต้ตาที่เข้มและคล้ำ มักจะเป็นรอยคล้ำโค้งตามกระบอกตาตั้งแต่หนังตาล่างโค้งไปจนถึงหนังตาบน
- ปัจจัยอื่น ๆ
สาเหตุที่ทำให้ตาคล้ำอาจจะมาจากสาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไป เช่น การแพ้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ ผิวหนังแห้งจนต้องขยี้ตาบ่อย ๆ ภาวะโลหิตจาง การขาดสารอาหารบางชนิด รวมถึงความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงมีประจำเดือน หรือระหว่างตั้งครรภ์
การดูแลรักษาปัญหารอยคล้ำใต้ตา
- ครีมบำรุงรอบดวงตา
การดูแลผิวรอบดวงตาด้วยครีมบำรุงที่อ่อนโยนออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางรอบดวงตาอย่าง eye cream จะช่วยป้องกันการเกิดรอยคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตาได้ ยิ่งเราใช้อย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนคความหมองคล้ำและรอยดำใต้ตาให้กลับมาเนียนใสเป็นธรรมชาติ ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีสารสกัดเหล่านี้
- ไครซิน (chrysin) เป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์มีฤทธิ์ช่วยขจัดบิลิเวอร์ดิน และลดการอักเสบของเส้นเลือดฝอยใต้ตา ช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาให้จางลง
- สารสกัดสาหร่ายทะเล (seaweed extract) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำและรอยคล้ำรอบดวงตาให้จางลง จากงานวิจัยยืนยันว่าหากใช้สารสกัดจากสาหร่ายทะเลเข้มข้นร้อยละ 2 จะช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาให้จางลงได้ใน 2 สัปดาห์
- ฟูแคน (fucan) เป็นสารในกลุ่มพอลิแ ซ็กคาไรด์ซึ่งมีประสิทธิภาพลดการรั่วของเม็ดเลือดแดงอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอยดำใต้ดวงตา
- วิตามินเค (vitamin K) มีประสิทธิภาพช่วยลดรอยฟกช้ำ (bruising) ของผิวหนัง โดยการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ดวงตาที่เกิดจากการแตกตัวของเม็ดเลือดที่สะสมอยู่ตามชั้นผิวได้
- ฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์จำพวกกรดไฮยาลูลอนิก (Hyaluronic Acid) จะช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุที่ไขมันใต้ดวงตาฝ่อตัว โดยตัวกรดไฮยาลูลอนิกจะเข้าไปเติมเต็มให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น เรียบเนียนขึ้น ผิวรอบดวงตาดูกระชับ ไม่อิดโรย ดูอ่อนกว่าวัย รอยดำรอยคล้ำต่าง ๆ ดูจาง วิธีการนี้มีความปลอดภัยแต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานเท่านั้นเพราะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติไม่ตกค้างเป็นอันตราย
- เลเซอร์และทรีทเมนท์
วิธีการรักษารอยคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตาวิธีหนึ่งที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วก็คือการทำเลเซอร์และทรีทเมนท์ต่าง ๆ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การทำเทอร์มาจเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงยกกระชับ การทำอัลเทอร่ายกกระชับผิว รวมไปถึงการทำเลเซอร์ลดการทำงานของเม็ดสีเมลานิน ทั้งหมดนี้จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์สดใสให้กับผิวรอบดวงตา ลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำให้จางลง
- มาส์กรอบดวงตา
นอกจากจะมาส์กหน้าแล้วเรายังควรเลือกใช้มาส์กเฉพาะที่มาดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาด้วย ซึ่งทุกวันนี้ก็มีผลิตภัณฑ์มาส์กรอบดวงตาหลากหลายแบรนด์ออกมาวางจำหน่าย ใช้งานง่าย แปะทิ้งไว้ใต้ตา 15 – 20 นาที ช่วยปลุกความสดชื่นให้กับผิวพร้อมกับเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดเลือนความหมองคล้ำ แนะนำให้มาส์กเป็นประจำ ยิ่งแช่เย็นไว้ก่อนใช้จะยิ่งเพิ่มความสดชื่นได้ดี
- บำรุงด้วยของจากธรรมชาติ
การดูแลผิวด้วยของจากธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอยดำใต้ตา ที่นิยมกันเลยก็คือการใช้พืชผักที่มีน้ำมาพอกแปะใต้ตาอย่างเช่นแตงกวา มะเขือเทศ ใบบัวบก หรือว่านหางจระเข้ โดยจะนำไปแช่เย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นจากนั้นฝานบาง ๆ มาแปะบริเวณใต้ตา หรือจะบดมาทาพอกรอบดวงตา จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวและลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาให้จางลง
นอกจากนั้นยังนิยมใช้ถุงชาที่ใช้แล้วนำมาแช่เย็นแล้ววางประคบใต้ดวงตา คาเฟอีนในชาจะช่วยให้เส้นเลือดใต้ตาหดตัวทำให้รอยคล้ำรอยดำจางลง ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถใช้น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น เพราะมีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดเลือนรอยคล้ำให้จางลง
กู้ใต้ตาคล้ำให้เนียนใสด้วยนวัตกรรมจาก mesoestetic
- Energy C eye contour BRIGHTENING SOLUTIONS
ผลิตภัณฑ์ครีมทาบำรุงรอบดวงตาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Energy C ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสารสกัดจากวิตามินซีเข้มข้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ พร้อมปรับสีผิวให้กระจ่างใสม่ำเสมอ โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ประกอบไปด้วย Ascorbyl glucoside ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรและเข้มข้นสูง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนรอยคล้ำต่าง ๆ ให้จางลง ไม่เพียงเท่านั้นยังมี Elastine ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ให้ผิวยกกระชับเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย นอกจากนั้นยังมี Organic silicon ช่วยลดการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงช่วยดูแลผิวรอบดวงตาแบบครบองค์รวมทั้งริ้วรอยและความหมองคล้ำ
- Collagen 360° – eye contour
ผลิตภัณฑ์ครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน Enriched marine collagen ซึ่งเป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์จากทะเลน้ำลึก สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกบริเวณรอบดวงตาให้จางลง นอกจากนั้นยังมี Oat extract หรือสารสกัดจากข้าวโอ๊ต ช่วยลดริ้วรอยและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังมี Peptide Complex รวมไปถึง Acetyl Hexapeptide-8 ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียนมีชีวิตชีวา พร้อมลดความเหนื่อยล้าบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาสดใสเป็นธรรมชาติ
ปัญหารอยคล้ำใต้ดวงตาเป็นปัญหาที่ค่อนข้างยากที่จะแก้ไขให้ผิวรอบดวงตากลับมาเปล่งปลั่งกระจ่างใสและอ่อนกว่าวัยขึ้น ดังนั้น เราจำเป็นจะต้องดูแลป้องกันก่อนที่จะสายเกินแก้ ดูแลป้องกันแต่เนิน ๆ ย่อมดีกว่าไปหาทางรักษาในภายหลัง โดยการหลีกเลี่ยงสาเหตุของการเกิดรอยคล้ำหลีกเลี่ยงแสงแดดและสารก่อภูมิแพ้ พักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญควรบำรุงดูแลผิวอยู่เป็นประจำในทุก ๆ วัน ทางที่ดีต้องมีตัวช่วยดี ๆ อย่างผลิตภัณฑ์จาก mesoestetic ก็จะช่วยบอกลาปัญหารอยคล้ำรอยดำใต้ตารวมไปถึงริ้วรอยและตีนกาไม่ให้เข้ามากร่ำกรายได้แล้ว