ในแวดวงสกินแคร์และความสวยความงามต่างก็มีการศึกษาวิจัยกันอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นพบสารสกัดใหม่ ๆ มาเป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ให้ผิวสุขภาพดีแข็งแรง ซึ่งหนึ่งในสารสกัดสำคัญกำลังมาแรงและถูกพูดถึงกันมากก็คือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง หรือ Rhodosorus marinus extract มีงานวิจัยตีพิมพ์รับรองผลการศึกษามากมายถึงสรรพคุณและกลไกการออกฤทธิ์ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้จริง บทความนี้จะพาคุณไปไขความลับและทำความรู้จักกับสาหร่ายสีแดงให้มากขึ้นกัน ว่าสารสกัดตัวนี้นั้นเป็นอย่างไร แล้วช่วยฟื้นฟูดดูแลเซลล์ผิวได้อย่างไรบ้าง ทำความรู้จักกับสาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีแดงเป็นสาหร่ายที่พบมากในน้ำทะเลมากกว่าน้ำจืด สามารถจำแนกชนิดย่อยออกได้อีกกว่า 5,000 – 5,500 ชนิด ซึ่งสาหร่ายสีแดงจัดว่าเป็นชนิดของสาหร่ายที่พบมากที่สุดในน้ำทะเลเลยทีเดียว ในสาหร่ายสีแดงมีรงควัตถุคลอโรฟิลล์ที่ช่วยสังเคราะห์แสง นอกจากนั้นยังมีรงควัตถุในกลุ่มของไฟโคบิลิน แต่ที่เด่นเลยก็คือรงควัตุถุในกลุ่มแซนโธฟิลล์ซึ่งเป็นสารที่มีสีแดงชมพูหลายชนิด เช่น ลูเทอีน ซีอาแซนทิน ไวโอลาแซนธิน และแอสตาแซนธิน แต่ตัวที่โดดเด่นก็คือแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มของแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) นอกจากจะพบในสาหร่ายสีแดงแล้วสารกลุ่มนี้ยังพบมากในกลุ่มพืชผักและเนื้อสัตว์ที่มีสีส้มแดง เช่น กุ้ง ปู ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ แครอท บีตรูท มะเขือม่วง มะเขือเทศ เป็นต้น แอสตาแซนธินจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) […]
Sunflower seed oil เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดของดอกทานตะวันที่นำมาสกัดออกมาเป็นน้ำมัน โดยจะทำการบีบอัดเมล็ดทานตะวันให้ได้น้ำมันออกมา ซึ่งน้ำมันจากดอกทานตะวันนั้นถือเป็น1สารสกัดจากธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพผิวและยังช่วยบำรุงดูแลผิวพรรณของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยน้ำมันดอกทานตะวันนั้นจะมีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ต่อผิวทั้งยังมีวิตามันอี โอเมก้า6 กรดไลโนเลอิกอีกด้วย โดยน้ำมันดอกทานตะวันนั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภทซึ่งกรดไขมันและคุณสมบัติก็จะแตกกต่างกันไปตามแต่ละประเภท ซึ่งประเภทของน้ำมันดอกทานตะวันก็จะมีด้วยกันอยู่ 3 ชนิด โดยจะแบ่งตามชนิดและปริมาณกรดไขมันในน้ำมันดอกทานตะวัน ประเภทของ Sunflower seed oil หรือ น้ำมันดอกทานตะวัน โดยทางสมาคมดอกทานตะวันได้มีการจัดการผสมพันธ์ของดอกทานตะวันเพื่อให้มีนมันชนิดต่างๆ กัน ซึ่งน้ำมันเมล็ดดอกทาตะวันจะแบ่งเป็น 3 ชนิดตามปริมาณของกรดไขมัน โดยจะมี ดังนี้ ดอกทานตะวันที่มีกรดไขมัน Linoleic สูง เป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อนสูงและยังขาดโอเมก้า3 ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย จึงทำให้เป็นน้ำมันชนิดที่ไม่ค่อยนิยมในการบริโภคเนื่องจากการทานน้ำมันดอกทานตะวันไลโนเลอิกอาจจะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลในร่างกายของนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับโอเมก้า3 เพิ่มมากขึ้น นั่นเอง ดอกทานตะวัน Nusun หรือ Mid-oleic เป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่นิยมผลิตและบริโภคโดยจะนิยมใช้กันเป็นอย่างมากในแถบอเมริกาและแคนาดา โดยดอกทานตะวันชนิดนี้เกิดจากการปรับปรุงพันธ์ดอกทานตะวันให้มีปริมาณ oleic ต่อ linoleic จึงทำให้สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารทั้งทอด ผัด ทำน้ำสัด ได้อีกด้วย จึงทำให้น้ำมันดอกทานตะวันชนิดนี้เป็นน้ำมันที่นิยมนำมารับประทานและใช้ประกอบอาหารเป็นส่วนมาก ดอกทานตะวันที่มี Oleic สูง (High oleic) ถือเป็นน้ำมันดอกทานตะวันที่ดีและยอดเยี่ยมที่สุด […]
“ผิวเฟิร์ม ยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อย” นี่คงเป็นสุดยอดสภาพผิวกายที่ใครหลายคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องด้วยหลายปัจจัยที่ส่งผลให้สภาพผิวของคนเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เสื่อมสภาพตามวัยหรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ผิวขาดความยืนหยุ่นกระชับด้วย แล้วจะมีทางออกหรือวิธีแก้ไข รวมถึงการป้องกันอย่างไรบ้าง เพื่อทวงคืนผิวที่มีสุขภาพดี มีความกระชับกลับคืนมาได้อีกครั้ง เราจะมาเรียนรู้ด้วยกันผ่านบทความนี้ ผิวขาดความยืดหยุ่นคืออะไร ผิวขาดความยืดหยุ่น เป็นสภาวะของผิวที่ขาดคอลลาเจนหรือคอลลาเจนในร่างกายเสื่อมและลดปริมาณลง เนื่องจากว่า คอลลาเจนพบได้มากในชั้นผิวหนัง ในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นผิวหนังของคนเราจะมีคอลลาเจนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูง แต่ต่อมาเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เส้นใยของคอลลาเจนก็จะมีการเสื่อมสภาพลง ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของผิวหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ความสำคัญของคอลลาเจนในชั้นผิว คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้มากที่สุดในร่างกายของคนเรา โดยลักษณะของเส้นใยคอลลาเจนจะคล้ายสายเกลียว ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกรดอะมิโน (Amino acid) หลายชนิดต่อกันเป็นสายยาวหรือที่เรียกว่าโพรลีนและไกลซีน โดยมีหน้าที่เชื่อมเซลล์ต่างๆในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด ให้ยึดติดกันเอาไว้ แต่เมื่อปริมาณของคอลลาเจนลดน้อยหรือเสื่อมสภาพลง จึงทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งกร้าน หยาบกระด้าง ไม่เต่งตึง ผิวมีริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย นอกจากนั้นยังทำให้แผลสมานตัวช้าลง ผมขาดหลุดร่วงง่าย มีอาการปวดตามข้อต่อ ทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันน้อยลง เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราสามารถพบสภาพผิวที่ขาดความยืดหยุ่นได้ในบริเวณ […]
“เซลลูไลท์” หรือ “ผิวเปลือกส้ม” อีกหนึ่งปัญหาความงามเกี่ยวกับความสวยงามของเรือนร่างที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ เพราะสามารถทำให้มองเห็นไขมันสะสม ผิวไม่เรียบเนียน ดูขรุขระอยู่ตามแขน ตามขาได้อย่างชัดเจน เนื่องจากความหนาแน่นของเซลล์ไขมันผิดรูป เราจะมาทำความรู้จักกับเซลล์ไลท์กันให้มากขึ้น ถึงสาเหตุหรือที่มา รวมถึงแนวทางในการกำจัด รักษาและการป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรง เซลลูไลท์คืออะไร เซลลูไลท์ (Cellulite) คือเซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวมาสะสมรวมกันอัดแน่นอยู่อย่างหนาแน่นใต้ชั้นผิวหนังที่มากกว่าปกติ ทำให้ผนังชั้นที่หุ้มเซลล์ผิวเกิดคลื่น บิดเบี้ยว ขรุขระ แลดูตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับผิวเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด ในบางรายมีลักษณะเป็นลอนๆ เนื่องจากมีไขมันสะสมเป็นก้อนผสมรวมกับของเสียและน้ำ ซึ่งในแต่ละก้อนไขมันจะมีเยื่อเหนียวๆหุ้มอยู่ เมื่อมองจากภายนอกทำให้เห็นลอนของไขมันได้อย่างชัดเจน มักพบบริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน ก้นและหน้าท้อง พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย สามารถพบได้ทั้งในคนอ้วนและคนผอม พัฒนาการ 4 ระยะของเซลลูไลท์ เซลลูไลท์มีพัฒนาการในระยะต่างๆตั้งแต่ระดับไม่มากจนถึงระดับที่รักษาได้ยาก ดังต่อไปนี้ ระยะศูนย์ – เป็นระยะที่เริ่มมีพังผืดเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่มากนัก ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ระยะที่ 1 – มองไม่เห็นรอยชัดเจน แต่เมื่อหยิบผิวหนังขึ้นมาจะพบว่ามีรอยบุ๋มเกิดขึ้น ระยะที่ 2 – เริ่มมองเห็นรอยของเซลลูไลท์ได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่ยืนปกติโดยไม่ต้องหยิบผิวหนังขึ้นมา ระยะที่ 3 – สามารถมองเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดเจนที่สุดทั้งในเวลายืนหรือนอน […]
รูปร่างที่ดีสมส่วน เป็นสุดยอดปรารถนาของใครหลายคน โดยเฉพาะสาวๆที่ต้องการหุ่นที่เพอร์เฟ็ค สมส่วน ใส่ชุดไหนก็มีความมั่นใจเต็มร้อย แต่ศัตรูตัวฉกาจที่สามารถทำลายหุ่นสวยๆของคุณก็คือ “ไขมัน” ซึ่งแท้จริงแล้วถ้าบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ไขมันก็มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าหากรับประทานมากจนเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดการสะสมและพอกพูนอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย ทั้งหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือที่เราเรียกกันว่า “ไขมันส่วนเกิน” ไม่เพียงส่งผลกระทบเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ไขมันที่เกินมายังสามารถทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น แท้จริงแล้ว “ไขมันส่วนเกิน”มาจากไหน จะมีวิธีจัดการและป้องกันอย่างไร ที่ไม่ส่งผลเสียหายต่อสุขภาพโดยรวมและมีรูปร่างที่ดี ผิวเรียบเนียนกระชับมากขึ้น ลักษณะของเนื้อเยื่อไขมัน โดยทั่วไปแล้ว ในร่างกายของเรา มีลักษณะเนื้อเยื่อไขมันอยู่ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ ไขมันสีน้ำตาล (BROWN ADIPOSE TISSUE; BAT) เป็นไขมันที่พบได้มากในวัยเด็ก แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ก็จะมีปริมาณลดลง เป็นไขมันที่มีธาตุเหล็กเป็นจำนวนมาก ช่วยในการเผาผลาญไขมันให้กลายเป็นพลังงานความร้อน เพื่อรักษาสมดุลอุณหภูมิในร่างกาย ไขมันสีขาว(WHITE ADIPOSE TISSUE; WAT) ทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมพลังงาน เพื่อร่างกายสามารถนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน ประเภทของไขมันที่สะสมในร่างกาย ตามธรรมชาติ ในร่างกายของคนเรา จะมีไขมันที่สะสมเอาไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายอยู่ […]
แคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารให้ความเผ็ดที่อยู่ในพริกมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและลดอาการปวดเมื่อยได้ โดยในวงการแพทย์นั้นยังได้นำสารที่ให้ความเผ็ดนี้มาใช้ในยาขับลม แก้ขัดตามข้อ กระตุ้นน้ำย่อยทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย เนื่องจากในพริกนั้นมีทั้งวิตามินเอ ซี และโปรตีนต่างๆ ซึ่งพริกก็เป็นอาหารที่เราต่างพบเจอในอาหารที่รับประทานเป็นประจำอยู่แล้วโดยพริกถือเป็นพืชที่นิยมปลูกกันอย่างมาก ฉะนั้นแล้วเราจะมาทำความศึกษาเกี่ยวกับพริกกันมากขึ้นว่านอกจะให้ความเผ็ดแล้วยังให้ประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง Capsaicin ในพริก คืออะไร โดยพริกเป็นผักที่นิยมนำประกอบอาหารในหลากหลายประเภทที่ถือว่าขาดไม่ได้เลยทีเดียวอีกทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรมักนิยมปลูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในพริกนั้นจะมีสารที่ให้ความเผ็ดชื่อว่า แคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติจำพวกอัลคาลอยด์ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทนทานต่อความร้อนและเย็ยจึงทำให้ไม่ว่าจะนำไปต้มหรือแช่เย็นก็ยังคงความเผ็ดไว้ได้อยู่ โดย แคปไซซิน Capsaicin นั้นจะอยู่ภายในผลหรือภายในเม็ดพริกซึ่งจะอยู่ในเยื่อแกนกลางสีขาวหรือ รก (placenta) แคปไซซิน (Capsaicin) พบได้มากที่สุดในบริเวณไหนของพริก โดยแคปไซซินจะกระจายอยู่ทุกส่วนของพริก แต่จะพบมากที่สุดคือส่วนของรกพริกหรือแกนกลางสีขาวนั่นเอง โดยปริมาณของแคปไซซินนั้นจะขึ้นอยู่แต่ละสายพันธุ์และระยะการสุกของพริก นอกจากนั้นแล้วสารแคปไซซินก็ยังพบได้ในพืชผักชนิดอื่นๆ ที่ให้รสชาติเผ็ดร้อนได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น ขิง กระเทียม หอมหัวใหญ่ พริกไทย เป็นต้น ยิ่งพืชผักชนิดนั้นมีความเผ็ดมากแสดงว่ามีสารแคปไซซินอยู่มากนั่นเอง ประโยชน์ของ Capsaicin ที่ให้มากกว่าความเผ็ด นอกจากสารแคปไซซินจะโดดเด่นในเรื่องของความเผ็ดร้อนแล้ว ก็ยังให้คุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ในทางการแพทย์ที่จะนำไปเป็นส่วนผสมในตัวยาต่างๆ หรือครีม เจลที่ลดอาการปวด เป็นต้น โดยประโยชน์ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ซึ่งสารแคปไซซินจะให้ประโยชน์ ดังนี้ ช่วยให้มีความอยากอาหารมากขึ้น […]
คาเฟอีน (caffeine) คือ สารแซนทีนอัลคาลอยด์ ที่มักพบได้ในเครื่องดื่มหลายชิด ไม่ว่าจะเป็น โคล่า โกโก้ ช็อคโกแลตหรือชา กาแฟ โดยในเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย ซึ่งสรรพคุณของคาเฟอีนนั้นจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและลดอาการง่วง จึงทำให้ผู้คนนิยมดื่มกันในช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเป่า ซึ่งในบางคนหากไม่ได้รับคาเฟอีนในช่วงเช้าก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ใจสั่น มือสั่น ปวดหัวซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล นอกจากนั้นแล้วคาเฟอีนยังแบ่งเป็น 2 ชนิดอีกด้วย โดยเป็น คาเฟอีนตามธรรมชาติ และคาเฟอีนสังเคราะห์ ดังนั้นแล้วเราจึงมาทำความรู้จักกับคาเฟอีนกันให้มากขึ้นเพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากการทานคาเฟอีนเพื่อสุขภาพและร่างกายที่ดีของเรากัน ชนิดของ คาเฟอีน มีกี่ประเภท ในหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าคาเฟอีนในปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท ซึ่งบางคนอาจจะเคยทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้ง 2 ชนิดผสมอยู่แต่ยังไม่รู้ตัวก็ได้ โดยคาเฟอีนทั้ง 2 ชนิด มีดังนี้ ประโยชน์ของ คาเฟอีน (caffeine) ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย โดยสรรพคุณของคาเฟอีน (caffeine) นอกจะช่วยในเรื่องของการตื่นตัว เนื่องจากคาเฟอีนจะเข้าไปบล็อก อะดีโนซิน (adenosine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกง่วง อ่อนเพลีย จึงทำให้เราง่วงและไม่อยากทำอะไรนั่นเอง แต่นอกจากนั้นแล้วคาเฟอีนก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย ดังนี้ สมอง […]
Arnica eatract เป็นพืชสมุนไพรที่มีดอกสีเหลือง ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเทือกเขายุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือและเอเชียโดยเป็ยพืชตระกูลดอกทานตะวัน (Asteracear) ซึ่งในคำว่า “Arinica” เป็นภาษากรีกที่มีความหมายถึง ลูกแกะ โยสื่อถึงความนัยว่าความอ่อนนุ่มและอ่อนโยนนั่นเอง โดย Arnica eatract เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการช่วยฆ่าเชื้อโรคและช่วยการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ โดย Arnica eatract เป็นที่นิยมอย่างมากในการบรรเทาอาการปวดฟกช้ำหรืออักเสบ อีกทั้งอาร์นิก้ายังช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ anti-aging และช่วยลดอาการบวม ทั้งช่วยดูแลผิวไม่ให้เกิดการละคายเคืองหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ก็จะช่วยลดการแตกลาย Arnica eatract ที่ใครหลายคนน่าจะยังไม่รู้จัก โดย Arnica eatract เป็นพืชสมุนไพรตระกูลดอกทานตะวัน โดยดอกอาร์นิก้านั้นมีประวัติที่มีประวัติในการนำออกมาใช้รักษาเมื่อศตวรรษที่ 15 โดยผู้คนในสมัยนั้นมักจะนำ Arnica eatract มาเป็นยาทาเพื่อลดอาการเคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ โรคข้ออักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย ซึ่งอาร์นิก้าจะมีสารที่ช่วยลดอาการบวมได้จากการบาดเจ็บของผิวหนังทั้งช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นอีกด้วย ซึ่ง Arnica eatract เป็นที่นิยมอย่างมากในแถบยุโรปโดยจะมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบครีม เจล โลชั่น แม้ว่าในไทยจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักแต่ในต่างประเทศนั้นจะนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในทางการแพทย์ซึ่งผู้ที่ผ่าตัดศัลยกรรมนั้นทางศัลยแพทย์จะแนะนำให้มีการใช้ Arnica eatract เพื่อลดอาการบวมแดงและรอยเขียวช้ำจากการทำศัลยกรรมทั้งยังรวมไปถึงการทำ Botox Filler ด้วย ดังนั้นแล้ว […]
L-Carnitine (แอลคาร์นิทิน) ชื่อที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นตัวช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก ซึ่งในความเป็นจริงแอลคาร์นิทินเป็นสารในร่างกายที่ช่วยลดมวลไขมันและเพิ่มเป็นกล้ามเนื้อแทน อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพดี จึงทำให้แอลคาร์นิทินเป็นอาหารเสริมที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่หากรับประทานอย่างถูกต้องและเหมาะสมก็จะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากแอลคาร์นิทินมากขึ้น ดังนั้นแล้วเราจะทำความรู้จักกับแอลคาร์นิทินให้ลึกขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารที่มีประโยชน์อย่างเหมาะสม L-Carnitine (แอลคาร์นิทิน) คืออะไร แอลคาร์นิทีน (L-carnitine) หรือ คาร์นิทีน (carnitine) เป็นสารที่สร้างขึ้นได้เองในร่างกายจากตับและไตแล้วนำไปเก็บในร่างกายบริเวณกล้ามเนื้อ โดยแอลคาร์นิทินนั้นเป็นสารที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนสองชนิด คือ ไลซีน (Lysine) กับ เมไทโอนีน (Methionine) โดยร่างกายจะดึงเอาไขมันเข้าไปสร้างเป็นพลังงานแทน จึงทำให้แอลคาร์นิทีนมีความสำคัญในการสลายกรดไขมันในร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งแอลคาร์นิทินนั้นเป็นสารที่สามารถผลิตได้เองหรือได้จากการทานอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ปลา อาหารจำพวกกลุ่มเนื้อแดง ถั่ว อะโวคาโด เป็นต้น ดังนั้นแล้วเราจะมาทำความเข้าใจกับไลซีนและเมไทโอนีนกันมากขึ้น ไลซีน (Lysine) และ เมไทโอนีน (Methionine) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ไลซีน (Lysine) และ เมไทโอนีน (Methionine) เป็นกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของคาร์นิทินที่มีอยู่ในแอลคาร์นิทิน โดยกรดอะมิโนทั้งสองมีความสำคัญ ดังนี้ ไลซีน (Lysine) เป็นกรดอะมิโนที่มีความสำคัญในการสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยไลซีนจะช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมนและเอมไซม์ต่างๆ […]
กู้หน้าหมองคล้ำดำเสีย ให้กลับมากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ “หน้าดำ” อีกหนึ่งปัญหาผิวที่มักเป็นปัญหากวนใจบรรดาหนุ่มๆสาวๆอยู่ไม่น้อย และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล ที่ไม่เพียงแสงแดดเท่านั้นที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าดำหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ แต่รวมถึงสิ่งแวดล้อมและปัจจัยต่างๆที่ประกอบรวมกันทำให้เกิดปัญหาผิวขึ้นได้ หน้าดำ หมองคล้ำมีสาเหตุมาจากอะไร และเราจะสามารถปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำได้อย่างไร เพื่อกู้ผิวหน้าให้กลับมากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง หน้าดำ หมองคล้ำคืออะไร หน้าดำหมองคล้ำ เป็นลักษณะอาการของผิวหน้าที่ขาดความกระจ่างใส มีความหมองคล้ำของผิว นอกจากนั้นยังมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ผิวไม่สดใส แห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีและถูกต้อง ก็สามารถนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ เหล่านี้เป็นต้น สาเหตุของหน้าดำหมองคล้ำ หน้าดำ หมองคล้ำสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเม็ดสีผิว และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวไม่สดใส ดังต่อไปนี้ แสงแดด การที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดที่ร้อนจ้าเป็นเวลานานเกินไป ทำให้เกิดผลเสียและเป็นอันตรายต่อผิวได้ เพราะรังสีต่างๆที่อยู่ในแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA,UVB รวมถึงรังสีอินฟาเรด จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและเส้นใยใต้ผิวหรือที่เรียกว่าอีลาสติน(Elastin) ทำให้ผิวไม่แข็งแรง หย่อนคล้อย เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย ขาดความกระชับเต่งตึง ผิวหยาบกร้าน หน้าหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน สภาพอากาศ ไม่เพียงอากาศที่ร้อนเท่านั้น ที่เป็นตัวการที่ทำให้หน้าดำ หมองคล้ำ […]