รู้ทันปัญหาฝ้าเลือด พร้อมวิธีดูแลผิวอย่างไรให้ใสไกลฝ้า

ฝ้าปัญหาใหญ่กวนใจสำหรับใครหลาย ๆ คน ยิ่งอายุมากขึ้นมักเจอปัญหาฝ้ามากขึ้นทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย อย่างไรก็ตามการเกิดฝ้าไม่เพียงเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อายุเพิ่มขึ้นเท่านั้นแต่ยังเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับวัยหนุ่มสาวอีกด้วย โดยเฉพาะฝ้าเลือด เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่แก้ยาก ใช้เวลารักษานานพอสมควร หลายท่านผ่านการรักษามาหลายวิธีทั้งรักษาด้วยตัวเองไม่ว่าจะทาสกินแคร์ที่มีการโฆษณาว่าสามารถกำจัดฝ้าได้ ยารักษาฝ้า หรือแม้แต่การเดินเข้าคลินิกไปทำหัตถการแพง ๆ ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ บางคนไม่เห็นผลลัพธ์ใด ๆ หรือแย่ลงกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำไป ทั้งหมดนี้อาจจะเกิดจากการรักษาได้ไม่ตรงจุด วันนี้เราเลยมีสาระดี ๆ เกี่ยวกับฝ้าเลือดและการรักษาฝ้าเลือดมาแนะนำ เรามาทำความรู้จักกับฝ้าเลือด เราจะได้รู้เท่าทันถึงต้นตอที่มาของการเกิดฝ้ากันก่อน แล้วจะได้หาแนวทางในการป้องกันการเกิดฝ้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ฝ้าคืออะไร ฝ้า ( Melasma) คือบริเวณของผิวหนังที่เกิดปื้นหรือจุดสีดำหรือน้ำตาลอ่อนถึงเข้มมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังมีการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) มากขึ้นกว่าเซลล์ผิวหนังทั่วไป เมื่อมีการสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้นเม็ดสีเหล่านั้นจะถูกลำเลียงออกมายังชั้นผิวหนังบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้าจึงปรากฏเป็นรอยให้เห็นทั่วบริเวณต่าง ๆ เป็น รอยด่าง ปื้นสีดำหรือน้ำตาลซึ่งจะมีสีเข้มกว่าสีผิวปกติของเรา โดยตำแหน่งบริเวณที่พบสามารถเกิดได้หลายแห่งอาทิ ใบหน้า แก้ม หน้าผาก จมูก ริมฝีปาก ขมับ เป็นต้น การเกิดฝ้าสามารถพบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง โดยเฉพาะช่วงวัยอายุระหว่าง 30-40 ปี สาเหตุการเกิดฝ้า ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่มีสาเหตุการเกิดมาจากหลากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในร่างกายจึงส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นๆเกิดรอยหรือสีเข้มกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุและปัจจัยการเกิดฝ้าหลักๆมาจาก แสงแดด เป็นปัจจัยหลักของปัญหาการเกิดฝ้า […]

ไขคำตอบ ‘ฝ้าลึก’ คืออะไร พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ฝ้ามาเยือน

การเกิดฝ้าขึ้นบนใบหน้าถือว่าเป็นปัญหาชวนกลุ้มใจของใครหลาย ๆ คน เรียกได้ว่ามีฝ้าขึ้นเมื่อไรเหมือนกับฝันร้ายมาเยือน เพราะถือว่าเป็นปัญหาผิวที่ยากต่อการรักษา ยิ่งฝ้าลึกด้วยแล้วยิ่งยากที่จะขจัดให้เลือนหาย วันนี้เราลองมาเจาะลึกถึงปัญหาและกลไกการเกิดฝ้าลึก พร้อมวิธีป้องกันเพื่อให้ผิวของเราแข็งแรงและชะลอการเกิดฝ้าไม่ให้รุนแรงได้อย่างทันท่วงที ทำความรู้จักกับฝ้า ฝ้า (Melasma) เป็นลักษณะของความผิดปกติของผิวหนังที่จะมีอาการแสดงเป็นปื้นสีอ่อนคล้ำ ๆ ไปทางโทนน้ำตาลอ่อนและค่อนไปทางสีดำเข้ม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิด ความรุนแรง และระยะเวลาของการเกิดฝ้า ยิ่งฝ้าที่เป็นมาแล้วนาน ๆ ยิ่งคล้ำสีเข้มชัดเจน โดยส่วนใหญ่ฝ้ามักจะเกิดที่บริเวณโหนกแก้ม จมูก คาง นอกจากบนใบหน้าแล้วยังพบฝ้าได้ในบริเวณอื่น ๆ ได้อีก เช่น คอ ไหล่ แขน หน้าอก และหลัง ซึ่งฝ้านั้นมีหลากหลายชนิด เช่น ฝ้าลึก ฝ้าตื้น ฝ้าผสม ฝ้าเลือด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งการเกิดของฝ้านั้น ๆ ในชั้นผิวหนัง ชนิดและประเภทของฝ้า ฝ้าที่เกิดบนผิวหนังนั้นสามารถจำแนกประเภทได้ ดังนี้ ฝ้าตื้น (Epidermal) เป็นฝ้าที่เกิดบริเวณผิวชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้า มักจะมีขอบเข้มชัด ฝ้าประเภทนี้รักษาได้ง่าย เพราะสามารถกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ผิวและหลุดออกไปง่าย ฝ้าลึก (Dermal) เป็นฝ้าที่เกิดในชั้นผิวหนังแท้ สีจะออกน้ำตาลอมม่วงไปทางคล้ำ เนื่องจากอยู่ในผิวชั้นลึกจึงทำให้ฝ้ามีขอบเขตไม่ชัดเจน […]

ฝ้าระบุชนิดไม่ได้คืออะไร รักษาผิวหน้าอย่างไรให้ใสไกลฝ้า

ฝ้าปัญหาผิวที่สร้างความกลัดกลุ้มใจให้ใครหลาย ๆ คน ทำให้ขาดความมั่นใจในการเผยผิวหน้า เนื่องจากผิวหน้าไม่เรียบเรียบสม่ำเสมอ อีกทั้งยังปัญหาฝ้าเป็นปัญหาผิวที่ค่อนข้างรักษายากต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร ยิ่งเป็นฝ้าสะสมที่ไม่สามารถระบุชนิดได้ด้วยแล้วอาจต้องใช้หลากหลายวิธีและระยะเวลาในการรักษามากกว่าปกติ ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า “ฝ้าระบุชนิดไม่ได้” คืออะไร รักษาให้หายได้อย่างไร และเราสามารถดูแลผิวหน้าให้ห่างใสไกลฝ้าได้อย่างไร ลองตามาหาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้ ฝ้าคืออะไร และมีกี่ชนิด ฝ้า (Melasma) คือบริเวณที่ผิวหนังเกิดความผิดปกติจากการที่เซลล์ผิวหนังผลิตเม็ดสีผิวเมลานินมากขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ๆ มีลักษณะเป็นจุดปื้นสีนำตาลอ่อนไปถึงเข้ม บางรายอาจมีสีเทาหรือสีม่วงในบริเวณที่เกิดความผิวปกติ โดยทั่วไปการเกิดฝ้าสามารถเกิดในทั้งเพศชายและเพศหญิงโดยเฉพาะช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี อย่างไรก็ตามคนที่อายุน้อยกว่าช่วงวัยดังกล่าวก็สามารถเกิดฝ้าได้เช่นกัน ลักษณะการเกิดฝ้าหลัก ๆ มี 5 ชนิดแบ่งได้ ดังนี้ 1. ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma) เกิดบริเวณชั้นหนังกำพร้า มีขอบเขตชัด สีเข้ม 2. ฝ้าลึก (Dermal Melasma) เกิดบริเวณชั้นหนังแท้ จะไม่มีขอบเขตชัดเท่าฝ้าตื้น 3. ฝ้าผสม (Mixed Melasma) เป็นฝ้าที่ผสมกันทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึกในบริเวณเดียวกัน 4. ฝ้าเลือด (Telangiectatic Melasma) เป็นฝ้าที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบริเวณใบหน้า […]

บอกลาฝ้าผสมให้ผิวเกลี้ยงเกลากระจ่างใสด้วย 3 นวัตกรรมจาก mesoestetic

“ฝ้า” คำ ๆ เดียวที่ใครได้ฟังแล้วก็ต้องผวา เพราะถือว่าเป็นปัญหาผิวที่สร้างความหนักอกหนักใจให้ใครต่อใครมาหนักต่อหนัก เพราะถือว่าเป็นปัญหาผิวที่รักษาให้หายยากมากในบรรดาปัญหาผิวทั้งหมด ยิ่งใครที่เป็นฝ้าผสมด้วยแล้วยิ่งยากเข้าไปใหญ่ มาถึงตรงนี้อาจจะเกิดคำถามแล้วว่าฝ้าผสมคืออะไร แล้วทำไมถึงรักษายาก บทความนี้จะพาไปหาคำตอบและคลายข้อสงสัยนี้กันตั้งแต่สาเหตุและกลไกการเกิดฝ้า ลักษณะเฉพาะของฝ้าผสม ไปจนถึงเคล็ดลับการสยบฝ้าผสมให้จางหายได้ด้วยนวัตกรรมจาก mesoestetic จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นสามารถติดตามได้พร้อมกันเลย ฝ้าคืออะไร ฝ้า (Melasma) เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากกระบวนการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ใต้ชั้นผิว ทำให้เกิดความหมองคล้ำขึ้นบนชั้นผิว โดยลักษณะของฝ้าจะเป็นปื้นหรือจุดดำเข้มตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน ๆ ไปจนถึงม่วงคล้ำและดำ ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ ปัญญาฝ้าสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัยแต่มักจะพบในผู้ใหญ่ช่วงอายุตั้งแต่ 30 – 40 ปีขึ้นไป มักไม่ค่อยเกิดกับคนอายุน้อย เมลานินคืออะไร ดังได้กล่าวไปแล้วว่าเมลานินใต้ชั้นผิวของเราเป็นปัจจัยของการเกิดฝ้า เราลองมาทำความรู้จักกับเมลานินกันดีกว่า จริง ๆ แล้วเมลานินรงควัตถุทางธรรมชาติมีทั้งสีดำ สีน้ำตาล และสีเหลืองที่พบได้ในสิ่งมีชีวิตรวมไปถึงพืชผักผลไม้ เช่น องุ่น กล้วย เห็ด ฯลฯ ดังจะสังเกตเห็นได้จากพืชผักผลไม้เหล่านี้เวลาเกิดรอยช้ำหรือแผลมักจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลซึ่งเกิดจากการทำงานของเมลานินนั่นเอง ในชั้นผิวหนังของมนุษย์ก็มีเมลานินอยู่ โดยที่เมลานินถูกผลิตออกมจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่ชื่อว่าเมลาโนไซต์ (Melanocytes) โดยมีกรดอะมิโนไทโรซีน (tyrosine) ทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับเอนไซม์ไทโรซิเดส (tyrosinase) ซึ่งจะทำปฏิกิริยาที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนจนให้ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นเม็ดสีเมลานิน และเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะถูกบรรจุในแคปซูล […]

“ฝ้าตื้น” ป้องกันได้ถ้าดูแลผิวอย่างถูกวิธี

ปัญหาผิวที่ขึ้นชื่อว่ารักษายากที่สุดคงหนีไม่พ้นปัญหาฝ้าและริ้วรอย เพราะนอกจากจะมีสาเหตุมาจากแสงแดดหรือมลภาวะภายนอกแล้ว ปัจจัยเรื่องของอายุก็เป็นตัวแปรสำคัญ ยิ่งอายุมากขึ้นฝ้าและริ้วรอยก็จ่อมาเยือนกันถึงหน้าประตูบ้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะปัญหาฝ้าที่เมื่อเป็นขึ้นมาแล้วทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ ทำให้หน้าไม่กระจ่างสดใส ซึ่งแน่นอนว่าฝ้านั้นมีหลายประเภททั้งฝ้าตื้น ฝ้าเลือด ฝ้าผสม แต่วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงฝ้าตื้นกันแบบละเอียดถึงกลไกและสาเหตุการเกิดฝ้า และวิธีการป้องกันรักษาฝ้าเพื่อเป็นแนวทางในการดูแลป้องกันตนเองจากปัญหาฝ้าตื้นก่อนที่จะสายจนกลายเป็นฝ้าสะสมหรือฝ้าถาวร ทำความรู้จักฝ้าตื้น ฝ้าตื้นลักษณะของมันก็ตามชื่อเลยคือเป็นฝ้าที่เกิดขึ้นบนผิวหนังในชั้นผิวที่ตื้น ซึ่งโดยปกติผิวหนังของคนเราจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ใหญ่ ๆ ก็คือ ชั้นผิวแท้ซึ่งเป็นผิวชั้นลึกที่มีต่อมเหงื่อต่อมไขมันรวมไปถึงคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยผยุงโครงสร้างของผิว ส่วนอีกชั้นที่ถัดขึ้นมาเป็นผิวชั้นบนหรือที่เรียกว่าหนังกำพร้า ซึ่งเป็นผิวที่เรามองเห็นและสัมผัสได้ โดยฝ้าที่เกิดบนผิวชั้นบนหรือหนังกำพร้านี้เองที่เราเรียกว่าฝ้าตื้น ฝ้าตื้นต่างกับฝ้าชนิดอื่นอย่างไร แน่นอนว่าเมื่อมีฝ้าตื้นก็ต้องมีฝ้าลึก ดังได้กล่าวอธิบายไปข้างต้นว่าฝ้าตื้นนั้นเกิดในตำแหน่งชั้นผิวที่ตื้นหรือชั้นหนังกำพร้า ส่วนฝ้าลึกนั้นจะเกิดในชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นชั้นผิวระดับลึกก็เลยเรียกชื่อฝ้าที่เกิดบริเวณนี้ว่าเป็นฝ้าลึก ซึ่งมองดูด้วยตาเปล่าเราอาจไม่สามารถแยกแยะฝ้าทั้งสองประเภทนี้ได้ ต้องอาศัยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า Wood’s lamp ที่จะทำงานด้วยการฉายแสงสีฟ้าอมม่วงที่มีช่วงคลื่นแสงยาว 340-400 นาโนเมตร ซึ่งเมื่อนำมาส่องบนผิวในบริเวณที่เกิดฝ้าแล้วจุดดำหรือปื้นของฝ้ามีความเข้มขึ้นกว่าเดิมแสดงว่าเป็นฝ้าตื้น แต่ถ้าส่องแล้วฝ้าไม่เข้มขึ้นแสดงว่าเป็นฝ้าลึก ส่วนใครที่ส่องแล้วมีทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึกอยู่ร่วมกันจะเรียกว่าเป็นฝ้าผสม สาเหตุและกลไกการเกิดฝ้าตื้น กลไกการเกิดฝ้าเป็นกลไกเดียวกับการสร้างสีผิว ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารรงควัตถุที่สำคัญอย่างเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) โดยธรรมชาติแล้วใต้ชั้นผิวของเราจะมีเซลล์ที่ชื่อว่าเมลาโนไซต์ (Melanocytes) ทำหน้าที่ผลิตและสังเคราะห์เมลานินโดยอาศัยเอนไซม์ที่ชื่อว่าไทโรซิเดส (tyrosinase) แล้วนำส่งบรรจุในแคปซูล (melanosome) ขนส่งลำเลียงขึ้นไปสู่ผิวชั้นบนในบริเวณที่เรียกว่าเคราติโนไซต์ (keratinocyte) เกิดเป็นสีผิวขึ้น ซึ่งกรรมพันธุ์และเชื้อชาติของคนแต่ละคนก็ส่งผลต่อขนาดและจำนวนเมลานินที่แตกต่างกัน คนที่ผิวขาวจะมีปริมาณเมลานินน้อยกว่าคนผิวสีเข้ม ทว่า […]

สิวฮอร์โมน คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? รู้และเข้าใจวิธีรับมือแบบมือโปร

สิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมน ปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น หรือช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือสิวเม็ดใหญ่ที่มักขึ้นในจุดเดิมซ้ำ ๆ นอกจากทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและขาดความมั่นใจแล้ว หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือรอยดำได้  บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสาเหตุของสิวฮอร์โมน วิธีดูแลรักษาอย่างถูกต้อง และเคล็ดลับการดูแลผิวให้กลับมาใสเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมคำแนะนำที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริง  สิวฮอร์โมน คืออะไร ? สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) เป็นสิวชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย มักพบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น ช่วงมีประจำเดือน , มีการตั้งครรภ์ หรือภาวะที่ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) สูงกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวตามมา สิวฮอร์โมน มีลักษณะอย่างไร ? สิวฮอร์โมนสามารถเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ  และมักจะเกิดซ้ำที่บริเวณเดิม ๆ รวมถึงเวลาที่มีสิ่งเร้า เช่น ช่วงที่มีความเครียดสูง หรือใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล จนทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้ สิวฮอร์โมนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ สิวอุดตัน(Comedones)  สิวอักเสบ (Inflammatory acne)  สิวฮอร์โมน […]

เผยเคล็ดลับฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้กลับมามีสุขภาพดี

“ผิวไหม้แดด”  อีกหนึ่งปัญหาผิวที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับสาวๆที่ต้องการได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเป็นปกติอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นอาการที่ผิวโดนแดดเผา ซึ่งในรังสียูวีนั้นมีรังสียูวีที่พร้อมจะทำร้ายผิวทุกขณะ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หากปล่อยทิ้งเอาไว้ ไม่เพียงทำให้หน้าหมองคล้ำเท่านั้น แต่โครงสร้างผิวยังสามารถถูกทำลายให้อ่อนแอลง ทำให้ผิวคล้ำเสียสะสมขึ้น ทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบร้อน คัน ผิวหนังหลุดออกมา ไวต่อแสงแดดมากขึ้น ในบางรายมีตุ่มน้ำเกิดขึ้นด้วย และที่หนักไปกว่านั้นคืออาจมีรอยดำรอยแดงที่เกิดจากตุ่มน้ำได้เช่นกัน  แท้จริงแล้วผิวไหม้แดดคืออะไร นอกจากแสงแดดแล้วมีปัจจัยอะไรเป็นตัวกระตุ้น และจะมีวิธีดูแลฟื้นฟูสภาพผิวอย่างไรให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม เราจะมาทำความรู้จักกับอาการนี้ด้วยกันเพื่อที่จะสามารถรับมือได้ทันก่อนผิวไหม้ ผิวไหม้แดดคืออะไร ผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นหนึ่งในภาวะที่ผิวหนังเกิดการอักเสบเนื่องมาจากผิวหนังชั้นนอกถูกทำลายโดยรังสียูวีเอและยูวีบี ทำให้เกิดอาการผิวหนังแดง แสบร้อน ระคายเคือง หรือบวม เป็นแผลพุพองในกรณีที่ผิวไหม้แดดแบบรุนแรง ไม่เพียงเท่านั้น ในบางรายยังมีอาการหนาวสั่น คลื่นไว้ ปวดหัว อ่อนเพลียร่วมด้วย ซึ่งอาการผิวไหม้แดดนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ผิวโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง หรือบางคนอาการอาจจะแสดงออกมาในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่อาการจะรุนแรงที่สุดในช่วง 6-48 ชั่วโมงหลังจากที่โดนแดด และหลังจากที่ผิวไหม้แดดได้ประมาณ 2-3 วัน จะมีอาการคันและผิวหนังจะลอก ซึ่งเป็นกระบวนการเยียวยาตัวเองของร่างกายตามธรรมชาติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-8 วัน ในช่วงนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ ไม่ควรลอก แกะ เกา […]

สยบสิวผด หมดปัญหาผิวขรุขระไม่เรียบเนียน

ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและมลพิษต่างๆมากมาย ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพผิวหน้า ทำให้เกิดปัญหาที่ยากจะหลีกเลี่ยง อย่าง “สิวผด” แม้จะเป็นตุ่มเล็กๆแต่หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องก็สามารถทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ เมื่อสัมผัสจะพบว่าผิวหน้าขรุขระ ไม่เรียบเนียน ที่ไม่เพียงทำให้ขาดความมั่นใจ แต่ “สิวผด” ยังเป็นสัญญาณอันตรายที่แสดงให้เห็นว่าผิวกำลังอ่อนแอหรือกำลังแพ้อะไรบางอย่าง แท้จริงแล้วสิวผดมีสาเหตุมาจากอะไร สามารถรักษาและดูแลผิวในขณะที่มีสิวผดได้อย่างไรบ้าง เราจะมารู้จักกับสิวประเภทนี้ด้วยกัน เพื่อหาทางสร้างเกราะป้องกันและคืนความแข็งแรงให้กับผิวอีกครั้ง ลักษณะของสิวผด “สิวผด” (Acne Aestivalis หรือ Mallorca Acne) เป็นหนึ่งในประเภทของสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่ม ผื่นเล็กๆ มีทั้งแบบเม็ดเล็กๆหัวปิด (papules) และเป็นตุ่มน้ำใสๆข้างใน มีขนาดใกล้เคียงกัน ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร  มักกระจายอยู่ตามจุดต่างๆทั่วใบหน้า เมื่อเอามือลูบจะรู้สึกสากๆ ผิวหน้าไม่เรียบเนียนในบริเวณที่มีสิวผด ในบางทฤษฎีกล่าวว่าสิวผดคือหนึ่งในผื่นที่มีสาเหตุมาจากแสงแดด (polymorphous light eruption) และรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต ที่มักจะดูเรียบเนียน ไม่มีอาการในเวลาเช้า แต่จะเห่อขึ้นและเห็นได้ชัดในช่วงบ่าย ที่มีอากาศร้อนหรือเหงื่อออก ซึ่งบริเวณที่มีสิวผดอาจจะมีตุ่มหรือผื่นสีแดงรอบๆ ในบางกรณีอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย  สิ่งที่น่าสนใจคือยิ่งล้างหน้าบ่อยก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวผด และนอกจากนั้นยังมีโอกาสพัฒนาเป็นสิวผดเรื้อรังหรือสิวอักเสบตามมา หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง บริเวณที่มักเกิดสิวผด สิวผดสามารถเกิดขึ้นได้ตามจุดต่างๆ ทั่วใบหน้า แต่มีตำแหน่งที่พบได้บ่อย ดังต่อไปนี้ สิวผดที่หน้าผาก […]

รักษาหลุมสิวอย่างไรให้เห็นผล ผิวหน้าเรียบเนียน ไร้ที่ติ

เป็นสิวอย่างเดียวไม่พอ สิวหายแล้วหน้ายังเป็นหลุมอีก หลุมสิว ปัญหาผิวหน้าที่มาจากผลของการเป็นสิวอักเสบ โดยจะทำให้ใบหน้าเป็นรอย ไม่เรียบเนียน จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ใครที่มีความกังวลอยู่มาดูวิธีรักษาหลุมสิวให้เห็นผล เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียนไร้ที่ติกันค่ะ หลุมสิวคืออะไร รอยแผลเป็นจากการอักเสบของสิวหลังจากสิวหาย มีการหลั่งสารเอนไซม์ออกมาทำลายคอลลาเจนบริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบุ๋มลงไป มักมาจากสิวอักเสบที่ลงลึกถึงผิวชั้นใน เช่น สิวหนอง สิวหัวช้างขนาดใหญ่ที่มีแผลลึกจนไม่สามารถสมานได้เต็มที่ เนื่องจากเกิดพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบตัวลงไปตามกระบวนการรักษาแผลของร่างกาย ซึ่งเห็นเป็นรอยบุ๋มในผิว ผิวไม่เรียบเนียน เป็นหลุมลึกบนใบหน้า หลุมสิวเกิดจากอะไร ตอนเป็นสิวก็สร้างจุดเด่นให้ใบหน้าแล้ว พอสิวหายก็ยังสร้างรอยแผลเป็นไว้ให้ดูต่างหน้าอีก หลุมสิวคือผลกระทบที่เกิดจากปัญหาสิวที่มีการอักเสบ รวมถึงสิวอุดตันด้วย โดยปกติหลังจากสิวหายแล้วจะมีกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังโดยไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น ใช้เวลาประมาณ 7-10 วันหลังจากสิวหาย จะมีการสร้างเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนล้อมรอบบริเวณที่มีการอักเสบ ซึ่งถ้ากระบวนการนี้เกิดได้อย่างสมบูรณ์ก็จะไม่มีรอยแผลเป็นจากการเกิดสิว แต่ถ้ากระบวนการนี้เกิดขึ้นแบบไม่สมบูรณ์ หรือผิวเกิดการอักเสบขั้นรุนแรงจนทำให้ผิวยุบตัวลง สร้างคอลลาเจนใหม่ไม่เพียงพอต่อคอลลาเจนที่ถูกทำลายไป เซลล์เนื้อเยื่อเกิดการหดรัดตัวจนทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวได้ สำหรับการเป็นสิวสามารถเกิดรอยแผลเป็นได้ถึง 95% ของคนที่เป็นสิว แต่รอยแผลเป็นจากสิวที่รุนแรง หรือมีหลุมสิวพบได้ประมาณ 22% เกิดจากปฏิกิริยาการอักเสบรุนแรงที่เกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ มีการตอบสนองกับเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า P.acnes ทำให้เกิดรอยแผลเป็นแบบถาวร เพราะมีการทำร้ายผิวโดยทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อรอบๆถูกทำลายลง ตัวการสำคัญคือสิวเม็ดใหญ่ โดยเฉพาะสิวหัวช้าง จะทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ลงลึกถึงชั้นผิวหนังชั้นใน เกิดเป็นหลุมลึกและผังผืดตามมา ประเภทของหลุมสิว Rolling Soar หลุมสิวระดับทั่วไป […]

ผิวแห้ง เกิดจากอะไร วิธีแก้ไข และการป้องกันที่ถูกต้อง

ใกล้หน้าหนาวทีไรรู้สึกผิวแห้งทุกที การมีผิวพรรณที่สดใส ดูสุขภาพดี จะช่วยให้มีความมั่นใจมากขึ้น เป็นความปรารถนาของหลายๆ คนที่อยากให้ผิวของตัวเองชุ่มชื้น เนียนเด้งอยู่เสมอ แต่ปัญหาผิวหนังแห้งกร้านมักจะมาทำลายความฝันนี้ลงไปได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องหาสาเหตุ วิธีแก้ไข และแนวทางป้องกันอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวของเราดูสุขภาพดีตลอดเวลา เสริมสร้างความมั่นใจได้ทุกวัน ทำความรู้จักกับอาการผิวแห้ง ผิวหนังแห้ง คือลักษณะของผิวที่ไม่มีความมันเกาะตัวอยู่บนชั้นผิว ซึ่งจะสังเกตได้จากความรู้สึกแห้งตึงผิวหลังล้างหน้าหรืออาบน้ำ สาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาการผิวแห้งอาจจะไม่รุนแรงมากแต่มักจะสร้างปัญหาให้กับทุกคนได้อยู่เสมอ เนื่องจากสภาพผิวจะมีความแห้งกร้าน ผิวแตกลอกออกเป็นขุยหรือเป็นแผ่นออกมาจนสังเกตได้ จนนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น ผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ บางคนเมื่อผิวลอกมากๆมักจะเกิดอาการแสบ ระคายเคืองผิว ยิ่งเวลาไปเจอแสงแดดผิวก็จะเสื่อมสภาพได้ง่าย ด้วยเหตุนี้การดูแลผิวที่แห้งกร้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ผิวแห้งเกิดจากอะไร ผิวแห้งเกิดจากชั้นไขมันในผิว หรือที่เรียกว่า lipid barrior ได้ถูกทำลายไปจนทำให้มีการสูญเสียความชุ่มชื้นออกจากผิวมากกว่าปกติ เกิดเป็นผิวที่แห้งกร้าน ตึง ลอกเป็นขุย หากไม่ดูแลผิวก็อาจส่งผลให้เกิดอาการทางผิวหนังอื่นๆตามมาได้ เช่น การติดเชื้อทางผิวหนัง คนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน สาเหตุพื้นฐานหลักๆจะมีอยู่ 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม ปัจจัยภายในร่างกายที่ทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดจากต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวไม่สามารถทำได้ในปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ดูแห้งกร้าน ลอกเป็นขุยได้ง่าย หรือเกิดจากลักษณะทางพันธุกรรมคนในครอบครัว อาจเกิดปัญหาผิวหนังแห้งก็เป็นได้ ปัจจัยภายนอกร่างกายที่ทำให้ผิวหนังแห้ง […]