วิธีรักษาฝ้าแบบเร่งด่วนงบประหยัดเพียงแค่ใช้ วิธีการรักษาฝ้าด้วยครีม

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการรักษาฝ้า เราต้องยอมรับการรักษาฝ้านั้น ในปัจจุบันยังมีวิธีการรักษาแบบไหนที่การันตีว่ารักษาฝ้าแล้วจะหายถาวร แต่สำหรับใครที่รักษาแบบหวังผลระยะยาว ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมที่มีสารสกัดตัวช่วยในเรื่องของการรักษาฝ้า ท่านก็จะมีเกราะกำบังฝนเรื่องของการเกิดฝ้าในอนาคต แล้วสารสกัดเหล่านั้นที่เหล่าครีมฝ้าทั้งหลายเลือกใช้มีอะไรบ้าง แล้วสารเหล่านั้นส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร และนอกจากนั้นสารเหล่านั้นที่ครีมรักษาฝ้านำมาใช้ ได้รับการรับจากแพทย์หรือไหม วันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องนี้ไปพร้อมกัน และเราจะได้เผยใบหน้าไร้ฝ้าและรู้จักวิธีป้องกันจากฝ้าตัวร้ายทั้งหลายได้ด้วยครีมกระปุกที่เราสามารถเชื่อถือได้และได้รับการรับรองจากองค์กร อย.

สารสกัดที่นิยมในส่วนผสมของครีมเพื่อใช้ใน การรักษาฝ้าด้วยครีม

หากว่าคุณเป็นเลือกซื้อครีมมารักษาฝ้าด้วยตัวเอง สำหรับส่วนประหลักที่ท่านควรทราบในผลิตภัณฑ์นั้นว่ามี ส่วนผสมอะไรบ้างและส่วนผสมเหล่านั้นจะช่วยทำหน้าที่อะไรที่จะทำให้ฝ้าคุณหายและอาจจะไม่กลับมาอีก มาดูกัน

  • กรดโคจิก
  • Arbutin
  • วิตามินซีและอนุพันธ์
  • สารสกัดชะเอม
  • N-acetyl-4-cysteaminylphenol
  • Hesperidin
  • Niacinamide
  • Polyphenols
  • Ellagic acid
  • สารสกัดจากปอสา
  • สารสกัดจากใบหม่อน
  • สารสกัดจากว่านหางจระเข้

คุณสมบัติของการแต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง

หากให้พูดถึงคุณสมบัติการทำงานของสารต่างๆ ที่ได้กล่าวมานั้นทำหน้าที่อะไรบ้าง และช่วยลดฝ้าได้อย่างไร และสารเหล่านั้นมีผลต่อผิวหนังหรือไม่ เรามาเริ่มกันที่สารตัวแรกอย่างสาร

กรดโคจิก สำหรับกรดโคจิก จะเป็นสารตัวแรกๆ ที่แบร์นครีมที่ผลิตครีมรักษาหลายๆ แบร์นเลือกใส่ส่วนผสมของสารตัวนี้ เพราะเนื่องด้วยคุณประโยชน์ กรดโคจิก เมื่อได้นำมาใช้กับผิวพรรณ จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ Stimulates new skin cells และยังทำหน้าที่ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว antioxidants และยังมีหน้าที่คอยที่จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ช่วยให้ผิวขาวใส ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำที่เกิดจากสิว Inhibitor pigmentation ได้เป็นอันดับต้นๆ ของการรักษาฝ้ากระจุดด่างดำเหล่านี้อีกด้วย

Arbutin อาร์บูตินเป็นสารที่ได้มาจากธรรมชาติ 100% โดยส่วนใหญ่จะสกัดมาจากส่วนต่างๆ ของพืชหลายชนิด ส่วนมากมักเป็นพืชที่พบในเมืองหนาว เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ และแคนาดา โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งของอาร์บูตินที่ดีที่สุดในโลก ผลไม้ที่มีอาร์บูติน เช่น แบเบอร์รี่ (Bearberry) สำหรับข้อดีของอาร์บูตินที่เราจะรู้กันอยู่แล้วนั่นก็คือช่วยลบเลือนความหมองคล้ำและจุดด่างดำที่เกิดจากรอยสิว ผิวไหม้แดด ฝ้า กระ ให้สีผิวเรียบเนียนมากขึ้น พร้อมทั้งยังเป็นสารที่มีอ่อนโยนต่อผิวหน้าและเป็นสารที่ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวแต่อย่างใด จึงไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ผิวบางลงเหมือน AHA) , Retin-A, หรือกรดวิตามินเอตัวอื่นๆ ฉะนั้นแล้ว Arbutin จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ต้องการปรับผิวให้กระจ่างใส และนั่นก็เป็นที่มาของการนำสาร Arbutin มาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของครีมลดฝ้านั่นเอง

วิตามินซีและอนุพันธ์ สำหรับคุณสมบัติของสารอนุพันธ์วิตามินซีสามารถยับยั้งการเกิดเมลานิน เรียกกระบวนการเกิดเมลานินว่า melanogenesis โดยมันจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสไม่ให้ทำงาน และต้องบอกเลยว่ามีสารไม่กี่ชนิดที่เป็นที่ยอมรับในผลการลดเมลานิน และวิตามินซีเป็นหนึ่งในสารไม่กี่ชนิดนั้นอนุพันธ์วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ คุณสมบัติคอลลาเจนคือช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นดูอ่อนเยาว์ โดยทางด้านของอนุพันธ์วิตามินซีสามารถทำให้ริ้วรอยเดิมตื้นขึ้นและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่มาทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน

สารสกัดชะเอม สำหรับครีมลดฝ้าโดยส่วนใหญ่สำหรับสารสกัดที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือสารสกัดชะเอม ที่ได้เลือกใช้สารสกัดจากชะเอมนั่นก็เพราะว่าชะเอมมีคุณสมบัติที่โดดเด่นของชะเอมเทศในด้านความงามและผิวพรรณที่จะช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวจากการโดนทำร้าย ไม่ว่าจะช่องทางธรรมชาติหรือว่าช่องทางที่เรานั้นนำสารเคมีเข้ามาสู่ร่างกายสู่ผิวของเราเอง โดยสารสกัดชะเอม จะมีคุณสมบัติโดดเด่นนั่นก็คือ

  1. ช่วยในเรื่องของกสารลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง
  2. ช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว ที่เกิดจากการแพ้ครีม หรือว่าผิวบอบบางแพ้ง่าย
  3. ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น เมื่อมีการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของตัวนี้อย่างต่อเนื่อง
  4. ดูแลผิวหน้าให้สุขภาพดี และช่วยให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
  5. ช่วยทำหน้าที่ดูดซับรังสียูวีและบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ไม่หมองคล้ำไม่ทรุดโทรม

N-acetyl-4-cysteaminylphenol สำหรับการทำงานของ NAC สามารถกำจัดสารพิษและอนุมูลอิสระได้โดยฤทธิ์โดยตรง เกิดจาก thiol หรือ sulfhydryl group ของ NAC สามารถกำจัดพิษ และสารอนุมูลอิสระได้โดยตรง โดยเปลี่ยนสารพิษ และอนุมูลอิสระให้เป็นน้ำและยังมีฤทธิ์โดยอ้อม NAC เป็นสารตั้งต้นของกลูธาไธโอน ซึ่งช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย โดยเมื่อรับประทาน NAC เข้าไปในร่างกาย จะให้ cysteine ซึ่งเป็นส่วนประกอบชนิดหนึ่ง หรือสารตั้งต้นของกลูธาไธโอน และนั่นก็เป็นที่มาว่าทำไมใชนครีนลดรอยฝ้าถึงต้องมีสารสกัดจาก N-acetyl-4-cysteaminylphenol ก็เพราะว่าจะทำให้ผิวที่ดำกร้านจากรอบฝ้าได้ลดลงและปรับสภาพผิวให้ขาวขึ้นตามลำดับ

Niacinamide สำหรับสารที่มีชื่อว่า Niacinamide แท้จริงแล้วสารตัวนี้ได้ก่อประโยชน์เป็นอย่างมากให้กับผิวของมนุษย์ และเหมาะกับคนที่ประสบกับการเป็นสิวเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นจากสารเคมี หรือว่า เป็นเพราะฮอร์โมน Niacinamide สามารถช่วยรักษาสิวรวมไปถึงช่วยลดการอักเสบและรอยแดง และยังทำหน้าที่ในหารปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิว และทำให้จุดด่างดำดูจางลง Niacinamide ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นพร้อมทั้งยังสามารถเปลี่ยนสีผิวและช่วยในเรื่องของความแห้งกร้านได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังช่วยในเรื่องของปรับให้ผิวมีความนุ่มและชุ่มชื่นมากขึ้น เมื่อผิวของเรานั้นได้รับสาร Niacinamide เป็นเวลานานต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ

Polyphenols จริงแล้วสารตัวนี้เราอาจจะได้ยินหรือว่าได้รู้จักการที่ช่วยในเรื่องของการลดระดับน้ำตาลในเลือดแต่ความจริงแล้วนั้นใครจะรู้บ้างว่าสารตัวนี้ยังเป็นที่นิยมมาใส่ในครีมเพราะว่า โพลีฟีนอลมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ภายในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบในร่างกายนั่นเอง

สารสกัดจากปอสา สำหรับสารตัวนี้แน่นอนว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อสารนี้แต่แท้จริงแล้วสารนี้มีประโยชน์อย่างมากในการใช้รักษาฝ้ากระจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพราะว่า “ปอสา” มีสารสำคัญหลายชนิด ทำหน้าที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี โดยสารปอสานั้นได้มีสาร Kazino-F ที่มีคุณสมบัติยับยั้ง enzyme Tyrosinase ทำให้สามารถช่วยลดการสร้างเซลล์เม็ดสี Melanin เม็ดสีผิวคล้ำซึ่งสารเหล่านี้จะทำให้ผิวพรรณขาว กระจ่างใส นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยลงได้ ฉะนั้นเหล่าครีมรักษาฝ้ามักนิยมนำมาเป็นส่วนผสมกันเป็นอย่างมากในวงการรักษาฝ้า และในปัจจุบันได้นำเอา สารสกัดจากปอสา ได้ถูกนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ในกลุ่ม Whitening เพื่อช่วยให้ผิวขาว ใส ลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างเห็นผล และใช้ได้แม้ผิวบอบบาง เมื่อใช้เป็นประจำ รอยฝ้าจึงจางลงได้เป็นอย่างดี

สารสกัดจากว่านหางจระเข้ มาถึงกันที่สารจากว่านหางจระเข้ พืชสมุนไพรพื้นบ้านสารพัดประโชยน์ ว่านหางจระเข้ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมไปถึงกรดอะมิโนหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ประโยชน์ของแร่ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุทองแดง ธาตุแมงกานีส ธาตุซีลีเนียม ธาตุโครเมียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามิอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 โคลีน และยังเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิดที่มีวิตามินบี 12 และว่ากันด้วยเรื่องของสรรพคุณของว่านหางจระเข้เกี่ยวกับเรื่องของการฟื้นฟูผิวนั้นว่านหางจระเข้ช่วยเติมน้ำให้ผิวพร้อมทั้งยังทำให้ผิวหน้าและผิวกายชุ่มชื่นเต่งตึง และสร้างเกราะกำบังให้ผิวไม่เกิดริ้วรอยแห่งวัยและนอกจากนั้นแล้วว่านหางจระเข้ยังช่วยยับยั้งการติดเชื้ออันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยลดรอยดำจากสิว และช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะในใบว่างหางจระเข้จะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ช่วยรักษาจุดด่างดำตามผิวหนังช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้อีกด้วย คุ้มค่าสุดๆ ด้วยพืชสมุนไพรตัวเดียว

และนี่ก็ถือได้ว่าเป็นสารตัวหลักๆ ที่ได้ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของการผลิตครีมบำรุงรักษาฝ้ากระ จุดด่างดำ ที่เกิดจากรอยสิว รอยไหม้จากแดด และต้องบอกเลยว่าทุกสารสกัดล้วนแล้วแต่เป็นสารที่ได้รับการรับรองและได้ถูกวิจัยว่าเป็นผลดีต่อผิวมนุษย์ทั้งนั้น และนอกจากนั้นยังเป็นสารที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ส่งผลเสียเมื่อมีการใช้ครีมที่มีส่วนของสารเหล่านี้เป็นเวลานานได้

cosmelan ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่มีส่วนผสมธรรมชาติ ที่การันตีว่าผิวบอบบางใช้ได้

จากที่เราได้ศึกษาทำความเข้าใจเรื่องของสารที่ส่วนมากเราจะพบได้จากครีมรักษาฝ้า ที่ได้นำมาเป็นส่วนผสมเพื่อช่วยในการรักษาฝ้าให้หาย แต่อาจจะไม่หายขาด และสารเหล่านี้ยังเป็นตัวช่วยยับยั้งการเติบโตการสร้างเม็ดสีที่มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราเจอแสงแดดแบบรุนแรง ซึ่งทางด้านของผลิตภัณฑ์ cosmelan ก็ได้มองเห็นถึงปัญหาและเข้าใจวงจรชีวิตของผู้คนในแต่ละวัยเป็นอย่างดี โดยทางผลิตภัณฑ์ได้นำส่วนผสมในการใช้รักษาฝ้า และปกป้องผิวจากแสงแดดเพื่อให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไม่เกิดฝ้า กระ ต่างๆ ตามมา และหลากว่าเรานั้นใช้ครีมเป็นตัวป้องกันฝ้าก็สามารถทำได้เช่นกัน การรักษาดูแลผิวเป็นสิ่งที่ดี ไม่ควรที่จะปล่อยให้ผิวของเรานั้นได้เผชิญกับมลภาวะอันเสื่อมโทรมมาทำร้ายผิวของเราและเราจะต้องมาคอยดูแลเกินกว่าจะแก้ไขได้