“บลูเบอร์รี่” ( Blueberry) หนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่หลายคนรู้จักกันดี ซึ่งนิยมนำมารับประทานแบบผลสด หรือสามารถแปรรูปเป็นอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต่างๆได้ นอกจากนั้น ยังถูกนับเป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคมากมาย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและมีฤทธิ์ในการรักษา ไม่เพียงเท่านั้น บลูเบอร์รี่ยังถูกนำมาสกัดเข้มข้นเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เพื่อการฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสพร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย รู้จักบลูเบอร์รี่ (blueberry) บลูเบอร์รี่ (blueberry) จัดเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี่ เป็นพืชล้มลุก หรือไม้ยืนต้นก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา โดยเฉพาะในประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา แต่ต่อมาในช่วง ค.ศ.1930 ได้มีการแพร่พันธุ์ออกไปยังประเทศต่างๆที่อยู่ในทวีปยุโรป ในส่วนของแถบเอเชีย พบว่ามีการปลูกบลูเบอร์รี่ในเขตประเทศอบอุ่นและเขตหนาว เช่น ในประเทศจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นต้น โดยบลูเบอร์รี่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vaccinium spp. มีชื่อสามัญคือ Blueberry ในวงศ์ ERICACEAE ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Cyanococcus อยู่ในสกุล Vaccinium โดยมีส่วนประกอบต่างๆดังต่อไปนี้ ลำต้น บลูเบอร์รี่ มีลำต้นหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่10 เซนติเมตร จนถึง 10 เมตร มีทั้งประเภทที่ผลัดใบและไม่ผลัดใบ ใบ […]
ยิ่งเรามีผิวแพ้ง่ายยิ่งต้องดูแลผิวให้มากในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะส่วนที่บอบบางและแพ้ง่ายมากอย่างผิวหน้า เพราะปัจจุบันในน้ำฝนหรือละอองฝนมักจะมีสิ่งสกปรกแปลกปลอมปะปนอยู่ ส่งผลให้คนที่มีผิวแพ้ง่าย เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่ายมากกว่าปกติ เนื่องจากในขณะที่ฝนตกจะมีสิ่งสกปรกขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศปนเปื้อนมากับน้ำฝนไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง มลพิษ ควันจากท่อไอเสีย เป็นต้น หน้าฝนเป็นฤดูกาลฝนตกชุกมักส่งผลต่อคนที่มีผิวแพ้ง่ายโดยตรง เพราะคนที่มีผิวแพ้ง่ายส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาผิวแห้งกร้านและผิวขาดน้ำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พอเข้าหน้าฝนคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็จะยิ่งมีผิวที่ขาดความชุ่มชื้นมากขึ้น เพราะเมื่อผิวหน้าหรือผิวกายถูกน้ำฝนก็จะทำให้ไขมันหรือน้ำมันที่เกาะอยู่บนผิวตามธรรมชาติหลุดออกไปด้วยทำให้ผิวแพ้ง่ายขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย พอความชุ่มชื้นในผิวน้อยลงผิวของคุณก็จะแห้งกร้านขาดน้ำเป็นธรรมดา คนที่มีผิวแพ้ง่ายจึงต้องหาการดูแลผิวแพ้ง่ายอย่างถูกวิธีเพื่อให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาและไม่ให้เกิดการระคายเคืองผิวตามมา นอกจากนี้ในช่วงหน้าฝนยังเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบนเสื้อผ้ารวมถึงของใช้ส่วนตัวต่างๆได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียนั้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น เมื่อเราตากฝนหรือสัมผัสละอองฝนและสวมใส่เสื้อผ้าที่อับชื้นก็จะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่มีผิวแพ้ง่ายเกิดการระคายเคืองผิว เป็นผื่นคัน ผื่นแดง เกิดเป็นสัญญาณเตือนของผิวแพ้ง่ายและอาจรุนแรงจนถึงขั้นที่ทำให้ผิวหนังอักเสบหรือก่อให้เกิดปัญหาสิวอุดตันตามมา คนที่มีผิวแพ้ง่ายจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองฝนโดยตรงและหลีกเลี่ยงความอับชื้นต่างๆ เพื่อป้องกันอาการแพ้ระคายเคืองตามมานั่นเอง ผลกระทบจาก “รอยต่อของฤดูกาล” ปัญหาท้าทายของการดูแลผิวหน้าฝน รู้ไหมว่าอากาศที่เย็นชื้นในช่วงฤดูฝน เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวมีแนวโน้มขาดน้ำได้สูง ลองมาดูถึงสาเหตุกันดีกว่าปัญหาผิวหน้าฝน ที่ทำให้ผิวขาดน้ำเกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง ความชื้นที่มากเกินไป จะทำให้น้ำและน้ำมันในผิวถูกดึงออกมาจากผิว จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวลดลง ทำให้ผิวอ่อนแอ และอาจเกิดสภาวะผิวขาดน้ำได้ จนนำไปสู่สภาพผิวที่หยาบกร้านจนรู้สึกระคายเคือง สภาพแวดล้อมที่เปียกแฉะและความชื้นในช่วงหน้าฝน มีส่วนทำให้เราละเลยการทาครีมบำรุง ซึ่งการไม่ใส่ใจทาครีมบำรุงเป็นประจำอาจส่งผลทำให้ปราการป้องกันผิวอ่อนแอลงได้ การอาบน้ำอุ่นหนีความเย็นในหน้าฝน ด้วยอุณหภูมิน้ำที่สูง และหากใครใช้เวลาในการอาบที่ค่อนข้างนาน ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง และลอกเป็นขุยได้ 3 ปัญหาผิวหน้าฝนที่มีแนวโน้มเกิดได้มากที่สุด ผิวขาดน้ำ ภาวะปัญหาผิวที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำ สามารถเกิดได้กับทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีผิวสุขภาพดี […]
รู้หรือไม่ ? ผู้หญิงตั้งครรภ์เป็นฝ้าได้ ฝ้า กระ ปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในผู้หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย สาเหตุหลักของฝ้ากระในผู้หญิงตั้งครรภ์คือ การเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) และโพรเจสเทรอน (progesterone) ระดับฮอร์โมนเหล่านี้สามารถกระตุ้นเซลล์เมลานิน (melanocyte) ในผิวหน้าให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บริเวณใบหน้า ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ฝ้าจะมีลักษณะเป็นรอยปื้นใหญ่ๆ สีเข้มกว่าสีผิว โดยมีหลายเฉดความเข้ม ตั้งแต่สีออกน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม รวมถึงหลายขนาดตั้งแต่ฝ้าขนาดเล็กไปจนถึงฝ้าขนาดใหญ่ ซึ่งหากไม่หาวิธีป้องกันจะทำให้ฝ้าขยายขนาดปื้นเพิ่มเป็นวงกว้าง จนฝังลึกลงไปในชั้นผิวมากขึ้น ฝ้ากระมีหลากหลายรูปแบบตามลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสีผิว สามารถแบ่งชนิดฝ้าตามสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าต่างๆ ได้ดังนี้ ฝ้าเลือด ในทางการแพทย์เรียกว่า Vascular Melasma หรือ Telangiectetic Melasma เป็นฝ้าเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนผิวหน้า ผลมาจากการใช้เครื่องสำอาง หรือยา ที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกและมีเลือดกระจุกบริเวณพังผืดใต้ผิวหนังชั้นลึก โดยฝ้าจะมีสีน้ำตาลแดง จัดเป็นฝ้าที่รักษายาก ฝ้าเลือดพบในเพศหญิงได้มากกว่าเพศชาย เนื่องจากเป็นฝ้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นหลัก ฝ้าแดด ฝ้าที่เกิดจากแสงแดด การโดนแสงแดดโดยตรงและโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้เกิดฝ้าแดดได้ง่าย ซึ่งแสงแดดเป็นอันตรายต่อผิว เพราะแสงแดดมีรังสี UVA และ UVB […]
ใครจะเชื่อว่าเปลือกมะนาวหรือเปลือกส้ม จะอุดมไปด้วยสารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามอย่าง เฮสเพอริดิน (Hesperidin) ซึ่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาและมีงานวิจัยมากมายที่บ่งชี้ว่าสารชนิดนี้สามารถช่วยรักษาและบรรเทาอาการความผิดปกติของร่างกายได้ในหลายๆโรค ดังนั้น จึงถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ในแง่ของการรักษาโรค และพร้อมกันนั้น ก็ได้นำไปเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องสำอางมากมาย เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว ทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวที่มีการระคายเคืองหรือแพ้ง่ายได้อีกด้วย แท้จริงแล้วสารเฮสเพอริดิน (Hesperidin) คืออะไร มีประโยชน์หรือข้อบ่งชี้ในการใช้อย่างไรบ้าง เราไปหาคำตอบในบทความนี้ด้วยกัน รู้จักสารเฮสเพอริดิน (Hesperidin) Hesperidin (เฮสเพอริดิน) มีชื่อสามัญ คือ Hesperidin เป็นสารเคมีทีได้จากพืช ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ “ไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) หรือ วิตามินพี มีสูตรทางเคมี คือ C28H34O15 มีมวลโมเลกุล 610.565 g/mol-1 สารชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดย Lebreton โดยส่วนใหญ่พบในผลไม้ตระกูลซีทรัซ เช่น ส้ม มะนาว และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น สารดังกล่าวจะถูกแยกออกจากเปลือกชั้นสีขาวหรือเปลือกใน (mesocarp) และจากการทดสอบด้วยวิธีที่เรียกว่า thin-layer chromatography พบว่าสารสกัดเปลือกส้มที่สกัดด้วยน้ำร้อน จะประกอบด้วย hesperidin ซึ่งเป็นชนิดของสารประกอบที่มีผลในการต้านอนุมูลอิสระ แหล่งที่มาของ สารเฮสเพอริดิน (Hesperidin) เราสามารถพบสาร Hesperidin(เฮสเพอริดิน) ได้ในพืชและผลไม้ตระกูลส้ม ไม่ว่าจะเป็น ส้ม (citrus) หรือในวงศ์ Rutaceae […]
แสงแดด หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต เช่น ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชเพื่อใช้ในการสร้างชีวมวล มีส่วนช่วยในการผลิตวิตามินดีในมนุษย์ ใช้เป็นแหล่งสร้างพลังงาน ใช้ให้แสงสว่างเพื่อประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย และแน่นอนว่าตามกระบวนการชีวภาพ ทุกสิ่งจะต้องมีความสมดุล มีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่เป็นโทษหรือผลเสียเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ว่าทำไมเราต้องทำความรู้จักกับแสงแดด องค์ประกอบ และผลเสีย ว่าแสงแดดทำร้ายผิวหนังของเราได้อย่างไร ? หากพูดถึงแสงแดดและวิธีการปกป้องผิวแล้ว หลายๆคนคงจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับเครื่องสำอางชนิดหนึ่ง ซึ่งแพร่หลายมาก พบได้แทบทุกร้านค้า นั่นก็คือ ครีมกันแดด ซึ่งครีมกันแดดเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรณรงค์เป็นอย่างมากว่ามีความสำคัญต่อการปกป้องผิว และควรต้องใช้ ในขณะเดียวกันครีมกันแดด ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใครหลายๆคนละเลย ความสำคัญไป โดยเฉพาะหนุ่มๆทั้งหลาย อาจจะไม่ได้ใส่ใจการทาครีมกันแดดมากนักเท่าสาวๆ และนอกเหนือจากเรื่องการละเลยการทาครีมกันแดดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลเสียได้นั่นก็คือการใช้ครีมกันแดดที่ผิดประเภทและไม่ถูกวิธี หรือ ไม่เพียงพอนั่นเอง วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับโลกของแสงแดด และปัญหาของการละเลยการทาครีมกันแดด รวมทั้งเคล็ดลับการเลือกซื้อและการใช้งานครีมกันแดดแบบที่ถูกต้องกัน แสงแดดคืออะไร ? แสงแดดหรือแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน (Nuclear fusion) บนดวงอาทิตย์ เกิดจากการหลอมรวมตัวกันของอะตอมธาตุไฮโดรเจน กลายเป็นอะตอมของธาตุฮีเลียม ซึ่งในการเกิดปฏิกิริยานี้ จะให้พลังงานมหาศาล และพลังงานรูปหนึ่งที่เกิดขึ้นนี้จะแผ่รังสีในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มายังโลกของเรา ที่เราพอสังเกตเห็นได้ในรูปแบบของความร้อน และแสง ที่เราเรียกกันว่า แสงแดด […]
ปัญหาด้านผิวหนังและผิวพรรณ ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในฤดูฝน หลายท่านอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องดูแลผิวพรรณเป็นพิเศษในฤดูฝน แต่จริงๆ แล้วฤดูนี้มีหลายสิ่งที่ทำร้ายผิวสวย เช่น น้ำฝน ซึ่งมีฝุ่นละออง สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคและสิ่งสกปรกมากมาย หากเราสัมผัสน้ำฝนสิ่งที่ปนเปื้อนย่อมเป็นอันตรายต่อผิวเราได้ นอกจากนี้ เมื่อผิวหนังเปียกชื้นจะทำให้ความสามารถในการป้องกันเชื้อโรคและการปรับตัวต่อปัจจัยกระทบภายนอกต่างๆ น้อยลง ทำให้ง่ายต่อการเกิดปัญหาทางด้านผิวหนัง เช่น สิว โรคเชื้อรา โรคน้ำกัดเท้า ผื่นผิวหนังอักเสบ ฉะนั้น คุณผู้หญิงจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดกับเราอยู่เสมอ เริ่มจากการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ หากคุณผู้หญิงผมเปียกจากการตากฝน การเช็ดผม หรือปล่อยให้แห้งเองนั้น ยังไม่เพียงพอ ขอแนะนำให้สระผมเลยจะดีกว่า เนื่องจากในน้ำฝนอาจมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนมาด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่มักทำให้เราเป็นหวัด