ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการรักษาฝ้า เราต้องยอมรับการรักษาฝ้านั้น ในปัจจุบันยังมีวิธีการรักษาแบบไหนที่การันตีว่ารักษาฝ้าแล้วจะหายถาวร แต่สำหรับใครที่รักษาแบบหวังผลระยะยาว ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมที่มีสารสกัดตัวช่วยในเรื่องของการรักษาฝ้า ท่านก็จะมีเกราะกำบังฝนเรื่องของการเกิดฝ้าในอนาคต แล้วสารสกัดเหล่านั้นที่เหล่าครีมฝ้าทั้งหลายเลือกใช้มีอะไรบ้าง แล้วสารเหล่านั้นส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร และนอกจากนั้นสารเหล่านั้นที่ครีมรักษาฝ้านำมาใช้ ได้รับการรับจากแพทย์หรือไหม วันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องนี้ไปพร้อมกัน และเราจะได้เผยใบหน้าไร้ฝ้าและรู้จักวิธีป้องกันจากฝ้าตัวร้ายทั้งหลายได้ด้วยครีมกระปุกที่เราสามารถเชื่อถือได้และได้รับการรับรองจากองค์กร อย. สารสกัดที่นิยมในส่วนผสมของครีมเพื่อใช้ใน การรักษาฝ้าด้วยครีม หากว่าคุณเป็นเลือกซื้อครีมมารักษาฝ้าด้วยตัวเอง สำหรับส่วนประหลักที่ท่านควรทราบในผลิตภัณฑ์นั้นว่ามี ส่วนผสมอะไรบ้างและส่วนผสมเหล่านั้นจะช่วยทำหน้าที่อะไรที่จะทำให้ฝ้าคุณหายและอาจจะไม่กลับมาอีก มาดูกัน กรดโคจิก Arbutin วิตามินซีและอนุพันธ์ สารสกัดชะเอม N-acetyl-4-cysteaminylphenol Hesperidin Niacinamide Polyphenols Ellagic acid สารสกัดจากปอสา สารสกัดจากใบหม่อน สารสกัดจากว่านหางจระเข้ คุณสมบัติของการแต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง หากให้พูดถึงคุณสมบัติการทำงานของสารต่างๆ ที่ได้กล่าวมานั้นทำหน้าที่อะไรบ้าง และช่วยลดฝ้าได้อย่างไร และสารเหล่านั้นมีผลต่อผิวหนังหรือไม่ เรามาเริ่มกันที่สารตัวแรกอย่างสาร กรดโคจิก สำหรับกรดโคจิก จะเป็นสารตัวแรกๆ ที่แบร์นครีมที่ผลิตครีมรักษาหลายๆ แบร์นเลือกใส่ส่วนผสมของสารตัวนี้ เพราะเนื่องด้วยคุณประโยชน์ กรดโคจิก เมื่อได้นำมาใช้กับผิวพรรณ จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ Stimulates new skin cells และยังทำหน้าที่ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว antioxidants และยังมีหน้าที่คอยที่จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ช่วยให้ผิวขาวใส […]
ข้อจำกัดในการใช้เซรั่มวิตามินซี หลายคนจะรู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้วการใช้เซรั่มวิตามินซี นั้นมันก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือน ใช่ว่าตัวมันจะสามารถที่จะใช้ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์ตัวไหน ก็ได้ เพราะว่าการใช้ร่วมกันกับผลิตภัณฑ์บางชนิด อาจจะเข้าไปทำลายการทำงานของเจ้า เซรั่มวิตามินซีได้ และจะมี ผลิตภัณฑ์ประเภทไหนกันบ้าง ที่ไม่ควรนำมาใช้กับเซรั่มวิตามินซี รู้ก่อนสวยก่อนต้องที่นี่ Vitamin C ไม่ควรใช่ร่วมกับกับผลิตภัณฑ์ประเภท Benzoyl Peroxide : ด้วยกลไกการทำงานของ Benzac ที่มีการออกฤทธิ์ของยา BP ที่มีการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว และเข้าไปลดปริมาณกรดไขมันบริเวณรูขุมขนให้น้อยลง ซึ่งจุกนี้ต้องบอกเลยว่า อาจจะก่อให้การเกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ เมื่อเรานั้นใช่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี มันจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาอ็อกซิเดชั่น เพราะว่าการทำงานของวิตามินซีจะเกิดการเปลี่ยนสีและเป็นไปได้ที่จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองตามมานั่นเอง