เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่เป็นสายสกินแคร์ตัวแม่คร่ำหวอดในวงการเลือกใช้สกินแคร์จากส่วนผสม หรือ active ingredient คงต้องเคยได้ยินชื่อ Bisabolol กันมาบ้าง เพราะเป็นสารสกัดที่โดดเด่นมาในเรื่องการปลอบประโลมผิวให้ชุ่มชื้นลดอาการแพ้ระคายเคืองตัวมาแรงเป็นนวัตกรรมสารสกัดที่เป็นที่นิยมมากในวงการสกินแคร์ บทความนี้เลยอยากจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักสารสกัด Bisabolol ให้มากขึ้นว่าแท้จริงแล้วคืออะไร มีประสิทธิภาพช่วยบำรุงดูแลผิวอย่างไร หาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้เลย ทำความรู้จัก Bisabolol ถ้าพูดถึง Bisabolol คนส่วนใหญ่อาจจะยังงง ๆ ดูเข้าใจยากไปสักหน่อย แต่จริง ๆ แล้วหากพูดให้เข้าใจง่ายมันก็คือสารสกัดของดอกคาโมมายล์ ซึ่งเป็นน้ำมันหอมละเหยตามธรรมชาติ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นคนที่ชอบดื่มชาคาโมมายล์อยู่เป็นประจำแล้วคุณก็คงจะเคยได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ และช่วยให้นอนหลับได้ง่าย ซึ่งกลิ่นที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายนี่แหละคือ Bisabolol กล่าวได้ว่า Bisabolol เป็นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกคาโมมายล์ พบมาในดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นอโรม่าอ่อน ๆ ซึ่งนอกจากจะสกัดได้จากดอกคาโมมายล์ตามธรรมชาติแล้วยังสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ในห้องปฏิบัติการ คุณสมบัติของ Bisabolol ช่วยต้านการระคายเคือง ต้านการอักเสบ และต่อต้านจุลินทรีย์ เป็นสารปลอบประโลมผิวที่ทรงพลังและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ประโยชน์ของ Bisabolol ต่อต้านการอักเสบ ด้วยความที่ Bisabolol […]
Monthly Archives: April 2023
ผิวแตกลาย (Stretch Marks) เป็นปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก การตั้งครรภ์ หรือการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็ว ล้วนส่งผลให้ผิวเกิดรอยเส้นบาง ๆ มีสีแดง ม่วง หรือขาว ที่ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน หลายคนอาจสงสัยว่า ผิวแตกลายเกิดขึ้นได้อย่างไร? สามารถป้องกันหรือรักษาได้หรือไม่? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุของผิวแตกลาย วิธีดูแล และแนวทางการฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ผิวแตกลาย คืออะไร? รู้จักปัญหาผิวที่หลายคนกังวล ผิวแตกลาย (Stretch Marks หรือ Striae) คือ รอยแผลเป็นบนผิวหนัง ที่เกิดจากการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว จนทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวฉีกขาด ส่งผลให้เกิดรอยแตกที่มักมีลักษณะเป็นเส้นสีแดง ม่วง หรือขาว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งในระยะเริ่มแรก ผิวหนังมักจะมีสีแดงหรือม่วง แต่หลังจากนั้น สีผิวจะอ่อนลงเรื่อย ๆ จนเป็นสีขาวขุ่น เป็นร่องแคบ ๆ ที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนัง มีลักษณะเหมือนรอยแยก ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงมากถึงร้อยละ 50 พบมากที่บริเวณหน้าท้อง , สะโพกและต้นขา , หน้าอก , หลังและแขน รวมถึงเขาและขา […]
“วิตามินบี” เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดี mesoestetic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิตามินบีกันแบบอินเทนซีฟ ถึงคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณ รวมถึงเคล็ดลับการดูแลผิวให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ คืนความมั่นใจให้คุณได้อย่างแน่นอน วิตามินบี คืออะไร? วิตามินบี เป็นกลุ่มของวิตามินที่ละลายในน้ำ และมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะเจาะจงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการบำรุงผิวพรรณ โดยชนิดของวิตามินบีที่มีประโยชน์ต่อผิว