การสระผมจะล้างเชื้อไวรัสออกจากเส้นผม หลังจากนั้นควรเช็ดผม หรือไดร์ให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรนอนขณะที่ผมยังเปียก เพราะอาจทำให้หนังศีรษะมีความชื้นและก่อให้เกิดเชื้อราได้ ข้อสังเกตว่า คุณผู้หญิงอาจมีเชื้อราบนศีรษะ คือ มีสะเก็ดแห้งๆ บนหนังศีรษะและมีอาการคันศีรษะ เส้นผมบริเวณนั้นหักออกเหลือเป็นตอสั้นๆ ติดหนังศีรษะ บางคนอาจมีอาการอักเสบรุนแรงจนถึงเป็นก้อนคล้ายฝี ถ้านำผมบริเวณนั้นไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบว่ามีเชื้อรา ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวก็ควรไปพบแพทย์ทันที ผิวพรรณ ปัญหาที่พบบ่อยคือ การเป็นสิวเพิ่มขึ้น เพราะความชื้นสูงในอากาศจะทำให้เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวเจริญเติบโตได้ดี ประกอบกับเมื่อผิวหน้าสัมผัสน้ำฝนที่มีเชื้อโรค ฝุ่นละออง หรือสารเคมี ก็ยิ่งทำให้เกิดสิวได้ง่าย […]
“สภาพอากาศ” ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเสีย เพราะเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอาจส่งผลให้ผิวของเราปรับตัวไม่ทันตามสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ผลที่ตามมาก็คือ ปัญหาสิว ผิวแห้งลอก และผื่นคัน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะเจอปัญหาหนักใจเกี่ยวกับการบำรุงผิวหน้า เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว และมีความชื้นในอากาศสูง ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและไม่สบายผิวเอาเสียเลย อีกทั้งยังทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ ติดผิวเราได้ง่ายขึ้นด้วย ช่วงเวลาหน้าฝนของประเทศไทยนั้นยาวนาน ยิ่งหากเข้าสู่ช่วงมรสุมก็อาจลากยาวไปถึงสี่ห้าเดือนได้เลยทีเดียว และถึงแม้จะมีอากาศเย็น ๆ ชื้น ๆ แบบที่ใครหลายคนชื่นชอบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฤดูฝนก็มักสร้างปัญหาผิวได้อย่างคาดไม่ถึง ทำให้การดูแลผิวหน้าฝนเป็นหนึ่งในความท้าทายที่หลาย ๆ คนต่างก็ให้ความสำคัญ เพราะทุกครั้งที่อากาศแปรปรวนจากฤดูที่ผลัดเปลี่ยน เป็นเหตุให้ผิวของคนเราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จนทำให้ปราการป้องกันผิวอ่อนแอลง และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาไปดูกันว่าผลกระทบอะไรบ้างที่จะเกิดกับผิวในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่หน้าฝน และควรมีวิธีรับมืออย่างไรให้สภาพผิวกลับมาชุ่มชื้นเหมือนอย่างที่เคยเป็น ช่วงหน้าฝนแบบนี้ หลายคนคงเจอปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวลอกเป็นขุย ผิวมันขาดน้ำ ผิวบอบบาง ผิวเป็นสิวง่าย และผิวอักเสบบวมแดง วันนี้แอดมินมีลิสต์ “ไอเทมบำรุงผิว” สกินแคร์มาแรง เคล็ดลับกู้ผิวที่ต้องมีติดกระเป๋าในช่วงหน้าฝนมาฝากทุกคนกัน เพื่อให้ทุกคนมีผิวสวย สุขภาพผิวดี พร้อมที่จะต้อนรับผิวสวยในช่วงหน้าฝนนี้กัน โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน หลายคนที่ต้องออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตากฝนกันบ้าง ซึ่งน้ำฝนเป็นที่รู้กันอยู่ว่า มักจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่มากมาย เช่น […]
“ดาวเรือง” หนึ่งในดอกไม้ที่คนไทยรู้จักกันดี ด้วยความที่มีสีสันสดใสสะดุดตา แถมยังขึ้นง่าย ปลูกแล้วโตไวแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นดอกไม้สิริมงคลของไทยโบราณ ที่เชื่อกันว่า เมื่อปลูกไว้ในบ้านจะทำให้มีเงินมีทองไหลมาเทมา หนุนนำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง นั่นเอง นอกจากคุณค่าทางด้านความเชื่อและวัฒนธรรมแล้ว ดอกดาวเรืองยังมาพร้อมกับสรรพคุณมากมายที่ช่วยในการบำรุงร่างกายอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในปัจจุบันได้มีการสกัดดอกดาวเรืองเพื่อใช้ในวงการความงามและเครื่องสำอางกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสารสกัดจากดอกดาวเรือง (calendula