Phytic Acid ตัวช่วยทรงพลัง..จัดการฝ้ากระอย่างได้ผล

หลายท่านอาจคุ้นเคยชื่อของกรดไฟติค (Phytic acid) ในอาหารประเภทถั่ว แต่ทุกวันนี้ได้มีการนำกรดดังกล่าวเข้ามาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ในการรักษาฝ้า กระหรือจุดด่างดำบนใบหน้า วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับกรดไฟติค (Phytic acid)กันมากขึ้นว่าคืออะไร มีประโยชน์และข้อจำกัดในการใช้อย่างไรบ้าง เพื่อจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและนำไปสู่ปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาและฟื้นบำรุงผิวตามมา

กรดไฟติค (Phytic acid) คืออะไร?

กรดไฟติค (Phytic acid) มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าอิโนซิทอลเฮกซาฟอสเฟตหรือ IP6 เป็นหนึ่งในชนิดของกรดที่พบได้ในเมล็ดพืช เช่น ในข้าว โกโก้ กาแฟ และพืชตระกูลถั่วทุกชนิด โดยเฉพาะในเมล็ดโกโก้ ทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมหลักของฟอสฟอรัสในเมล็ดพืช แต่เมื่อเมล็ดนั้นงอก กรดชนิดนี้จะแตกตัวและปล่อยฟอสฟอรัสออกมา มีการศึกษาระบุเอาไว้ว่ากรดไฟติคในรูปของไฟเตต(Phytates) เป็นหนึ่งในสารที่สามารถลดและต้านคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร (anti-nutrients) โดยจะไปยับยั้งเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร และเป็นสารที่มีคุณสมบัติเป็นคีเลตอย่างแรง ที่เข้าไปจับตัวแร่ธาตุ สังกะสี เหล็กและแคลเซียม ทำให้ระบบลำไส้ไม่สามารถดูดซึมเอาแร่ธาตุเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มที่

การจัดการกับกรดไฟติค (Phytic acid)

การหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานอาหารที่มีกรดไฟติค (Phytic acid)  คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เนื่องจากอาหารเหล่านั้นยังมีประโยชน์และให้คุณค่าทางโภชนาการแก่ร่างกายอยู่ สำหรับผู้ที่รับประทานเนื้ออยู่เป็นประจำคงไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับประเทศที่มีความจำกัดเรื่องอาหารที่มีแต่จำพวกถั่วหรือธัญพืช อาจจะส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว ดังนั้นเพื่อการนำกรดไฟติค (Phytic acid) ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้มีข้อมูลที่ระบุถึงวิธีการทำให้กรดไฟติค (Phytic acid)สลายตัวหรือลดลงได้ด้วยกรรมวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ปล่อยให้เมล็ดพืชงอกออกมา หรือแตกหน่อออกมา เนื่องจากกระบวนการงอกของพืชจะช่วยลดปริมาณของกรดไฟติค (Phytic acid)ลงได้ เพราะจะทำให้เกิดเอนไซม์ไฟเตตและเปลี่ยนเป็นกาบา(GABA) ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
  • นำเมล็ดพืชไปผ่านกระบวนการให้ความร้อน เช่นการคั่ว ในอุณภูมิ 100 องศาเซลเซียส นาน 25 นาที
  • ในกรณีที่เมล็ดพืชชนิดนั้นๆมีกรดไฟติค (Phytic acid)ในปริมาณมาก เช่น เมล็ดของโกโก้ ให้แช่ในกรดอะซิติกนาน 6-8 ชั่วโมง
  • ให้ทำการหมักเมล็ดพืชที่มีกรดไฟติค (Phytic acid)สูงด้วยจุลินทรีย์กลุ่มผลิตกรดแลคติกและกรดอะซิติก นาน 16-18 ชั่วโมง ซึ่งกรดอินทรีย์ที่เกิดขึ้นระหว่างการหมักมีส่วนที่ช่วยทำให้ไฟเตตเกิดการแตกตัวได้

กรดไฟติค (Phytic acid) ในอาหาร

เราสามารถพบกรดไฟติค (Phytic acid)ได้ในอาหารที่มาจากพืชเท่านั้น เช่น เมล็ดพืช ธัญพืช พืชตระกูลถั่ว และถั่วต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ ถั่วบราซิล  เฮเซลนัท  ข้าวโพด ถั่วลิสง  ข้าว รำข้าว เม็ดงา ถั่วเหลือง  เต้าหู้ วอลนัท ข้าวสาลี  รำข้าวสาลี จมูกข้าวสาลี เป็นต้น โดยจะมีปริมาณของกรดไฟติค (Phytic acid) ที่แตกต่างกัน และจะพบได้จำนวนเล็กน้อยในรากหรือหัวของพืช