ดังต่อไปนี้ ประโยชน์ของวิตามินบีต่อสุขภาพผิว การดูแลผิวให้สวยและสุขภาพดี นอกจากการได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังต้องเลือกสรรส่วนผสมที่อยู่ในครีมบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟู และเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรงอย่างวิตามินบี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวพรรณของคุณ ดังนี้ เสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier Protection) วิตามินบี3 หรือ Niacinamide มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการเสริมเกราะปกป้องผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และช่วยลดการระคายเคืองจากปัจจัยภายนอก โดยสามารถลดการแห้งกร้านของผิว , ช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มขึ้น และช่วยป้องกันปัญหาผิวแพ้ง่าย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ (Brightening Effect) วิตามินบี3 (Niacinamide) สามารถยังช่วยลดการผลิตเมลานินในชั้นผิว จึงมีคุณสมบัติในการลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิว ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดปัญหารอยหมองคล้ำ พร้อมปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ […]
ในแวดวงสกินแคร์และความสวยความงามต่างก็มีการศึกษาวิจัยกันอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นพบสารสกัดใหม่ ๆ มาเป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ให้ผิวสุขภาพดีแข็งแรง ซึ่งหนึ่งในสารสกัดสำคัญกำลังมาแรงและถูกพูดถึงกันมากก็คือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง หรือ Rhodosorus marinus extract มีงานวิจัยตีพิมพ์รับรองผลการศึกษามากมายถึงสรรพคุณและกลไกการออกฤทธิ์ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้จริง บทความนี้จะพาคุณไปไขความลับและทำความรู้จักกับสาหร่ายสีแดงให้มากขึ้นกัน ว่าสารสกัดตัวนี้นั้นเป็นอย่างไร แล้วช่วยฟื้นฟูดดูแลเซลล์ผิวได้อย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับสาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีแดงเป็นสาหร่ายที่พบมากในน้ำทะเลมากกว่าน้ำจืด สามารถจำแนกชนิดย่อยออกได้อีกกว่า 5,000 – 5,500 ชนิด ซึ่งสาหร่ายสีแดงจัดว่าเป็นชนิดของสาหร่ายที่พบมากที่สุดในน้ำทะเลเลยทีเดียว ในสาหร่ายสีแดงมีรงควัตถุคลอโรฟิลล์ที่ช่วยสังเคราะห์แสง นอกจากนั้นยังมีรงควัตถุในกลุ่มของไฟโคบิลิน แต่ที่เด่นเลยก็คือรงควัตุถุในกลุ่มแซนโธฟิลล์ซึ่งเป็นสารที่มีสีแดงชมพูหลายชนิด เช่น ลูเทอีน ซีอาแซนทิน ไวโอลาแซนธิน และแอสตาแซนธิน แต่ตัวที่โดดเด่นก็คือแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มของแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) นอกจากจะพบในสาหร่ายสีแดงแล้วสารกลุ่มนี้ยังพบมากในกลุ่มพืชผักและเนื้อสัตว์ที่มีสีส้มแดง เช่น กุ้ง ปู ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ แครอท บีตรูท มะเขือม่วง มะเขือเทศ เป็นต้น แอสตาแซนธินจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) […]
Sunflower seed oil เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดของดอกทานตะวันที่นำมาสกัดออกมาเป็นน้ำมัน โดยจะทำการบีบอัดเมล็ดทานตะวันให้ได้น้ำมันออกมา ซึ่งน้ำมันจากดอกทานตะวันนั้นถือเป็น1สารสกัดจากธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพผิวและยังช่วยบำรุงดูแลผิวพรรณของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยน้ำมันดอกทานตะวันนั้นจะมีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ต่อผิวทั้งยังมีวิตามันอี โอเมก้า6 กรดไลโนเลอิกอีกด้วย โดยน้ำมันดอกทานตะวันนั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภทซึ่งกรดไขมันและคุณสมบัติก็จะแตกกต่างกันไปตามแต่ละประเภท ซึ่งประเภทของน้ำมันดอกทานตะวันก็จะมีด้วยกันอยู่ 3 ชนิด โดยจะแบ่งตามชนิดและปริมาณกรดไขมันในน้ำมันดอกทานตะวัน ประเภทของ Sunflower seed oil หรือ น้ำมันดอกทานตะวัน โดยทางสมาคมดอกทานตะวันได้มีการจัดการผสมพันธ์ของดอกทานตะวันเพื่อให้มีนมันชนิดต่างๆ กัน ซึ่งน้ำมันเมล็ดดอกทาตะวันจะแบ่งเป็น 3 ชนิดตามปริมาณของกรดไขมัน โดยจะมี ดังนี้ ดอกทานตะวันที่มีกรดไขมัน Linoleic สูง เป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อนสูงและยังขาดโอเมก้า3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย จึงทำให้เป็นน้ำมันชนิดที่ไม่ค่อยนิยมในการบริโภคเนื่องจากการทานน้ำมันดอกทานตะวันไลโนเลอิกอาจจะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลในร่างกายของนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับโอเมก้า3 เพิ่มมากขึ้น นั่นเอง ดอกทานตะวัน Nusun หรือ Mid-oleic เป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่นิยมผลิตและบริโภคโดยจะนิยมใช้กันเป็นอย่างมากในแถบอเมริกาและแคนาดา โดยดอกทานตะวันชนิดนี้เกิดจากการปรับปรุงพันธ์ดอกทานตะวันให้มีปริมาณ oleic ต่อ linoleic จึงทำให้สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารทั้งทอด ผัด ทำน้ำสัด ได้อีกด้วย จึงทำให้น้ำมันดอกทานตะวันชนิดนี้เป็นน้ำมันที่นิยมนำมารับประทานและใช้ประกอบอาหารเป็นส่วนมาก ดอกทานตะวันที่มี Oleic สูง (High oleic) ถือเป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่ดีและยอดเยี่ยมที่สุด […]
“ผิวเฟิร์ม ยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อย” นี่คงเป็นสุดยอดสภาพผิวกายที่ใครหลายคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องด้วยหลายปัจจัยที่ส่งผลให้สภาพผิวของคนเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เสื่อมสภาพตามวัยหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ผิวขาดความยืนหยุ่นกระชับด้วย แล้วจะมีทางออกหรือวิธีแก้ไข รวมถึงการป้องกันอย่างไรบ้าง เพื่อทวงคืนผิวที่มีสุขภาพดี มีความกระชับกลับคืนมาได้อีกครั้ง เราจะมาเรียนรู้ด้วยกันผ่านบทความนี้ ผิวขาดความยืดหยุ่นคืออะไร ผิวขาดความยืดหยุ่น เป็นสภาวะของผิวที่ขาดคอลลาเจนหรือคอลลาเจนในร่างกายเสื่อมและลดปริมาณลง เนื่องจากว่า คอลลาเจนพบได้มากในชั้นผิวหนัง ในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นผิวหนังของคนเราจะมีคอลลาเจนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูง แต่ต่อมาเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เส้นใยของคอลลาเจนก็จะมีการเสื่อมสภาพลง ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของผิวหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ความสำคัญของคอลลาเจนในชั้นผิว คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้มากที่สุดในร่างกายของคนเรา โดยลักษณะของเส้นใยคอลลาเจนจะคล้ายสายเกลียว ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกรดอะมิโน (Amino acid) หลายชนิดต่อกันเป็นสายยาวหรือที่เรียกว่าโพรลีนและไกลซีน โดยมีหน้าที่เชื่อมเซลล์ต่างๆในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด ให้ยึดติดกันเอาไว้ แต่เมื่อปริมาณของคอลลาเจนลดน้อยหรือเสื่อมสภาพลง จึงทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งกร้าน หยาบกระด้าง ไม่เต่งตึง ผิวมีริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย นอกจากนั้นยังทำให้แผลสมานตัวช้าลง ผมขาดหลุดร่วงง่าย มีอาการปวดตามข้อต่อ ทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันน้อยลง เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราสามารถพบสภาพผิวที่ขาดความยืดหยุ่นได้ในบริเวณ […]
“เซลลูไลท์” หรือ “ผิวเปลือกส้ม” อีกหนึ่งปัญหาความงามเกี่ยวกับความสวยงามของเรือนร่างที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ เพราะสามารถทำให้มองเห็นไขมันสะสม ผิวไม่เรียบเนียน ดูขรุขระอยู่ตามแขน ตามขาได้อย่างชัดเจน เนื่องจากความหนาแน่นของเซลล์ไขมันผิดรูป เราจะมาทำความรู้จักกับเซลล์ไลท์กันให้มากขึ้น ถึงสาเหตุหรือที่มา รวมถึงแนวทางในการกำจัด รักษาและการป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรง เซลลูไลท์คืออะไร เซลลูไลท์ (Cellulite) คือเซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวมาสะสมรวมกันอัดแน่นอยู่อย่างหนาแน่นใต้ชั้นผิวหนังที่มากกว่าปกติ ทำให้ผนังชั้นที่หุ้มเซลล์ผิวเกิดคลื่น บิดเบี้ยว ขรุขระ แลดูตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับผิวเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด ในบางรายมีลักษณะเป็นลอนๆ เนื่องจากมีไขมันสะสมเป็นก้อนผสมรวมกับของเสียและน้ำ ซึ่งในแต่ละก้อนไขมันจะมีเยื่อเหนียวๆหุ้มอยู่ เมื่อมองจากภายนอกทำให้เห็นลอนของไขมันได้อย่างชัดเจน มักพบบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน ก้นและหน้าท้อง พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย สามารถพบได้ทั้งในคนอ้วนและคนผอม พัฒนาการ 4 ระยะของเซลลูไลท์ เซลลูไลท์มีพัฒนาการในระยะต่างๆตั้งแต่ระดับไม่มากจนถึงระดับที่รักษาได้ยาก ดังต่อไปนี้ ระยะศูนย์ – เป็นระยะที่เริ่มมีพังผืดเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่มากนัก ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ระยะที่ 1 – มองไม่เห็นรอยชัดเจน แต่เมื่อหยิบผิวหนังขึ้นมาจะพบว่ามีรอยบุ๋มเกิดขึ้น ระยะที่ 2 – เริ่มมองเห็นรอยของเซลลูไลท์ได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่ยืนปกติโดยไม่ต้องหยิบผิวหนังขึ้นมา ระยะที่ 3 – สามารถมองเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดเจนที่สุดทั้งในเวลายืนหรือนอน […]
รูปร่างที่ดีสมส่วน เป็นสุดยอดปรารถนาของใครหลายคน โดยเฉพาะสาวๆที่ต้องการหุ่นที่เพอร์เฟ็ค สมส่วน ใส่ชุดไหนก็มีความมั่นใจเต็มร้อย แต่ศัตรูตัวฉกาจที่สามารถทำลายหุ่นสวยๆของคุณก็คือ “ไขมัน” ซึ่งแท้จริงแล้วถ้าบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ไขมันก็มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าหากรับประทานมากจนเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดการสะสมและพอกพูนอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย ทั้งหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือที่เราเรียกกันว่า “ไขมันส่วนเกิน” ไม่เพียงส่งผลกระทบเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ไขมันที่เกินมายังสามารถทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น แท้จริงแล้ว “ไขมันส่วนเกิน”มาจากไหน จะมีวิธีจัดการและป้องกันอย่างไร ที่ไม่ส่งผลเสียหายต่อสุขภาพโดยรวมและมีรูปร่างที่ดี ผิวเรียบเนียนกระชับมากขึ้น ลักษณะของเนื้อเยื่อไขมัน โดยทั่วไปแล้ว ในร่างกายของเรา มีลักษณะเนื้อเยื่อไขมันอยู่ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ ไขมันสีน้ำตาล (BROWN ADIPOSE TISSUE; BAT) เป็นไขมันที่พบได้มากในวัยเด็ก แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ก็จะมีปริมาณลดลง เป็นไขมันที่มีธาตุเหล็กเป็นจำนวนมาก ช่วยในการเผาผลาญไขมันให้กลายเป็นพลังงานความร้อน เพื่อรักษาสมดุลอุณหภูมิในร่างกาย ไขมันสีขาว(WHITE ADIPOSE TISSUE; WAT) ทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมพลังงาน เพื่อร่างกายสามารถนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน ประเภทของไขมันที่สะสมในร่างกาย ตามธรรมชาติ ในร่างกายของคนเรา จะมีไขมันที่สะสมเอาไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายอยู่ […]
แคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารให้ความเผ็ดที่อยู่ในพริกมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและลดอาการปวดเมื่อยได้ โดยในวงการแพทย์นั้นยังได้นำสารที่ให้ความเผ็ดนี้มาใช้ในยาขับลม แก้ขัดตามข้อ กระตุ้นน้ำย่อยทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย เนื่องจากในพริกนั้นมีทั้งวิตามินเอ ซี และโปรตีนต่างๆ ซึ่งพริกก็เป็นอาหารที่เราต่างพบเจอในอาหารที่รับประทานเป็นประจำอยู่แล้วโดยพริกถือเป็นพืชที่นิยมปลูกกันอย่างมาก ฉะนั้นแล้วเราจะมาทำความศึกษาเกี่ยวกับพริกกันมากขึ้นว่านอกจะให้ความเผ็ดแล้วยังให้ประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง Capsaicin ในพริก คืออะไร โดยพริกเป็นผักที่นิยมนำประกอบอาหารในหลากหลายประเภทที่ถือว่าขาดไม่ได้เลยทีเดียวอีกทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรมักนิยมปลูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในพริกนั้นจะมีสารที่ให้ความเผ็ดชื่อว่า แคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติจำพวกอัลคาลอยด์ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทนทานต่อความร้อนและเย็ยจึงทำให้ไม่ว่าจะนำไปต้มหรือแช่เย็นก็ยังคงความเผ็ดไว้ได้อยู่ โดย แคปไซซิน Capsaicin นั้นจะอยู่ภายในผลหรือภายในเม็ดพริกซึ่งจะอยู่ในเยื่อแกนกลางสีขาวหรือ รก (placenta) แคปไซซิน (Capsaicin) พบได้มากที่สุดในบริเวณไหนของพริก โดยแคปไซซินจะกระจายอยู่ทุกส่วนของพริก แต่จะพบมากที่สุดคือส่วนของรกพริกหรือแกนกลางสีขาวนั่นเอง โดยปริมาณของแคปไซซินนั้นจะขึ้นอยู่แต่ละสายพันธุ์และระยะการสุกของพริก นอกจากนั้นแล้วสารแคปไซซินก็ยังพบได้ในพืชผักชนิดอื่นๆ ที่ให้รสชาติเผ็ดร้อนได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น ขิง กระเทียม หอมหัวใหญ่ พริกไทย เป็นต้น ยิ่งพืชผักชนิดนั้นมีความเผ็ดมากแสดงว่ามีสารแคปไซซินอยู่มากนั่นเอง ประโยชน์ของ Capsaicin ที่ให้มากกว่าความเผ็ด นอกจากสารแคปไซซินจะโดดเด่นในเรื่องของความเผ็ดร้อนแล้ว ก็ยังให้คุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ในทางการแพทย์ที่จะนำไปเป็นส่วนผสมในตัวยาต่างๆ หรือครีม เจลที่ลดอาการปวด เป็นต้น โดยประโยชน์ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ซึ่งสารแคปไซซินจะให้ประโยชน์ ดังนี้ ช่วยให้มีความอยากอาหารมากขึ้น […]
คาเฟอีน (caffeine) คือ สารแซนทีนอัลคาลอยด์ ที่มักพบได้ในเครื่องดื่มหลายชิด ไม่ว่าจะเป็น โคล่า โกโก้ ช็อคโกแลตหรือชา กาแฟ โดยในเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย ซึ่งสรรพคุณของคาเฟอีนนั้นจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและลดอาการง่วง จึงทำให้ผู้คนนิยมดื่มกันในช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเป่า ซึ่งในบางคนหากไม่ได้รับคาเฟอีนในช่วงเช้าก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ใจสั่น มือสั่น ปวดหัวซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล นอกจากนั้นแล้วคาเฟอีนยังแบ่งเป็น 2 ชนิดอีกด้วย โดยเป็น คาเฟอีนตามธรรมชาติ และคาเฟอีนสังเคราะห์ ดังนั้นแล้วเราจึงมาทำความรู้จักกับคาเฟอีนกันให้มากขึ้นเพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากการทานคาเฟอีนเพื่อสุขภาพและร่างกายที่ดีของเรากัน ชนิดของ คาเฟอีน มีกี่ประเภท ในหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าคาเฟอีนในปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท ซึ่งบางคนอาจจะเคยทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้ง 2 ชนิดผสมอยู่แต่ยังไม่รู้ตัวก็ได้ โดยคาเฟอีนทั้ง 2 ชนิด มีดังนี้ ประโยชน์ของ คาเฟอีน (caffeine) ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย โดยสรรพคุณของคาเฟอีน (caffeine) นอกจะช่วยในเรื่องของการตื่นตัว เนื่องจากคาเฟอีนจะเข้าไปบล็อก อะดีโนซิน (adenosine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกง่วง อ่อนเพลีย จึงทำให้เราง่วงและไม่อยากทำอะไรนั่นเอง แต่นอกจากนั้นแล้วคาเฟอีนก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย ดังนี้ สมอง […]
- 1
- 2