extract) พร้อมคุณประโยชน์มากมายที่จะทำให้สุขภาพผิวของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนน่าอัศจรรย์ใจ รู้จักดอกดาวเรือง ดอกดาวเรือง (Marigold) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tagetes erecta L. เป็นดอกไม้ที่อยู่ในวงศ์ของ Asteraceae ซึ่งถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเม็กซิโกหรือแถบทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะเป็นพุ่มดอก สีเหลืองทอง ในสมัยโบราณ ชนชาวพื้นเมืองจะปลูกดอกดาวเรืองเพื่อจุดประสงค์ในการบูชาเทพเจ้า และต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ของดาวเรืองไปยังทวีปอื่นๆตั้งแต่ยุโรปเรื่อยไปจนถึงประเทศต่างๆทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ในปัจจุบันมีดอกดาวเรืองมากถึง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ ดาวเรืองอเมริกัน (American marigold) ดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigolds) ดาวเรืองนักเก็ต (Nugget Marigolds) ดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigold) ดาวเรืองใบ (Foliage Marigold) สำหรับประเทศไทย มักพบดอกดาวเรืองในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกฉียงเหนือ จุดเด่นคือเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย […]
อาหารทอดกลายเป็นอาหารหลักในอาหารของหลายๆ คน แต่ผลที่ตามมาจากการบริโภคเป็นประจำมักถูกมองข้ามไป ผลกระทบของอาหารทอดที่มีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงผลกระทบทางสังคมมีความสำคัญ ในบทความนี้ เราจะสำรวจวิธีการต่างๆ ที่อาหารทอดส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา รวมถึงผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจในวงกว้างจากการบริโภคอาหารดังกล่าว การบริโภคอาหารทอดเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน อาหารทอดมักมีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้เนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงและเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ ระดับน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในอาหารทอดที่สูงอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้มากขึ้น โรคอ้วนก็เป็นปัญหาสำคัญเช่นกัน เนื่องจากอาหารทอดมักมีแคลอรี่สูงและอาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ปัญหาสุขภาพเหล่านี้อาจส่งผลระยะยาวต่อบุคคลและอาจนำไปสู่ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก นอกจากปัญหาสุขภาพกายแล้ว การบริโภคของทอดยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตอีกด้วย โภชนาการที่ไม่ดีเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล และไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพในอาหารทอดในระดับสูงสามารถลดการทำงานของการรับรู้ได้ นอกจากนี้ การปล่อยโดปามีนในสมองเมื่อรับประทานอาหารทอดอาจทำให้เกิดอาการเสพติดได้ ทำให้ยากต่อการทำลายวงจรของพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การผลิตและการบริโภคอาหารทอดจำนวนมากมีผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตอาหารทอด รวมถึงการใช้น้ำมันและพลังงานจำนวนมาก สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสุขภาพจากการบริโภคอาหารทอดอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ สุดท้ายนี้ บรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและความคาดหวังทางสังคมเกี่ยวกับการเลือกอาหารสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแต่ละคนในการบริโภคอาหารทอด ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง ผลของอาหารทอดที่มีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมีความสำคัญมาก การบริโภคของทอดเป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ แม้ว่าการทานอาหารทอดเป็นครั้งคราวอาจดูน่าดึงดูดใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาในระยะยาวจากการเลือกรับประทานอาหารของเรา ด้วยการตัดสินใจอย่างมีสติเกี่ยวกับสิ่งที่เรากิน