กรดไฟติค (Phytic acid) กับการดูดซึมแร่ธาตุ

เนื่องจาก กรดไฟติค (Phytic acid) มีหน้าที่ในการจัดเก็บฟอสฟอรัส โดยจะมีการเชื่อมต่อกับโลหะที่มีประจุไฟฟ้าบวก ซึ่งสามารถดึงแร่ธาตุต่างๆที่มีความสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกาย เช่น แมกนีเซียม เหล็ก และสังกะสี ทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆเหล่านี้ของแต่ละมื้ออาหารที่รับประทานในระบบทางเดินอาหารของร่างกายลดน้อยลง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาร้ายแรงตามมาในประเทศที่มีประเภทของอาหารที่จำกัดหรือประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีอาหารประเภทธัญพืชหรือพืชตระกูลถั่วเป็นแหล่งอาหารหลัก แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการรับประทานอาหารให้มีความสมดุลและหลากหลายมากขึ้น

ประโยชน์ของกรดไฟติค (Phytic acid) ต่อสุขภาพ

ไม่เพียงผลกระทบในด้านลบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่กรดไฟติค(Phytic acid)ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่สมดุลและรับประทานอาหารที่หลากหลาย เนื่องจากเป็นสารประกอบพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และมีฤทธิ์ป้องกันความต้านทานต่ออินซูลิน ลดการดื้อต่ออินซูลินลงได้ด้วย  นอกจากนั้น ยังได้มีการทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์ว่ากรดไฟติค(Phytic acid) ที่อยู่ในธัญพืชที่ไม่ขัดสี สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตและมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ดังนั้น ถ้าจะกล่าวโดยสรุปก็คือว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีแนวโน้มในการขาดธาตุเหล็กหรือสังกะสี  เช่น ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ วีแกน และอื่นๆ ควรมีการรับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย ให้ครบตามหลักโภชนาการและให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีโฟเตตสูงในทุกมื้อ

ปริมาณกรดไฟติค (Phytic acid) ที่เหมาะสมกับร่างกาย

การรับประทานอาหารที่มีความหลากหลายในแต่ละมื้อ เป็นสิ่งที่จะทำให้ร่างกายมีความสมดุล โดยไม่เน้นอาหารที่มีปริมาณของกรดไฟติค (Phytic acid) ที่มากจนเกินไป แต่หากมีความจำเป็น ควรเลือกกรรมวิธีการปรุงอาหารหรือกระบวนการแปรรูป เพื่อให้กรดไฟติค (Phytic acid) ลดลง ซึ่งจะไม่เป็นปัญหาต่อการดูดซึมแร่ธาตุที่จำเป็นต่างๆในร่างกาย นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่รองรับว่าการเพิ่มปริมาณวิตามินซีให้กับร่างกายในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยยับยั้งโฟเตต และช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

กรดไฟติค (Phytic acid) ในเครื่องสำอาง

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลในปัจจุบัน ได้มีการนำกรดไฟติค (Phytic acid) มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายปะเภท โดยกรดโฟติคขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ทรงพลัง ช่วยกำจัดมลพิษให้กับผิว ดีท็อกซ์มลพิษต่างๆออกจากผิว ทั้งยังช่วยควบคุมการสร้างเม็ดสี ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ทั้งในเรื่องการป้องกันและการฟื้นฟูปัญหาแก่ก่อนวัย โดยต้องใช้ในปริมาณความเข้มข้นที่สูงเพียงพอ ก็จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำให้แลดูจางลง ทั้งยังช่วยดูแลผิวที่ต้องเผชิญกับมลภาวะทั้งจากภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด ฝุ่นควัน แสงยูวีในแสงแดด ซึ่งปัจจัยสำคัญเหล่านี้ มักนำไปสู่ปัญหาผิวมากมายตามมา นอกจากนั้นแล้วกรดไฟติค (Phytic acid) ยังสามารถช่วยลดอัตราการเกิด lipid peroxidation ซึ่งเป็นกระบวนการที่สารอนุมูลอิสระจะเกิดการแย่งประจุจากไขมันในเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ ซึ่งจะช่วยควบคุมให้ผิวมีความชุ่มชื้นและควบคุมความมันบนผิวได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น กรดไฟติค (Phytic acid) ยังสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีแบบทวีคูณ และที่สำคัญได้มีผลการรายงานว่ากรดไฟติค (Phytic acid) มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิว ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งจากโลหะหนัก และการลดลงของระดับคอเลสเตอรอลและไตกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือดได้อีกด้วย แน่นอนว่าเมื่อสุขภาพภายในดี ก็ส่งผลต่อสุขภาพผิวที่ดีด้วยเช่นกัน