Vitamin C ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA : เพราะว่าหารทำงานของ AHA และ BHA มีความเป็นกรดอ่อนๆ และมีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และมันก็ดันมีการทำหน้าที่เหมือนกับเจ้าวิตามินซี เพราะฉะนั้นหากว่าเราใช้สองตัวนี้พร้อมกันก็กลายเป็นโทษ เพราะว่าการที่เรานั้น ทำการผลัดเซลล์ผิว และต่อด้วยวิตามินซี ยิ่งเป็นการทำลายผิวของเรามากขึ้นฉะนั้นแล้ว หากว่าท่านต้องการที่จะปรับสีผิวควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง AHA/BHA กับ วิตามินซี Vitamin C ไม่ควรใช้กับ […]
เซรั่มวิตามินซี แน่นอนว่าหากว่าเรานั้นพูดถึง วิตามินซี เราก็จะหนึ่งถึง เรื่องขาว ฉ่ำวาว ผิวใส และผิวมีออร่า หากว่าเรานั้นเป็นคนที่มีวิตามินซีในปริมาณที่พอควรต่อร่างกายที่เราต้องการ และสำหรับเครื่องดูแลผิวอย่างเครื่องสำอาง และสกินแคร์ ในปัจจุบันนั้นก็ต้องบอกเลยว่า มีหลากหลายแบร์นที่ได้ผลิตออกมาพร้อมกับบรรยายสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และสำหรับการเลือกสรรผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เราก็จะเลือกจากจุดเด่น ของผลิตภัณฑ์ และดูว่ามีการทำงานของ Active Ingredient หรือไม่ และด้วยประโยชน์ต่างๆ ของวิตามินซีที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่างกายเเละผิวหน้า คุณค่าของส่วนผสมในวิตามินซีที่ช่วยในเรื่องการดูเเลผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการช่วยในเรื่องของการต้านเรื่องอนุมูลอิสระที่จะทำให้กระชับผิวพร้อมทั้งยังช่วยเรื่องผิวขาวใสและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว และนั่นก็ทำให้เซรั่มหรือว่า Skincare ต่างที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก และก็ได้กระแสตอบรับให้เป็นไอเท็มหลักๆ ในการบำรุงผิวหน้าของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือว่าหนุ่มๆ ที่หันมาดูแลตัวเองก็เช่นกัน ถึงวิตามินซีจะเป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการ แต่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง จำเป็นจะต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร อย่างพวกผัก ผลไม้ หรือวิตามินเสริมต่างๆ และเมื่อเรารับ Vitamin C ในปริมาณที่สมควร ในปริมาณที่ร่างกายต้องการใช้ในแต่ละวัน วิตามินซีเหล่านั้นก็จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และช่วยในเรื่องผิวพรรณให้กระจ่างใส สวยงามเปล่งปลั่งได้อีกด้วย บอกเลยว่าคุณประโยชน์ของวิตามินซีนั้น ช่างล้นหลามจริงๆ คุณประโยชน์เน้นๆของวิตามินซี ที่ส่งผลกับผิวพรรณ ที่คุณต้องทำความเข้าใจ ความโดดเด่นเรื่องของคุณสมบัติของ วิตามินซี […]
หากพูดถึงความสวยความงาม เราก็คงคิดถึงเรื่องของตัวช่วยประทินผิว อย่างครีม เซรั่ม หรือจะเป็นการทำสปาอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับทางเลือกที่จะทำให้ผิวของเราสวยนั่น สิ่งที่ง่าย และสามารถซื้อได้ทุกครั้ง นั่นก็คือ เซรั่ม ตัวช่วยที่เข้าถึงชั้นผิวได้ล้ำลึกและเห็นผลไวที่สุด และในปัจจุบัน เหล่าหนุ่มๆ สาวๆ ก็กันมาดูแลตัวเองในส่วนนี้ แล้วจะมีเซรั่มตัวไหนที่เขาเหล่านั้นนิยมกันบ้าง มาดูกัน คุณสมบัติของเซรั่ม ที่หลายๆ คนเลือกใช้ หากพูดถึงเรื่องเซรั่ม ช่วยดูแลผิว หลายๆ คนก็คงคิดถึงเซรั่มวิตามินซี ที่หลายๆ คนเลือกมาใช้ เพราะว่า วิตามินซี จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยเรื่องของการบำรุงและฟื้นฟูผิวหนังที่ประกอบด้วยสารสกัดเข้มข้น ที่จะเข้าไปสู่ชั้นผิวภายในของเราโดยตรง และด้วยคุณสมบัติของวิตามินซีจะเข้ามาช่วยทำการต่อต้านอนุมูลอิสระของผิวของเรา และโดยทั่วไปแล้วเซรั่มวิตามินซีจะเบา สามารถซึมลึกลงสู่ผิวหนังได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก และไม่ทำให้เรานั้นรู้สึกว่าเหนียวเหนอะหนะ เราจะสบายหน้าเมื่อเราทาลงไปที่ใบหน้า และเซรั่มเหล่านี้ก็จะไม่ส่งผลให้เกิดคราบขาว หรือว่ามีความมันส่วนเกินบนใบหน้าของเราอีกด้วย คุณประโยชน์เซรั่มวิตามินซี ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ สำหรับวิตามินซี อย่างที่เราดูกันดีอยู่แล้ว มันจะเข้ามาช่วยในเรื่องของผิวใสผิวสวย ช่วยให้ผิวขาว สว่าง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และด้วยความที่วิตามินซีมีอนุภาคเป็นกรด จึงเข้ามาทำหน้าที่ช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใสได้ โดยวิตามินซีจะเข้าไปช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้ผิวแลดูสว่างมากขึ้น สามารถปรับผิวให้ขาวขึ้นอีกขั้นได้ ซึ่งการปรับสีผิวให้ขาวขึ้นของวิตามินซีจะทำด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย จึงช่วยให้การปรับสีผิวเป็นแบบขาวอย่างเป็นธรรมชาติ และยังปลอดภัยต่อและเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวที่เลือกใช้ […]
แน่นอนว่าปัจจุบันไทยเรานั้นมีมลภาวะทางอากาศที่เริ่มแย่ขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมืองกรุง ที่ต้องบอกเลยว่าเมื่อเรานั้นต้องเดินทางออกจากบ้านในแต่ละครั้ง เราก็ต้องไปต่อสู้กับมลภาวะทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 หรือว่าจะเป็นในเรื่องของมลพิษ พร้อมทั้งยังมีในเรื่องของควันต่างๆ ที่เกิดจากรถยนต์ต่างๆ และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวของเราต้องสัมผัส และนอกจากมลภาวะเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องของแสงแดดที่ร้อนจัด ที่ปริมาณความร้อนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ผิวของเรานั้นได้รับผลกระทบเข้าเต็มๆ ไม่ว่าจะผิวที่ใบหน้า หรือว่าผิวตามร่างกาย และวันนี้เราจะมาทำการแก้ไขและหาแนวทางการดูแลตัวเองพร้อมสร้างเกราะป้องกันจาก ผิวคลํ้าเสียจากรังสี UV แก้ปัญหาอย่างไร มาดูกัน ทำไม UV ถึงทำร้ายผิว? ก่อนที่เราจะไปทำการแก้ไขและสร้างแนวทางการป้องกันผิวจากรังสี UV ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจเรื่องของ UV ให้ดีเสียก่อน ว่าแท้จริงแล้ว รังสี UV คืออะไร และมันทำงานอย่างไร และทำไมมันถึงได้ส่งผลเสียต่อผิวหนังของเรา สำหรับรังสี UV หรือ Ultraviolet แท้จริงแล้วนั้นเป็นรังสีที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ ไม่ใช่ความร้อนหรือแสงแดด ต่อให้ไม่เห็นแสงแดด เราก็อาจโดน UV ทำร้ายได้ แถมยังก่อปัญหาผิวหน้าผู้ชายหลายอย่าง ทั้งสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ สาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย และยังทำให้ผิวของเราแสบไหม้ นำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย รังสี UV […]
“ฝ้า” ปัญหาโลกแตกของสาว ๆ จำนวนมาก ยิ่งใครอายุมากขึ้นก็มักมีปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ นำมาซึ่งผลเสียต่อผิวหน้าทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องของปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ยาก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุแท้จริงเหล่านี้ย่อมช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไปจนถึงค้นหาแนวทางอันเหมาะสมเพื่อบรรเทาอาการ หรือหยุดไม่ให้เกิดความอันตรายชนิดลุกลามไปมากกว่าเดิม พร้อมทั้งยังขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่มีส่วนช่วยลดปัญหาฝ้าที่เกิดขึ้นให้จางลงด้วย เช็กลิสต์ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า คำว่า “ปัจจัยภายใน” หมายถึง ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากด้านในของร่างกายอันมีสาเหตุมาจากหลายสิ่ง ไม่สามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามทุกคนมีสิทธิ์ลดความเสี่ยงจากสาเหตุเหล่านี้ให้น้อยลงได้ ซึ่งปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้า ประกอบด้วย พันธุกรรมของร่างกาย หากอธิบายแบบเข้าใจง่ายคือ บ้านไหนที่มีคนเป็นฝ้าแบบไม่มีสาเหตุอยู่ก่อนแล้ว ลูกหลานก็มีสิทธิ์เกิดฝ้าได้เช่นกัน ซึ่งจากการศึกษาในหลายงานวิจัยก็พบผลลัพธ์ไปในทิศทางใกล้เคียงกันนั่นคือ ฝ้ามีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมจริง และเอื้อให้เด็กที่เกิดใหม่มีโอกาสเป็นได้ไม่แพ้รุ่นพ่อแม่ เฉลี่ยแล้วราว 30-50% เลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นคู่ฝาแฝดโอกาสจะมากกว่าเด็กที่เกิดคนเดียว ปัจจุบันยังไม่สามารถค้นหายีนที่จะช่วยควบคุมในเรื่องนี้ได้ ฮอร์โมนในร่างกาย ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้าลำดับต่อมาเป็นเรื่องของฮอร์โมนภายในร่างกาย ซึ่งจากงานวิจัยก็พบอีกเช่นกันว่าฝ้ามีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนไปในทิศทางเดียวกัน ถึงขนาด 90% ของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็นฝ้ามีสาเหตุจากฮอร์โมน โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ช่วงไตรมาส 2 – 3 โอกาสเกิดฝ้าเพราะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงมีความเป็นไปได้สูงมาก ยังไม่นับรวมกับผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ส่งผลให้ฝ้ามีระดับความเข้มข้นสูงขึ้นไปอีกและการรักษายากตามด้วยเช่นกัน ความเครียดสะสม ความเครียดไม่เคยมีสิ่งดี ๆ เลย […]
Tranexamic acid คืออะไร Tranexamic acid เป็นสารที่สร้างขึ้นเลียนแบบกรดอะมิโนที่ชื่อว่า ไลซีน โดยจะใช้ในทางการแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาการตกเลือด ภาวะเลือดออกมากหรือเลือดออกไม่หยุด โดยตัวยาจะนั้นจะออกฤทธิ์ในการยับยั้งการสลายตัวของลิ่มเลือด จึงทำให้อยู่ในหมวดของยาที่ช่วยในเรื่องของการทำให้เลือดแข็งตัวซึ่งในทางการแพทย์นั้นจะทำการฉีดเข้าเส้นหรือทานเพื่อรักษาอาการ แต่ทั้งนี้แล้วได้มีการทดลองนำ Tranexamic acid มาทาบนผิวพบว่ากรดทรานซามิกมีคุณสมบัติที่สามารถลดการสร้างเม็ดสีได้ จึงทำให้มีการนำมาใช้แบบ Off- label ที่มีสรรพคุณในการช่วยลดรอยดำ ลดฝ้าและยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสจึงได้นำ Tranexamic acid จะใช้ในการรักษาฝ้าร่วมกับยาและเทคนิคอื่นๆ นั่นเอง ประโยชน์ในการใช้ Tranexamic acid สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Tranexamic acid ดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นกรดที่อาจก๋ให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งหากมีการใช้อย่างถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสมก็จะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน โดยประโยชน์ของการใช้ Tranexamic acid มีดังนี้ ข้อดีในทางการแพทย์ กรดทรานซามิกจะช่วยให้ระบบการแข็งตัวของเลือดแข็งตัวและหยุดไหลในคนไข้ที่มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก ในกรดทรานซามิกจะมี ไลซีน ตัวช่วยที่จะทำให้คุณมีผิวพรรณที่ขาวใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ก่อให้เกิดผิวอักเสบ อันนำไปสู่สีผิวหมองคล้ำ ช่วยยับยั้งการหลั่ง Arachidonic acid และการสร้าง prostaglandins จึงทำให้การทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ที่เป็นเอนไซม์ในการสร้างเม็ดสีลดลง […]
“ฝ้า” แค่ได้ยินคำนี้ก็ทำเอาหลายคนรู้สึกกังวลใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของตนเอง อย่างไรก็ตามนอกจากภายในร่างกายของแต่ละบุคคลแล้วก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดฝ้าได้หลายกรณีเช่นกัน การทำความเข้าใจเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหา รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอันก่อให้เกิดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างยิ่ง ลองมาศึกษาข้อมูลเหล่านี้เพื่อการใช้ชีวิตเหมาะสม ไม่เจอปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ กวนใจให้ต้องคิดมากใด ๆ ทั้งสิ้น แสงแดด ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดฝ้าอันดับ 1 หากใครสงสัยว่าปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดฝ้ามากสุดคืออะไร? คำตอบคงหนีไม่พ้น “แสงแดด” ที่สาดส่องลงมาจากดวงอาทิตย์กระทั่งทำให้เกิด “ฝ้าแดด” ซึ่งมีสาเหตุจากผิวหน้าได้รับรังสี UVA และ UVB ในปริมาณมาก กระทั่งเกิดสารอนุมูลอิสระ เม็ดสีเมลานินบริเวณดังกล่าวถูกผลิตขึ้นมาเยอะกว่าปกติ ส่งผลทำให้เกิดฝ้าแดดโดยจุดสังเกตเด่นชัดจะเป็นรอยไหม้สีน้ำตาลคล้ำ ไม่ก็ออกแดง หรือดำ บางรายเป็นสีเทาอมม่วง มีขอบริมชัดเจน ฝ้าประเภทนี้มีโอกาสลุกลามต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี โดยสีจะเข้มขึ้นและกินพื้นที่บนใบหน้าแบบไม่สิ้นสุด มีทั้งแบบฝ้าตื้น (ฝ้าบริเวณหนังกำพร้า) กับฝ้าลึก (ฝ้าบริเวณหนังแท้) ถือเป็นอาการที่รักษาได้ยากมาก ส่วนมากแล้วมักทำได้แค่ให้ความผิดปกติแลดูจางลงเท่านั้น ใครที่รู้สึกว่าตนเองเป็นฝ้าแดดแล้วยังตากแดดต่อเนื่องอย่านิ่งนอนใจแล้วคิดว่าพอทายาก็อาการดีขึ้น เหตุเพราะความรุนแรงไม่ได้จบเพียงเท่านี้แต่มีสิทธิ์ลุกลามถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว การพยายามหากวิธีแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุหลักจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยขอแนะนำเบื้องต้นสำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีเหล่านี้เลย หลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าปะทะกับแสงแดดโดยตรง ยิ่งถ้าเป็นช่วงตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง 4 โมงเย็น […]
สำหรับ Saicylic acid หรือ กรดซาลิซิลิก ถือเป็นส่วนผสมยอดฮิตในสกินแกร์เลยก็ว่าได้เพราะ Saicylic acid มีคุณสมบัติในการป้องกันสิวและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว อีกทั้งยังช่วยขจัดไขมันที่อุดตันในรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอีกด้วย ทำให้ Saicylic acid เป็นที่นิยมในการนำมาผสมกับสกินแคร์หลายประเภทหรือทรีตเม้นต์เฉพาะจุด เซรั่ม ครีม เป็นต้น ดังนั้นแล้วเราจะไปทำความรู้จักกับกรดซาลิซิลิกกันมากขึ้นว่าคืออะไรแบะมีประโยชน์อะไรกันบ้าง Saicylic acid คืออะไร Saicylic acid นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเปลือกต้นหลิวจีน (willow) ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ ที่สามารถใช้ได้กับสกินแคร์โดย Saicylic acid เป็นกรดประเภท beta hydroxy acid (BHA) ที่สามารถซึมเข้าสู้ผิวได้และยังช่วยในการสลายน้ำมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนทำให้สามารถลดการอักเสบและป้องกันการเกิดการอุดตันอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วยังช่วยในการลดค่า pH ของผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว อีกทั้งยังใช้รักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคหนังเกล็ดปลา ที่จะช่วยเพิ่มจำนวนของผิวหนังที่ผิดปกติ ข้อดีของการใช้ Saicylic acid กรดซาลิซิลิก เป็นกรด BHA ที่อ่อนโยนกับสภาพผิวและยังสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก ด้วยคุณสมบัติที่สามารถละลายในไขมันได้ดีจึงทำให้สามารถซึมเข้าสู้ผิวได้ง่าย ดังนั้นแล้วเราจะมาดูข้อดีของการใช้ Saicylic acid ดังนี้ […]
ปกติแล้วสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดฝ้ามักมาจากผิวหน้า ผิวกายสัมผัสกับรังสียูวีที่มากกับแสงแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้เม็ดสีเมลานินถูกกระตุ้นแล้วกระจายไปบนผิวหนังตามจุดต่าง ๆ เกิดเป็นรอยจุดดำ ๆ ขณะที่ปัจจัยทางพันธุกรรม หรือฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้มีฝ้าได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้คือมีบางโรคที่ทำให้เกิดฝ้าได้ด้วย ซึ่งถือเป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งจากอาการของโรคเหล่านั้น มาศึกษาข้อมูลเพื่อให้รู้ทัน รีบเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ใบหน้าไม่มีฝ้ากวนใจ ภาวะขาดไทรอยด์ โรคที่ทำให้เกิดฝ้าได้มากที่สุด นี่คือโรคที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายและพบบ่อยมากที่สุด ภาวะขาดไทรอยด์ หรือจะเรียก ภาวะพร่องฮฮร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) ก็ได้เช่นกัน เกิดจากต่อมไทรอยด์ทำการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้ไม่พอกับการใช้งานของร่างกาย สาเหตุสำคัญนอกจากต่อไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็ยังอาจมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ป่วยด้วยโรค Hashimoto’s thyroiditis หรือโรคที่จัดอยู่ในกลุ่มภูมิคุ้มกันทำลายตนเองประเภทหนึ่ง มักเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายมีภาวะขาดไทรอยด์ เมื่อภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ผลิต Antibody ออกมามากเกินไปจนเนื้อเยื่อบางตัวรวมถึงไทรอยด์ถูกทำลาย เคยผ่าตัดรักษาต่อมไทรอยด์มาก่อน เคยได้รับการรักษาภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์แล้วร่างกายมีการตอบสนองมากเกินจำเป็น ได้รับการฉายรังสีจากการป่วยโรคมะเร็งลำคอ หรือบริเวณศีรษะ ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด เช่น Lithium ซึ่งเป็นยาในกลุ่มรักษาทางจิตเวช ป่วยด้วยโรคที่เป็นตั้งแต่กำเนิด อาทิ โรคต่อมใต้สมองพิทูอิตารี (Pituitary disorder) สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคนี้และมีผลกระทบในเรื่องของฝ้าบนใบหน้าคือผู้หญิงที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือคนที่บุคคลในบ้านเคยมีประวัติป่วยด้วยโรคไทรอยด์ ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง โดยหนึ่งในอาการสำคัญของโรคภาวะขาดไทรอยด์คือ การเกิดฝ้าบริเวณใบหน้ามากกว่าคนปกติถึง 4 […]