เราจะสามารถปรับปรุงสุขภาพของเราและนำไปสู่อนาคตที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น อาหารทอดเป็นอาหารหลักในหลายวัฒนธรรมและอาหารทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารทอดมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงด้านสุขภาพต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน แม้ว่าการเพลิดเพลินกับอาหารทอดโดยไม่กระทบต่อสุขภาพอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ก็มีเทคนิคและเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับอาหารจานโปรดในขณะที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีไว้ได้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับอาหารทอด […]
อาการบวมใต้ตาเป็นปัญหาด้านความงามที่พบบ่อยซึ่งส่งผลต่อคนทุกวัย มันสามารถทำให้คุณดูเหนื่อย แก่ลง และไม่แข็งแรงได้ แม้ว่าอาการบวมใต้ตาจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ก็มีวิธีแก้ไขมากมายเช่นกัน วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งคือการถอดถุงที่บวมออก ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจสาเหตุของอาการบวมใต้ตา วิธีกำจัดถุงใต้ตา และเคล็ดลับในการป้องกันอาการบวมใต้ตา อาการบวมใต้ตาอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงพันธุกรรม อายุก่อนวัย และการกักเก็บของเหลว พันธุศาสตร์สามารถมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาการบวมใต้ตาได้ เนื่องจากบางคนมักมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการบวมใต้ตา การแก่ก่อนวัยยังสามารถทำให้เกิดอาการบวมใต้ตาได้ เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตาสูญเสียความยืดหยุ่นและมีแนวโน้มที่จะหย่อนคล้อยมากขึ้น การกักเก็บของเหลวซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การแพ้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการรับประทานอาหาร ก็อาจทำให้เกิดอาการบวมใต้ตาได้เช่นกัน การกำจัดถุงใต้ตาเป็นวิธีการแก้ปัญหาอาการบวมใต้ตาที่มีประสิทธิภาพ มีให้เลือกทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ตัวเลือกการผ่าตัด ได้แก่ การผ่าตัดเปลือกตาล่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเอาผิวหนังและไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณเปลือกตาล่าง ตัวเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่ ฟิลเลอร์ผิวหนัง การรักษาด้วยเลเซอร์ และการบำบัดด้วยคลื่นวิทยุ แต่ละตัวเลือกมีข้อดีและข้อเสีย ตัวเลือกการผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งและยาวนานกว่า แต่มาพร้อมกับความเสี่ยงและใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า ตัวเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดมีแผลน้อยกว่าและมีเวลาพักฟื้นน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์จะอยู่เพียงชั่วคราวและอาจต้องรักษาหลายครั้ง การป้องกันอาการบวมใต้ตาสามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่าง การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการนอนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวและอาการบวมใต้ตาได้ การรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยป้องกันอาการบวมใต้ตาได้ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจส่งผลให้แก่ก่อนวัยได้ การใช้ครีมใต้ตาที่มีคาเฟอีนหรือวิตามินซีสามารถช่วยลดอาการบวมใต้ตาได้เช่นกัน คาเฟอีนเป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติที่ช่วยลดการกักเก็บของเหลว ในขณะที่วิตามินซีช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว อาการบวมใต้ตาเป็นปัญหาด้านความงามที่พบบ่อยซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย การกำจัดถุงใต้ตาเป็นวิธีการแก้ปัญหาอาการบวมใต้ตาที่มีประสิทธิภาพ และมีให้เลือกทั้งแบบผ่าตัดและแบบไม่ผ่าตัด การป้องกันอาการบวมใต้ตาสามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่าง […]