COSMELAN by mesoestetic แก้ปัญหาฝ้ากระจุดด่างดำได้อย่างตรงจุด

Mesoestetic  แบรนด์ผลิตภัณฑ์ของผู้เชี่ยวชาญทางด้านปัญหาผิว จากเมือง บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองด้านคุณภาพมาตรฐานยุโรป เกี่ยวกับ ANTI-AGING มากว่า 37 ปีที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างภายใน 30 วัน  มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ตอบโจทย์ในทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นสิว ฝ้า กระ ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อการปกป้องและบำรุงผิวหน้าไปพร้อมๆกัน และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาฝ้าอย่าง COSMELAN 1(Facial Mask) และ COSMELAN 2 cream (maintenance cream)

COSMELAN 1 (Facial Mask)

มาส์กลอกฝ้าตัวดัง ที่ใช้มาส์กหน้าเพียงครั้งเดียว ก็สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าในชั้นหนังกำพร้า (ชั้นบนของผิว) ให้หลุดออกมา โดยมีส่วนประกอบของสารสกัดที่มีความเข้มข้นสูง อย่าง

  • Phytic Acid ช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส
  • Azelaic Acid ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดความหมองคล้ำของใบหน้า
  • Kojic Acid ช่วยลดเลือนฝ้า กระ ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด
  • Ascorbic Acid ช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
  • Arbutin ช่วยป้องกันและลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดความหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
  • Retinyl Palmitate  ช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างผิวใหม่ ฟื้นบำรุงและปรับสภาพผิว ให้สีผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใส
  • Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้า ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส และสีผิวสม่ำเสมอ
  • Aloe barbadensis Leaf Juice ช่วยปลอบประโลมผิว ให้ผิวมีความชุ่มชื้น
  • วิตามิน B3 ช่วยป้องกันการเกิดรอยดำ ฝ้ากระ

ถ้าจะกล่าวโดยสรุป ในส่วนของ Cosmelan 1 จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รอยฝ้าและรอยดำต่างๆดูจางลง พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส สดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยป้องกันการเกิดรอยดำใหม่ รวมถึงการกลับมาของรอยดำซ้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ สามารถเห็นผลได้ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว วิธีการใช้ก็เพียงมาส์กหน้าทิ้งไว้ 8-12 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและประเภทของสีผิว โดยให้ทาวาสลีนในบริเวณผิวหนังที่มีความบอบบาง เช่น มุมปาก,ใต้ตา หรือร่องจมูก เพื่อป้องกันการระคายเคือง ยกเว้นผิวรอบดวงตา และแนะนำให้ใช้จนหมดกระปุกภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ

COSMELAN 2 cream (maintenance cream)

เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะต้องใช้ควบคู่กันกับ COSMELAN 1 นั่นคือในส่วนของ COSMELAN 2 (maintenance cream) โดยให้ใช้ทาผิวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากมาส์กหน้าได้ 2 วัน  โดยมีส่วนประกอบที่มีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพในการรักษาและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น

  • Disodium Azelate ช่วยลดเลือนริ้วรอยการเกิดฝ้า พร้อมทั้งทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น
  • Kojic Acid ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด
  • วิตามิน B3 ช่วยป้องกันการเกิดรอยดำขึ้นใหม่
  • Phytic Acid ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส
  • Alpha arbutin ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินอย่างได้ผล พร้อมทั้งช่วยลดรอยหมองคล้ำและปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
  • Ascorbic Acid ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส มีชีวิตชีวามากขึ้น
  • Licorice ช่วยยับยั้งการผลิต Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างเมลานินหรือเม็ดสีผิว ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส ช่วยลดเลือนริ้วรอย พร้อมทั้งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยใหม่ขึ้นมา
  • Aloe barbadensis Leaf Juice สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแล้ว ยังดูดซึมน้ำได้เป็นอย่างดีและช่วยให้ผิวหนังอุ้มน้ำได้ดีขึ้นอีกด้วย พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cosmelan 1 MaskCosmelan 2 Cream

 

 

โดยให้ใช้หลังจากการทำความสะอาดผิวหน้าและซับให้แห้ง จากนั้นให้ทา cosmelan 2 ให้ทั่วผิวหน้ายกเว้นรอบดวงตา สามารถเริ่มใช้หลังการมาส์กหน้าด้วยcosmelan1 ได้ 2 วัน และใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

 

จะเห็นได้ว่า “กรดไฟติค (Phytic acid)” ไม่เพียงถูกนำมาใช้ในการบริโภคในปริมาณที่สมดุลและด้วยวิธีการที่ถูกต้องเพื่อคุณค่าทางโภชนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาฝ้ากระ จุดด่างดำอย่างได้ผล ในปริมาณความเข้มข้นที่พอเหมาะ ก็จะคงไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ ภายใต้การดูแลแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ไม่เพียงแค่เรื่องความปลอดภัยส่วนตัว แต่รวมถึงประสิทธิภาพในการรักษาที่ได้ผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย